และแล้ววันแรกของค่ายก็มาถึง!! วันนี้เป็นวันเราจะได้เจอกับคุณพ่อคุณแม่และเด็ก ๆ ทั้ง 6 คน รวมทั้งสิ้น 5 ครอบครัวที่ได้เข้าร่วมค่ายครั้งนี้ วันนี้เราต้องเตรียมอะไร ๆ มากมายเพราะหน้าที่ในค่ายของเรานั้นคือ สวัสดิการ ซึ่งเราจะต้องเตรียมของว่า อาหาร อุปกรณ์สิ่งจำเป็นต่าง ๆ ของค่าย เราเป็นคนดูแล แต่ด้วยความที่เราไม่เคยทำหน้าที่นี้มาก่อน เราก็ยังไม่ค่อยรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน ทำอย่างไร ดังนั้นเราก็จะคอยถามพี่ ๆ ตลอด ซึ่งเราตอนแรกเราก็คิดว่าเราทำได้ แค่เตรียม ๆ ของเอง แต่เอาเข้าจริง มันไม่ได้ง่ายและชิว ๆ อย่าง เพราะเราต้องเตรียมให้พอ เตรียมให้เรียบร้อย ต้องให้ทุกอย่างสะอาดที่สุด และดูดีที่สุด ซึ่งมันก็ค่อนข้างยากเพราะ เราชอบหลงลืมอะไร ๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของข้าวของที่จำเป็น ความสะอาด และการที่เราหาของไม่เจอ ซึ่งเราก็ต้องคอยรบกวนถามพี่ ๆ ตลอดเวลาจนเรารู้สึกเกรงใจมาก ๆ เพราะพี่ ๆ ทุกคนต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องทำในค่าย ไม่ได้มีเวลาว่างมาหาของให้เราตลอด นี่เป็นสิ่งที่ยากมาก ๆ สำหรับเรา เพราะใจเราก็คืออยากจะเล่นกับเด็ก ๆ อยากทำกิจกรรม แต่ด้วยภาระหน้าที่ทำให้เราต้องหันไปทำหน้าที่ของตัวเองและเหมือนจะต้องอยู่ ณ จุดนั้นตลอดเวลาจนเราไม่ได้ไปร่วมทำกิจกรรมกับเด็ก ๆ อย่างเต็มที่ แต่ในวันนี้เราก็มีหน้าที่ที่สำคัญอย่างหนึ่งค่ะ นั่นก็คือการเล่านิทานให้เด็ก ๆ ในค่ายฟัง!! ซึ่งเราจะเริ่มเล่าในเวลา 1 ทุ่มค่ะ นิทานของเราก็ไม่ใช่เรื่องอื่นเรื่องใด แต่เป็นเรื่อง The Very Hungry Caterpillar หรือหนอนจอมหิวนั่นเองค่ะ ซึ่งเราได้เล่าออกมาเป็นรูปแบบของละครหุ่นเงาใบไม้ค่ะ เราได้ไปหาใบไม้มาตัดมาประกอบเพื่อทำเป็นตัวละครที่ใช้เล่าค่ะ โดยพี่ ๆ ก็ให้ความช่วยเหลือตลอดเลยค่ะ ซึ่งกิจกรรมเป็นหน้าที่ของเรากับพี่ต้นซึ่งเป็นหัวหน้าของทีม Forest of Play นั่นเองค่ะ
ซึ่งการเล่านิทานครั้งนี้เราตื่นเต้นมาก ๆ กลัวจะจำเรื่องไม่ได้ แต่เมื่อเราเห็นเด็ก ๆ ตั้งใจฟังเราก็เริ่มรู้สึกมีพลังและอยากจะเล่าให้เด็ก ๆ ฟังมากขึ้นค่ะ ซึ่งเราก็สามารถทำได้ค่ะ เราเล่าโดยไม่มีหนังสือ ไม่มีสคริปต์ใด ๆ เรียกได้ว่าเล่าออกมาผ่านความคิดความจำและความรู้ของเราเลยค่ะ ซึ่งเด็ก ๆ ก็ชอบมาก ๆ ค่ะ เพราะเมื่อเช้าวันต่อมาพี่ต้นก็ได้ไปถามพูดคุยกับน้องคนหนึ่งค่ะ ซึ่งน้องก็ได้บอกว่า นิทานสั้นไป อยากฟังอีก เราได้ยินคำนี้เราก็ใจฟูขึ้นมาเลยค่ะ น้องน่ารักมาก ๆๆๆ ค่ะ
หลังกิจกรรมของเราจบก็เป็นกิจกรรมการดูแมลงซึ่งเราก็ส่งไม้ต่อให้พี่โอ๊คหลังจากเล่านิทานเรื่องนี้ค่ะ ซึ่งพี่โอ๊คก็ได้เล่าให้เด็ก ๆ ฟังเกี่ยวกับเรื่องของผีเสื้อ และแมลงต่าง ๆ หลากหลายชนิด สนุกมาก ๆ เลยค่ะ ซึ่งเราก็ได้เห็นสีหน้าท่าทางของเด็ก ๆ เมื่อเจอแมลงเด็ก ๆ ชอบกันมาก ๆ เลยค่ะ
เมื่อกิจกรรมจบเราก็ต้องไปเตรียมของสวัสดิการสำหรับการเดินทางขึ้นเขาในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเราต้องเตรียมหลายอย่างมาก เพราะถ้าเกิดเราลืมอะไรไประหว่างขึ้นเขาก็จะเป็นเรื่องใหญ่เลยค่ะ ซึ่งด้วยความที่เรามักขี้หลงขี้ลืมและหาอะไรไม่ค่อยเจอ เราก็มักจะคอยถามพี่ ๆ ตลอด ซึ่งพี่บางคนตอนนั้นก็กำลังทานข้าวอยู่ เราเกรงใจมาก ๆ และกดดันมาก ๆ เมื่อรู้ว่าพรุ่งนี้เราจะต้องขึ้นเขาไปกับพี่ ๆ ทีมต้นไม้ประจำค่ายเพียงคนเดียว ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่รู้จักคุ้นชินกับพี่ ๆ ด้วย เรากังวลมาก ๆ เพราะเราจะต้องไปรับข้าวของคนทั้งค่าย ต้องไปเตรียมสถานที่ น้ำดื่ม ถังขยะ และอื่น ๆ มากมาย ซึ่งเรากังวลมาก ๆ กลัวว่าจะทำไม่ได้ เพราะไม่เคยไปไหนมาไหนกับคนที่ไม่สนิทคุ้นชิน วันนั้นหลังจากที่คุยกับพี่ทีม Forest ด้วยกัน เราก็ร้องไห้เลยค่ะ เพราะในใจคือเราไม่อยากไปคนเดียว และตอนนั้นเราก็ไม่ได้อยากร้องไห้ แต่จู่ ๆ น้ำตาไหลเอง ซึ่งเราคิดว่าอาจเป็นเพราะความกังวลลึก ๆ ข้างในที่เราเก็บไว้และไม่ได้พูดออกมา ซึ่งตอนนี้เราก็ทำให้พี่ที่มอบหมายหน้าที่ให้เราร้องตามไปด้วย เรารู้สึกผิดมาก ๆ เลยค่ะ เพราะตอนนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นภาระให้คนอื่นตลอดเลย เราเสียใจนิดหน่อยแต่ก็ทำใจว่าจะสู้ต่อไปในวันพรุ่งนี้ที่เราต้องขึ้นเขาค่ะ ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วพี่ต้นก็ไปกับเราด้วยค่ะ ทำให้เราค่อยคลายกังวลไปได้ในที่สุดค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in