การเป็นสาวออฟฟิศไม่ง่าย การนักศึกษาฝึกงานก็ไม่ง่าย และการจะผ่านไปเป็นสองอย่างข้างหน้าก็ไม่ง่าย!!
ภารกิจแรกของการก้าวไปเป็นสาวออฟฟิศ หรือนักศึกษาฝึกงาน คือ 'คุณต้องสมัครและผ่านการสัมภาษณ์จากบุคลาการในองกรค์' แต่ก่อนการยื่นสมัครงานคุณต้องมีอาวุธ ซึ่งอาวุธสำคัญสำหรับมนุษย์ที่กำลังหางาน จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก 'Portfolio'
ในช่วงบ่ายวันเสาร์ เดือนธันวาคม ฉันนั่งงมอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวาลานานเพื่อรวบรวมข้อมูล และศึกษาวิธีการทำ Portfolio ที่ถูกต้องและน่าดัึงดูด
Portfolio ในความทรงจำของฉันคือ เล่มแฟ้ม หนาปึก ที่ต้องรวบรวมผลงานตลอดชั่วชีวิตมายัดรวมกัน เพื่อนำเสนอแก่อาจารย์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ว่าฉันเก่ง เริ่ด เพรียบพร้อมและผ่านการใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนมาอย่างโชกโชน และฉันคู่ควรกับมหาลัยนี้แค่ไหน
แต่ๆๆๆ Portfolio สำหรับโลกนี้ทุกคนลืมคำว่า หนาปึก ไปได้เลย เพราะทุกเว็บยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุกอย่างควรจบใน 1 หน้ากระดาษ A4 Portfolio ไม่จำเป็นสำหรับโลกใบนี้อีกต่อไป (เฉพาะบางสายงานเท่านั้นนะคะ) แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการคือ 'RESUME'
"เรซเม่ (Resume) คือสรุปประวัติส่วนบุคคล เพื่อใช้นำเสนอตนเองให้กับผู้อื่นได้รู้จักได้คร่าว ๆ ในเวลาอันรวดเร็ว เรซูเม่ถือเป็นเอกสารสำคัญชนิดหนึ่งที่ผู้สร้าง หรือเรียกได้อีกอย่างว่าผู้เขียนเรซูเม่ สรุปประวัติทางอาชีพของตนลงในเอกสาร เพื่อส่งให้กับผู้อื่นได้อ่าน เพื่อทำความรู้จักกับผู้เขียนเรซูเม่ในจุดสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วนและรวดเร็ว"
(ที่มา Resume.in.th Team)
หลังจากอ่านจบฉันก็คิดได้ว่า '...ฉันจะยัดทุกอย่างลงในกระดาษหนึ่งผ่นได้ยังไงนะ' ฉันนั่งหาแบบอย่างและ Template เรซูเม่ อยู่นาน แต่จะทำยังไงก็ดูเหมือนจะไม่ถูกใจฉันสักที ก็นะ.. ฉันมีผลงานที่อยากจะอวดเยอะเลยนี่นา แต่สุดท้ายฉันก็ตัดใจและตัดทิ้ง ฉันตัดทุกอย่างที่ไม่จำเป็นออก จนในที่สุดมันก็เหลือ 1 แผ่นได้จริง ๆ ไชโย!!!
แต่ในกระดาษ 1 แผ่นนี้ฉันคัดแล้วคัดอีกว่าต้องการใส่อะไร และนำเสนอตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ คิๆๆ หลังจากคร่ำวอดอยู่ในวงการนาน 3 วัน ฉันก็สรุปได้ว่าสิ่งที่ควรใส่ลงในเรซูเม่มีดังนี้
1. รูปที่สวยที่สุด แต่ต้องเห็นใบหน้าชัดเจน และมีความเรียบร้อย
2. ประวัติโดยย่อ
3. วิธีติดต่อ ควรเขียนให้ละเอียดและชัดเจน
4. จุดแข็ง ควรเขียนในแง่บวก
5. ทักษะที่จำเป็นต่อองค์กรนั้น ๆ
6. ความสนใจที่เรามี
7. บุคคลอ้างอิง ซึ่งควรเป็นบุคคลที่เคยทำงานร่วมกับเรา
8. ประวัติการศึกษา ควรย้อนไปแค่วัยมัธยมก็พอนะคะ
9. ประัวติการทำงาน
10. ชื่อของเราตัวโต ๆ ไปเลย!!!
ว้าวววววว ฉันยัดตั้ง 10 อย่างนี้ลงในกระดาษแผ่นเดียวได้ยังไงนะ ฉันนี่มันสุดยอดจริง ๆ แต่ก็อย่าลืมว่าสนามรบนี้ยังมีผู้ท้าชิงที่มีทักษะการสู้และเก่งกาจกว่าฉันอยู่มาก ฉันจะได้เป็นผู้ถูกเลือกไหมนะ เครียดจัง..
ไม่ได้ๆๆ ฉันต้องไม่คิดกับตัวเองในแง่ลบ สูดหายใจเข้าลึกๆ เอาล่ะถึงเวลาส่งแล้ว 1 2 3 ฟิ้ววว
E-mail ฉบับนี้ถูกส่งแล้ว..
ทีนี้ก็เหลือเพียงการรอเรียกสัมภาษณ์สินะ ตื่นเต้นๆๆๆๆ
ปล. การสัมภาษณ์ผ่านไปได้ด้วยดี และฉันก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นนักศึกษาฝึกงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ใจกลางเมือง เอาล่ะชีวิตสาวออฟฟิศเริ่มต้นขึ้นแล้ว!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in