“ไอ้สอออออออออ”หินตะโกนเรียกดังลั่นสนามหญ้า
“มึงตะโกนหาใครกุอยู่แค่นี้ตะโกนมาอยู่ได้ สันขวานนี้” สอตอบสนองเสียงตะโกนนั้น
“ก็ถ้ากุเรียกดีมึงไม่ตอบกุก็คงต้องตะโกนแหละ”
“ไปถึงเวลากินข้าว ใครออกหลังจากกุ มึงไม่ต้องกิน”ครูฝึกบ่งบอกสัญญาณถึงเวลาพักกลางวัน ทุกคนรีบวิ่งออกจากสนามหญ้าไปสู่โรงอาหารสถานทีที่ไม่คอยหน้าจดจำสักเท่าไหร่
“มึงโอเคใช่มั้ยว่ะ?”หินถามด้วยความเป็นห่วง
“ก็ตั้งแต่วันนั้นมึงก็แปลกๆไปนะพี่สอทุกคนเป็นห่วงพี่นะ มีอะไรบอกพวกผมได้” ทหารรุ่นน้องทำตัวเหมือนตัวแทนรุ่นถามแทนทุกๆคน
“พวกมึงอยากจะฟังกันใช่มั้ย?”สอถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูน่ากลัวเล็กน้อย
“เมื่อคืนกุไปที่ร้านของตา ตอนแรกกุก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องในวันนั้นคงต้องได้คุยกันเราก็คุยกันนะ กุกับตารู้สึกเหมือนกัน รู้สึกว่ามันคงจะยากขึ้นมากหลังจากนี้ที่กุจะเจอตาแบบที่เคยเจอเหมือนเมื่อก่อน”
“มันก็ไม่มีอะไรไม่ใช่ออว่ะไม่ใช่ว่ามึงจะไม่ได้เจอตาอีกเลย เคลียดทำไมว่ะ?”
“ตาจะไปอยู่กับชายนุที่วัง”คำพูดของสอนั้นทำให้ทุกคนตกใจ สอพูดออกมาด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความเสียใจอย่างมาก
“จริงหรอว่ะไอ้สอ มึงโอเคใช่มั้ยเนี่ย” หินก็ยังคงถามคำถามเดิมเพราะว่าสอยังไม่ตอบคำถามนั้น
“มึงว่ากุโอเคมั้ยล่ะไม่มีทาง กุไม่โอเค” ในที่สุดสอก็ตอบคำถามนั้น
“มีเพียงวิธีเดียวที่กุจะได้เจอตาอีกครั้ง”
“วิธีไรว่ะ”หินสงสัย
“วิธีไรพี่”ทหารรุ่นน้องก็สงสัยเหมือนกัน
“กุจะต้องสอบสอบอันนั้น”
“เหี้ยแล้ว”
“ไตรมรนะกุจะต้องผ่านไตรมรนะ” สอพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเป็นกังวลไตรมรนะคือบททดสอบที่คอยไว้วัดทักษะความสามารถของทหารเพื่อที่จะมาเป็นขุนนางองค์รักษ์ให้กับกษัตริย์และราชนีเป็นบททดสอบที่น้อยคนนักที่จะผ่าน ส่วนมากที่สอบไม่ผ่านนั้นมีหลายกรณีด้วยกันทำภารกิจไม่สำเร็จบ้าง ยอมแพ้บ้าง ถูกจำเป็นตัวประกันบ้าง และก็ตายบ้างก็มีเป็นบททดสอบให้ผู้เข้ารับการทดสอบผ่าน3ด่าน ด่านแรกเป็นด่านร่างกายผู้เข้าสอบจะต้องผ่านการวิ่ง เดินทางไกล และว่ายน้ำให้เสร็จในเวลา 1 วันด่านที่2เป็นเรื่องความรู้พื้นฐานทางทหาร การใช้ดาบและปืนและด่านสุดท้ายคือการทำภารกิจที่อันตราย1อย่างตามสถานการณ์บ้านเมือง เพียงคำเดียวผู้ที่จะให้ผ่านการทดสอบด่านสุดท้ายคือภาคี ขุนนางชั้นสูงหรือท่านชายลานุเท่านั้นดังนั้นไตรมรนะมันก็ไม่ใช่ง่ายๆที่จะผ่าน
“จะดีหรือท่านให้ไอ้สอเข้าร่วมไตรมรณะ” เจ้ากรมทหารถามภาคี
“แน่นอนท่านบอกข้าเองไม่ใช่หรอว่า ไอ้สอมันมีความสามารถอีกอย่างไอ้สอมันก็อยากไปอยู่กับไอ้ตา ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในวังอยู่กับท่านลานุสะด้วย มีด้วยหรอที่จะยอมให้สอบไม่ผ่าน” ภาคีเริ่มอธิบาย
“เล่นแรงไปหน่อยมั้ยท่านไอ้สออาจตายเลยนะท่าน ไตรมรนะ คนที่สอบผ่านเนี่ยนับคนได้เลยนะท่าน”
“แต่มันก็ตายมันแล้วไม่ใช่หรอว่ะ”
“ท่านคนที่ผ่านไตรมรนะได้ก็คนอยู่ดีนะท่าน คนที่ไหนโดนไฟไหม้แล้วไม่ตาย”
“ก็มีแต่ท่านลานุแหละที่รอดมาได้ไอ้หนูดุสิตาก็รอดมาด้วย บังเอิญดีจังว่ามั้ย ฮาฮา”
“แล้วสรุปแผนท่านคืออะไรท่านเหลือเวลา2ปีก่อนที่ท่านลานุพร้อมที่จะครองราชน์” เจ้ากรมทหารตั้งคำถาม
“ข้าได้เริ่มไปแล้วท่านคอยดูผลได้เลย กรมทหารคงมีชื่อเสียงแน่นอน” ภาคีตอบ
“อะไรนะนมตาจะมาอยู่ที่นี้อย่างงั้นหรอ?” ลานุตกใจมาก
“ใช่เพค่ะตอนนี้เธอกำลังเดินทางมาที่นี้เพค่ะ”
“มันเกิดอะไรขึ้นทำไมตาถึงจะย้ายมาอยู่ที่นี้”
“นั้นก็เพราะกระหม่อมเองเพยะค่ะ”เสียงของภาคีดังขึ้นมาหน้าประตูวัง
“ทำอะไรไม่เคยมาถามเราก่อนเลยนะภาคี”
“ขออภัยท่านลานุที่กระหม่อมตัดสินใจแทนพระองค์ครั้งนี้แต่อย่างที่พระองค์ทรงทราบทุกการกระทำของกระหม่อมมีความหมายทั้งต่อตัวพระองค์และแผ่นดินเสมอ”
“นั้นท่านจงอธิบายเหตุผลมาว่าทำไมตาถึงต้องมาอยู่ที่นี้”
“เหตุผลแรกคือการที่ดุสิตามาอยู่ที่นี้ข้าเห็นว่าการที่ท่านจะขึ้นครองราชย์นั้น ฃจำเป็นต้องมีพระคู่หมั้นไว้ เพื่อที่จะเป็นราชนิในอนาคตเพื่อที่จะให้ราชวงศ์มั่นคงให้เร็วที่สุดเพค่ะเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ราชตระกูลของท่านอ่อนแอลงไปมากข้ากลัวเหลือเกินว่าแผ่นดินจะใช้โอกาสนี้มายึดครองแผ่นดินนี้”
“เหตุผลที่สองมันมาต่อยอดมาจากเหตุผลของแรก ธรรมเนียมไตรมรนะไม่ได้จัดขึ้นนานแล้วเพราะยังไม่มีกษัตริย์ขึ้นครองราชย์พระองค์ไม่อยากทราบหรือว่าในแผ่นนี้จะมีทหารสักกี่คนที่มีความสามารถมากพอในการทำภารกิจที่อันตรายเพื่อแผ่นดินนี้บ้างท่านไม่อยากทราบหรืออย่างไร”
“พอแหละเหตุผลแค่นี้เนี่ยนะ ถึงจะต้องทำให้ตามาอยู่กับข้า” ลานุต่อว่าภาคีอย่างหนัก ลานุไม่ได้เป็นคนที่จัดการเรื่องนี้ลานุไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้มาก่อน โดยเฉพาะเรื่องไตรมรนะ
“หรือว่าพระองค์ไม่อยากให้นางมาอยู่ใกล้ๆพระองค์ท่านคงอยากให้นางไปพบเจอกับชายนอกวังนั้นหรือ” คำพูดแทงใจของภาคีทำให้ลานุยอมสงบเพราะนั้นคือความจริง ลานไม่อยากให้ดุสิตาเจอกับสอบ่อยๆเรื่องนี้ลานุจะไม่ยอมเด็ดขาด
“มีอีกเรื่องที่ข้าอาจจะมาบอกให้ท่านทราบ”ภาคีเริ่มเปิดหัวข้อสุดท้าย
“มีอะไรอีก”
“เรื่องพลทหารรุ่นใหม่ที่กำลังฝึกฝนอยู่นี้เจ้ากรมทหารแนะนำมาว่าให้พระองค์จำตาดูพลทหารสอให้ดีพลทหารคนนี้มีความสามรถมากเกินกว่าพลทหารรุ่นคร่าวราวเดียวกันไม่ใช่แค่ว่าเรื่องการทหารที่เก่งกาจแล้ว เรื่องอื่นๆที่ไม่ใช่ทหารก็เช่นเดียวกันหวังว่าพระองค์จะเข้าใจในสิ่งที่ข้าสื่อ” ภาคีพูดย้ำเรื่องนี้อีกแล้ว
“พอแล้วมีแค่นี้ใช่มั้ย ออกไปได้”ลานุกล่าวเสร็จพร้อมกับออกนอกวังไปก่อนที่ภาคีจะออกวังไปเสียอีก
“นุ”เสียงของดุสิตากำลังเรียกลานุข้าวของมากมายของดุสิตาถูกเคลื่อนย้ายมาบริเวณประตูใหญ่ของวัง
“ตาตาอยากอยู่ที่วังของนุมั้ย?”
“ตาอยู่ที่ไหนก็ได้ไม่มีปัญหาหรอก ว่าแต่นุเองเถอะ ตามาอยู่กับนุที่นี้ นุโอเคมั้ย?”
“ทำไมตาถึงถามแบบนี้”
“ก็นุเป็นเจ้าของวังอยู่ดีๆมีใครไม่รู้ว่าอยู่กับนุที่วังนะ”
“ตาไม่ใช่คนอื่นของนุนะ”ประโยคนั้นทำให้ดุสิตาก้าวถอยหลังเล็กๆ
“ตาคือคนที่สำคัญที่สุดของนุตามาอยู่ที่วังของนุ นุสบายใจเหมือนกัน นุสบายใจว่าตาจะต้องปลอดภัย แน่นอน”
“ถ้างั้นนุให้เราเก็บของที่ได้ไหน ยุงกัดหมดแล้วเนี่ย”
“ตาเลือกห้องได้ตามสบายเลยนะบอกนมเลย นมจะช่วยตาเอง นุออกไปข้างนอกก่อนนะ เดี๋ยวนุกลับมา”ของทุกอย่างที่ดุสิตาขนมานั้นถูกเก็บเข้าที่เรียบร้อยในห้องที่ดุสิตาเป็นคนเลือกเอง
“ใช่ว่าพี่สอจะไม่ได้เจอกันพี่ตาเลยสะเมื่อไหร่เนี่ยเดี๋ยวผมทำให้พี่ได้เจอพี่ตาในอีก2วันข้างหน้า”พลทหารรุ่นน้องกล่าวแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“มึงอย่ามาพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้นะ2ปีโว้ยไม่ใช่2วัน” สอกล่าว
“ใช่ๆเดียวกุจะพาสอไปเจอกับไอ้ไม้ทุกวันแทนไอ้ตา เดี๋ยวไอ้สอมันก็ลืมตาไปเองนั้นแหละฮาฮา” หินยังคงขายน้องสาวตัวเองให้สอ ในทุกๆวัน
“มึงก็ยังไม่เลิกขายน้องมึงนะทำไมมึงอยากให้น้องมึงได้กับกุขนาดนั้นเลยหรอ”
“ทำไมน้องกุไม่ดีตรงไหน สวยก็สวยพอๆกันกับตา อาจจะไม่รวยมาก แต่ก็เก่งอยู่นะเนี่ยวันพรุ่งนี้มันก็จะกลับมาจากเมืองบูลวา อยากเจอน้องกุวันพรุ่งนี้มั้ยล่ะ”
“ไม่ๆพี่สอจะไปเจอกับพี่ตาวันพรุ่งนี้”พลทหารรุ่นน้องพูดอย่างมั่นใจ
“มึงหยุดพูดสักทีเถอะไอ้สอจะไปกับกุวันพรุ่งนี้ ไปรับไอ้ไม้กลับมา” หินรีบตัด
“แล้วมึงคิดว่ามึงจะทำอย่างไงให้กุเจอกับตาในแค่คืนเดียว”สอสนใจคำพูดของพลทหารรุ่นน้องนั้นมากกว่าหินเสียอีก
“มึงเลือกมันหรือมึงทิ้งกุแล้วหรอไอ้สอ” หินตัดพ้อ
“ว่าไงมึงบอกกุมานะ ถ้ามึงบอกกวนตีน มึงเจอตีนกุแน่” สอรีบเร่ง
“ก็ไอ้ดาบนี้ไงพี่”พลทหารรุ่นน้องยกดาบขนาดเล็กให้ทุกคนดู
“มึงเรียกมันว่าอะไรนะ”หินสงสัย
“ดาบไงพี่ดาบ”
“มึงเรียกมันว่าดาบเนี่ยนะฮาฮาฮา กุจะขำตาย” หินหัวเราะ
“ออใช่ๆบ้านกุเรียกว่า จู๋มด ฮาฮา” ทหารอีกนายกล่าวเสริม พลทหารรุ่นน้องยกดาบที่เจ้าชายลานุรับสั่งให้กรมทหารตี
“แล้วไงถึงกุจะเป็นคำรับโอการ แต่กุไม่ได้มีหน้าที่ไปส่งดาบที่วังของท่านลานุนิ”
“ผมนี่ไงพี่ผมเอง ท่านเจ้ากรมสั่งให้ผมไปส่งดาบที่วังของท่านลานุ หลังมื้อกลางวันวันพรุ่งนี้”นั่นคือสิ่งที่พลทหารรุ่นน้องบอกสอ มันชั่งถูกใจสอยิ่งหนัก
“มึงรู้ใช่มั้ยว่ามึงควรทำอย่างไง”สอถามพลทหารรุ่นน้อง
“มึงแน่ใจหรอว่ะไอ้สอ”หินถามด้วยความเป็นห่วง
“แน่นอนพี่ผมให้พี่ได้อยู่แล้ว พี่เป็นพี่ผม”
“มึงเอาจู๋มดไปให้ท่านลานุและก็เอาจู๋มึงไปให้ตาใช่มั้ยล่ะ ฮาฮา” พลทหารอีกคนแซว
“แซวเก่งนะมึงฮาฮาฮา” นี่เหมือนเป็นครั้งแรกที่สอพูดกวนคนอื่นหลังจากเหตุการณ์วันนั้น
“เจอกันนะตา”
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in