เธอคนนั้น เรายืนอยู่ด้วยกันในวันฝนตกหนักในร่มคันเล็ก ๆ พอแค่สองคนจะเหยียบยืน -ไม่แน่ใจว่ามันเป็นร่มของใคร อาจจะเป็นเธอที่มองเห็นมันก่อน บอกให้ฉันตัดสินใจซื้อ และช่วยกันออกเงินคนละครึ่ง ที่มาของมันคงเป็นแบบนั้น- ฉันหันหลังให้เธออยู่ มองออกไปนอกเขตใกล้ๆของร่ม ฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก ตัวเราเหมือนถูกขังด้วยปลายของร่มและฝนเม็ดใหญ่ที่ตกลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
..ฉันอึดอัด
เสียงพึมพำของฉัน เสียงกระซิบของเธอ เราหันหลังให้กันและพูดมันอยู่อย่างนั้น คาดหวังให้ใครอีกคนเข้าใจ
..แต่ไม่เลย..
ราวกับว่าเราพูดกันคนละภาษา
..ไม่มีใครพูดอะไร
...
ฉันมีความคิดอยากจะวิ่งออกไปจากร่มคันเล็ก ๆ ที่เป็นพันธนาการระหว่างเธอกับฉัน
ฉันก้าวขาออกไปเล็กน้อย พอให้ปลายเท้าได้สัมผัสกับความชื้นแฉะที่ตกลงมา ฉันชักเท้ากลับเพราะไม่อยากให้มันเปียกไปมากกว่านี้
..เย็น
ใช่.. แค่ปลายเท้ายังเย็น
ถ้าฉันวิ่งจากออกไป เปียกปอนไปหมดทั้งตัว มันคงจะหนาวและอ้างว้างกว่านี้มากมายหลายเท่านัก ฉันตัดสินใจถอยหลังกลับเข้ามาในร่มคันเล็กนี่อีกสักนิด หันหน้ากลับมาหาเธอ พอให้ไออุ่นของเราแผ่ไปถึงกันเพื่อเพิ่มความอบอุ่นเล็ก ๆ น้อย ๆ
ฉันก้าวเท้าเข้าไป เธอยืนรอฉันอยู่ตรงนั้น
เมื่อเราหันหน้ามาหากัน เธอจึงเริ่มต้นพูด
ฉันฟัง เออ-ออไปตามจังหวะ
มันไม่ใช่บทสนทนาแบบที่ฉันชอบมากนัก ทำได้เพียงฟังมันผ่าน ๆ เคล้าไปกับเสียงฝนที่กระหน่ำอยู่
เมื่อเธอพูดจบฉันจึงเริ่มเล่าเรื่องฝั่งตัวเองบ้าง
นักการเมืองที่ฉันไม่ชอบวันนี้มันทำเรื่องที่ฉันไม่ชอบใจอีกแล้ว
แน่ล่ะ เธอไม่เข้าใจ
อย่าพึ่งไปถึงว่าเธอชอบใจกับบทสนทนานี้แค่ไหน แต่เธอเข้าใจมันแค่ไหนดีกว่า
...
ภายในร่มคันเล็ก ๆ เราอยู่ใกล้กันเพียงไออุ่นบาง ๆ แต่กลับรู้สึกห่างไกลราวกับไม่ได้พูดภาษาเดียวกัน
ฉันเสียใจนะ เสียใจนิดหน่อย
หมายถึง...
ฉันหันหลังเดินออกไปชิดกับขอบร่มและละอองฝนจาง ๆ พอให้ตัวชื้น
เดินกลับเข้ามารับไออุ่นจากเธอ เธอชวนพูดคุยในเรื่องเดิม ๆ
เดินออกไป พอให้รู้ว่ามันหนาวขนาดไหนหากจะจากไป
เดินกลับเข้ามา
แต่ยังคงมองออกไปไกลสุดสายตา
...
เธอกักขังฉันไว้ในร่มคันเล็ก ๆ ของเรา
ฉันเห็นผู้คนเดินขวักไขว่กันอยู่ภายใต้สายฝนกระหน่ำ
ไม่เห็นมีใครเป็นอะไร
...
ฉันเห็นใครบางคนอยู่ตรงนั้น
ท่ามกลางฝนตกที่พร่าเลือนทุกอย่างไป เขายืนอยู่ตรงนั้น เปียกปอนไม่ต่างกับที่ฉันจะเป็นหากวิ่งออกไป เขายิ้มบาง ๆ ฉันสบตาเขา
เราไม่เคยพูดคุย หรือเข้าใกล้กันมากกว่าอาณาเขตร่มคั่น
เพราะร่มคันนี้มันยืนได้แค่สองคน นั่นคือสิ่งที่ควรจะเป็น
ฉันเอื้อมมืออกไปไขว่คว้า เขายังยืนสบตาฉันอยู่ที่เดิม
เธอดึงมือฉันกลับอย่างแรง จนกระแทกเข้ากับตัวเธอ
..เธอเจ็บ ฉันรู้
แต่มันไม่มีทางเหลือให้ไปอีกแล้วในร่มคันนี้
...
ไม่แน่ใจว่าในร่มตอนนี้... กับเธอ
และ
กลางสายฝนตรงนั้น กับรอยยิ้มของเขา
...
ตรงไหนมันหนาว.. และเหงากว่ากัน
สุดท้ายแล้ว
ฉันตัดสินใจวิ่งออกไป
ออกไปจากร่มคันเล็ก ๆ ของเรา
ออกไปจากพันธนาการของเรา
ไม่แน่ใจว่าจะมีใครอยู่เพื่อแบ่งปันไออุ่นให้ฉันอย่างที่เธอทำไหม
ไม่แน่ใจว่าจะมีคนที่ยอมให้ฉันอยู่ในร่มมากกว่าอย่างเธออีกไหม
ไม่แน่ใจว่าจะมีคนยอมเปียกเพื่อให้ฉันได้พึ่งตัวให้แห้งไหม
ไม่แน่ใจว่าจะมีใครห่วงใยตอนฉันเปียกฝนได้อย่างที่เธอทำไหม
แต่แน่ล่ะ..
ฉันเปียกปอนไปหมดแล้วตอนนี้ ข้างนอกร่มของเรา
ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฝน..
..หรือหยาดน้ำตา
พึ่งรู้ในตอนนี้
ว่าน้ำฝนมันทำให้เหงา และหนาวขนาดนี้
พึ่งรู้...
หวังว่าจะมีคนที่อยากหลบฝนในร่มคันนั้น..
ต่อจากฉัน
และ
หวังว่าจะมีคนที่อยากเปียกปอน
อยู่บ้าง..
" เพราะวันนี้ฝนตก แต่ฉันไม่อยากอยุู่ในร่มที่เธอกางให้อีกแล้ว "
- annonymous
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in