เปลือกจงไปให้พ้น
ชินดงย็อบ / พ.ศ. 2510
เปลือกจงไปให้พ้น
เมษายน*ก็เอาแต่เนื้อ
เปลือกจงไปให้พ้น
ท่ากมนารูในปีแห่งดงฮัก**เอาแต่เสียงดังเล้งนั้น
เปลือกจงไปให้พ้น
ดังนั้นเปลือกจงไปให้พ้นอีกที
ที่นี่จะมีอาซาดัลกับอาซานยอ***ที่เปิดหน้าอก
และจุดนั้นให้เห็น
คำนับกัน
หน้าสถานที่จัดพิธีแต่งงานแห่งความเป็นกลาง
โดยเชิดความเขินอาย
เปลือกจงไปให้พ้น
จากฮัลลาถึงแพกดู
เอาแต่หน้าอกดินอันหอม
ก้อนโลหะทั้งหมดจงไปให้พ้น
*การปฏิวัติ 19 เมษายน(พ. ศ. 2503)
**การปฏิวัติเกษตรกรรมดงฮัก(พ.ศ. 2437-2438)
***จากตำนานเจดีย์หิน 3 ชั้นวัดพุลกุกซา
ประชาชนเกาหลีประสบความสำเร็จในการไล่เผด็จการออกด้วยการปฏิวัติ 19 เมษายนในปีพ. ศ. 2503 แต่ในปีต่อมาพัคจองฮีทำรัฐประหาร 16 พฤษภาคมให้ระบอบเผด็จการกลับมา คำว่า 'เมษายน' ซึ่งปรากฏในบทแรกของบทกวีนี้ก็หมายถึงการปฏิวัตินี้ แล้วช่วงนี้เป็นช่วงที่ประเทศมหาอำนาจมาแบ่งเกาหลีออกเป็นสองส่วนเนื่องจากสงครามเย็นด้วย เพราะฉะนั้น 'เปลือก' ที่กวีต้องการขจัดไปในบทกวีนี้สามารถตีความได้มากกว่าหนึ่งความหมายเช่นลัทธิจักรวรรดินิยมหรือระบอบเผด็จการ นอกจากนี้การแต่งงานระหว่างอาซาดัลกับอาซานยอยังสะท้อนความปรารถนาที่จะการรวมสองเกาหลี
กวีชินดงย็อบเกิดในโชซอนในช่วงที่เป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นในปีพ.ศ. 2473 แม่ของเขาแอบสอนภาษาเกาหลีแม้จะมีฐานะยากจนด้วยการซื้อหนังสือและแปรง หลังจากเกาหลีได้รับเอกราชเขาเข้าร่วมชุมนุมประท้วงว่ารัฐบาลลีซึงมันไม่สืบสวนและลงโทษฝ่ายนิยมญี่ปุ่นให้ถูกต้องจนถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย เขาเข้าร่วมการปฏิวัติ 19 เมษายนอย่างแข็งขันรวมถึงการตีพิมพ์ <ชุดกวีนิพนธ์การปฏิวัตินักศึกษา> เขาได้เป็นหนึ่งในกวีคนสำคัญที่สุดในเกาหลีจากบทกวี <เปลือกจงไปให้พ้น> ชินดงย็อบเสียชีวิตในปีพ.ศ. 2512(อายุ 40 ปี)จากมะเร็งตับ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in