วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2561
สิ่งที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา
งาน
ปีนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเรื่องเพื่อนร่วมงาน จากเพื่อนร่วมงานที่ฝ่าฟันทุกอุปสรรคมาด้วยกัน แต่เมื่อถึงจุดนึงที่เกิดความไม่เข้าใจ ทำให้เค้าต้องเดินจากไป พร้อมกับทิ้งหน้าที่เอาไว้ให้คนต่อไปต้องเข้ามารับผิดชอบต่อ
ถามว่าโกรธหรือเปล่า ตอนแรกยอมรับว่าโกรธ พอเวลาผ่านไป เริ่มเข้าใจอะไรๆมากขึ้น
ความรู้สึกตรงนั้นเลยน้อยลง
แต่กลับกลายเป็นช่วงพิสูจน์ความสามารถในด้านที่เราไม่ถนัดเอามากๆ เราไม่ชอบปฏิสัมพันธ์กับคนเยอะ แต่สิ่งที่เราทำตอนนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องทลายกำแพงที่ว่านั้น พอได้ลองทำก็รู้สึกว่า มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มันทำให้เราเติบโตขึ้นไปอีกขั้น ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น และในอนาคตต่อจากนี้จะตั้งใจทำให้มันดียิ่งขึ้นไปอีก
เพื่อที่จะได้ชนะตัวเอง ณ ตอนนี้
สุขภาพ
สุขภาพดีไปตามยถากรรม ยอมรับว่าออกกำลังกายน้อยมาก เกลียดตัวเองในปีนี้ที่สุด
แต่พยายามบำรุงร่างกายด้วยการพักผ่อนให้มาก กินอาหารที่มีประโยชน์เยอะขึ้น
แต่ก็มิได้นำพา
ส่วนหัวเข่า ปกติดีทุกอย่าง ภูมิแพ้ เป็นน้อยลง แต่ยังเป็นอยู่
เพื่อน
เมื่อเดือนมีนาคม เราชวดงานแต่งเพื่อน เพราะต้องไปเที่ยวญี่ปุ่น
แต่ไม่ทันไร เดือนสิงหาคม และพฤศจิกายน เราก็ได้ไปร่วมงานแต่งของเพื่อนร่วมรุ่นอีก 2 คน
เห็นบรรยากาศของความสุข รอยยิ้มของทุกคน การรวมตัวกันของเพื่อนที่ไม่ค่อยได้เจอกัน
มันก็อบอุ่นไปอีกแบบ
คิดว่าต่อไปพวกเราคงหาเวลาเจอกันยากขึ้นแล้วว่ะ!
ความรัก
อย่าไปพูดถึงมัน!
หนังสือ
ปี 2561 อ่านหนังสือไปทั้งหมดน่าจะ 30 กว่าเล่ม ไม่ถึงเป้าที่วางไว้คือ 40 เล่ม (อีกแล้ว)
ในตอนนี้รู้สึกว่าเรื่องที่อ่านทุกเรื่อง สนุกหมดทุกเรื่อง เพราะแต่ละเล่มมันมีความสนุก เสน่ห์ ภาษาในการเขียน ที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นนิยาย สารคดี เรื่องสั้น ความรู้ทั่วไป ทุกอย่างดีหมด
บรรยายไม่ถูกจริงๆ
เพลง
CHEMISTRY Live Tour 2017-18 Windy
ปีนี้ เราได้มีโอกาสไปดูคอนเสิร์ตของนักร้องคนโปรดจ้าาาาา!!!!
เรื่องนี้เรายกให้เป็นเรื่องที่ดีที่สุดในปี 2018 เลยจ้า
เป็น 2 ชั่วโมงครึ่งที่คุ้มมากกับการบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปหา แถมที่นั่งกับเวทีห่างกันไม่ถึง 50 เมตร อะไรจะใกล้ขนาดนี้
ความรู้สึกหลังจากดูจบ เหมือนกับว่าสิ่งที่เราตั้งใจเรียนมากว่า 10 ปี รอที่จะได้ใช้ในวันนี้
เหมือนเรื่องงานเป็นผลพลอยได้จากการเรียน
ปีหน้าไปแน่นอนค่า ได้ตั๋วคอนเรียบร้อย แถมยังแถวที่สองถัดจากเวที
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ปล.ปีนี้ฟังเพลงไทยมากขึ้น ฟังเพลงญี่ปุ่นน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
Turning Point
ในปีที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสลองประกวดแข่งทักษะภาษาในโครงการของมูลนิธิ Kyoritsu
ในการแข่งขันนั้นไม่จำกัดเพศและวัย เพื่อชิงรางวัลไปทัศนศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น 8 วัน
เราตัดสินใจลองสมัครดู
ก่อนอื่นต้องบอกก่อน เราเป็นพวกที่มีนิสัยแพ้เป็น เราเลยไม่อยากลงประกวดอะไรต่างๆ เพียงเหตุผลแค่ "ถ้าแพ้ กูจะบอกใครเค้ายังไง" บางครั้งเราไม่ชอบนิสัยตรงนี้ของตัวเองมากๆ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจสมัคร ถ้าหากแพ้ก็แค่กลับบ้าน
เมื่อลงแข่ง ถึงได้เข้าใจว่ามันไม่ใช่การแข่งกับคนอื่น มันคือการแข่งกับใจตัวเอง ก้าวออกมาจากพื้นที่ ที่เรียกกันว่า Safe Zone ในตอนที่แข่งกัน เราไม่ได้มองทุกคนว่าเป็นคู่แข่ง แต่เรารู้สึกกำลังมองตัวเองจากอีกมุมมองนึง ท้าทายตัวเองจากข้างใน เราคิดว่าเราต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่เสียใจทีหลัง
ผลปรากฎออกมาว่า เราคือหนึ่งในผู้ที่ได้รางวัล
ทุกคนดีใจกับเรา ยินดีกับเรา ถ้าถามว่าหากวันนั้นไม่ชนะ จะเสียใจหรือไม่
แน่นอน มันมีความรู้สึกเสียใจแน่นอน
แต่จะไม่เก็บความรู้สึกนี้ไว้กับตัวเองนานแน่นอน
เราดีใจกับรางวัลที่ได้ แต่มากกว่านั้น คือเรากล้าออกไปเผชิญกับความกลัวที่เคยมี ทำลายมันทิ้งด้วยมือตัวเอง นี่คือสิ่งที่เราดีใจมากที่สุด
แต่สำหรับเรานิสัยชอบเอาชนะไม่ได้ลดลงนะ แต่มุมมองที่มีต่อความพ่ายแพ้เปลี่ยนไป
New Year's Resolutions 2019
- อ่านหนังสือให้ได้ 40 เล่ม (จริงจังละ)
- ต้องพยายามดื่มน้ำอัดลมให้น้อยลง
- เขียนเรื่องลงใน Minimore และ โพสลงใน Hello Talk ให้มากขึ้น
- ออกกำลังกายให้มากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น
- เรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่ม ตั้งใจจะผ่าน N1 ภายในปี 2019 ให้ได้
สรุป
ปีที่ผ่านมาสำหรับเราถือว่าหนักมากขึ้นในเรื่องของหน้าที่การงาน เพราะมีภาระที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น เรายังรู้สึกว่าเรายังมีความงอแงเอาแต่ใจในเรื่องการทำงานอยู่ จากนี้ไปจะแก้ไขข้อเสียตรงนี้ให้ได้ แต่ยังไงปีนี้ก็ยังเป็นปีที่ดี ทุกนาที ทุกชั่วโมง ทุกวัน ที่ผ่านไป มันทำให้เราเห็นและมองทุกอย่างด้วยความเข้าใจ เมื่อหันกลับไปมองตัวเองเมื่อปีก่อน รู้สึกได้ว่าเราวิ่งมาไกลจากจุดนั้นมากเลยทีเดียว จากนี้ไปจะพัฒนาตัวเอง เผชิญหน้า เปิดรับสิ่งใหม่ๆ และจะวิ่งออกจากจุดนี้ไปให้ไกลมากยิ่งขึ้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in