*คำเตือน :ข้อความต่างๆในบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น จึงไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือให้เหตุผลตามหลักวิชาการได้

เวลาเราดูหนัง ละคร หรือมิวสิควิดีโอใดๆก็แล้วแต่ มักจะเห็นว่าเมื่อตัวละครใดผิดหวังในความรักหรือที่เรียกว่า "อกหัก" นอกจากการเสียใจร้องไห้ฟูมฟายใต้ฝักบัวแล้ว วิธีหนึ่งที่เขาหรือเธอเลือกใช้เพื่อ Move on จากเรื่องน่าเศร้าเหล่านั้นก็คือ "การตัดผม" ซึ่งเราก็เชื่อว่าในชีวิตจริงก็น่าจะมีคนที่เลือกใช้วิธีนี้บ้างไม่มากก็น้อย แล้วการตัดผมมันช่วยได้อย่างไรหละ

1. เป็นการแสดงออกทางสัญลักษณ์บางอย่าง ไม่เพียงแต่เรื่องความรัก แต่เรื่องอื่นๆก็ด้วยเช่นกัน บางครั้งในชีวิตก็มีจุดที่อาจทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วกับสิ่งที่เจอในตอนนี้ ทุกอย่างดูอิรุงตุงนังไปหมด ฉันทนรับมันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว การตัดผมก็เหมือนกับเราตัดความยุ่งเหยิงในจิตใจบางอย่างออกไป หรือเหมือนตัดใครออกจากชีวิต และคาดหวังว่าอะไรต่อมิอะไรมันจะดีขึ้น

2. เหมือนได้รับการปรนนิบัติ การเข้าร้านตัดผมหรือร้านเสริมสวยเราที่อยู่ในสถานะลูกค้ามักจะได้รับการปรนนิบัติพัดวีดั่งเจ้าหญิง มีคนสระผมให้ เป่าผมให้ ทรงไหนดีคะ สีไหนดีเอ่ย นวดหนังศีรษะด้วยไหมคะ จากใจที่พังๆพอได้รับการปรนนิบัติก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาได้ไม่ยาก

3. ผมสั้นทำให้เราดูสดใส การที่เราเจอเรื่องแย่เรื่องร้ายมาอาจทำให้สีหน้าสีตาของเราดูไม่สดใสเหมือนคนโดนของ และถ้ายิ่งไว้ผมยาวด้วยแล้วยิ่งไม่มีกะใจที่จะดูแลเส้นผมของเราได้ดีเหมือนเคย ดังนั้นการตัดผมจึงเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นได้หลังจากที่ผ่านมรสุมมา