เกร็ดจิปาถะจากการอยู่หอ - จิจิจิจิปาถะ

เราเป็นเด็กหอที่ติดหอมากคนนึงค่ะ ส่วนใหญ่จะอยู่หอโดยมีรูมเมท 1 คนทั้งที่เลือกได้และเลือกไม่ได้ ช่วงเวลาที่อยู่หอก็มีทั้งสุขทั้งเศร้าขึ้นกับเรื่องราวที่เผชิญมาข้างนอก เราค่อนข้างอินโทรเวิร์ตเป็นส่วนใหญ่ค่ะดังนั้นหอก็จะเป็นที่ที่คอยซับทุกอารมณ์ความรู้สึกจากเรา ดังนั้นถ้าหออยู่สบายความสุขในชีวิตก็จะมีเพิ่มขึ้นมาอย่างนึงแน่ะ ว้าว!

ต่อไปนี้ก็จะเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่มาจากการลองผิดลองถูกในการอยู่หอของเราเองค่ะ อาจจะออกแนวพิมพ์เก็บไว้อ่านเองมากกว่า ถ้าไม่เป็นประโยชน์ก็ขอโทษไว้ก่อนล่ะค่ะ แหะ ๆ

1. ก่อนย้ายเข้าหอ สำรวจสิ่งที่มีในหอแต่แรกให้ละเอียด
นอกจากจะดูว่าหอมีอะไรให้เราบ้างเพื่อเตรียมตัวย้ายของเข้าหอแล้ว ควรตรวจสอบดี ๆ ด้วยค่ะว่าของเหล่านั้นมีอะไรเสียหายบ้าง และแจ้งซ่อมกับทางหอให้เรียบร้อย บางทีหอก็ไม่ทันสังเกตเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่นพนักพิงเก้าอี้ง่อนแง่น หลอดไฟในตู้เสื้อผ้าห้อยต่องแต่ง
อีกอันที่หอไม่สนใจแน่ ๆ คือความนุ่มของฟูกนอนค่ะ บางทีแข็งปั๋งเอาหัวฟาดตายก็ไม่ไหวนะ อย่าลืมดูความนุ่มของที่นอนและเตรียมการปรับแก้ให้เรานอนสบายนะคะ จะหาฟูกใหม่มาเปลี่ยนให้เด้งดึ๋งก็ได้ หรือหาเบาะรองนอนมาวางไว้บนฟูกเดิมเพื่อเพิ่มความนุ่มก็ได้เหมือนกันค่ะ
อีกสิ่งที่ต้องดูคือระบบไฟค่ะ มีปลั๊กอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง ถ้าจำนวนน้อยกว่าความต้องการ หรือดูแล้วตำแหน่งปลั๊กไม่น่าใช้ถนัด จะได้เตรียมปลั๊กพ่วงจากบ้านมาถูกค่ะ
และอีกอย่างที่ต้องดูคือระบบน้ำค่ะ ยิ่งถ้าหอไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้แต่แรกยิ่งต้องสังเกตจากข้างนอกด้วยว่าแทงค์น้ำของหอพักอยู่ในร่มหรือกลางแจ้ง ถ้าทนอาบน้ำเย็นช่วงหน้าหนาวไม่ไหวแล้วแทงค์ยังอยู่ในร่มอีกก็ติดน้ำอุ่นเถอะค่ะ การอาบน้ำสะอาด ๆ ห่มผ้าอุ่น ๆ ก็เป็นความสุขอย่างนึงเลย ถ้าต้องรู้สึกไม่อยากอาบน้ำหนาว ๆ ขึ้นมาคงน่าเศร้านะคะ

2. ก่อนรื้อของเข้าที่ โยกย้ายตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ให้ถูกใจเสียก่อน
เสียใจกับหอที่เฟอร์นิเจอร์บิลด์อินด้วย คุณไม่ได้ไปต่อค่ะ แฮ่ ข้อนี้คงใช้ได้กับหอที่เฟอร์นิเจอร์เคลื่อนที่ได้เท่านั้นค่ะ
ก่อนจัดห้องลองนั่งนิ่ง ๆ แล้วคิดว่าวันนึง ๆ เราจะทำอะไร เคลื่อนย้ายตัวเองไปที่ไหนบ้าง แล้วค่อย ๆ จัดของพลางคิดไปด้วยว่าจะวางอะไรไว้ตรงไหน ทำยังไงให้เวลาทำสิ่งนี้แล้วไม่จำเป็นต้องลุกก็สามารถหยิบของที่ต้องใช้มาจนครบได้ ก็ไม่เชิงว่าให้จัดห้องตามการยศาสตร์ (ergonomics) เท่าไหร่ แค่จัดให้ตอนที่เราอยู่จริงแล้วรู้สึกขึ้นมาว่า “สะดวกจังแฮะ ไม่ต้องลุกไปไหนเลย” ก็น่าจะเพียงพอแล้วค่ะ
หรือถ้าอยู่ห้องหลายคนแล้วชอบความเป็นส่วนตัว ถ้าไม่มีม่านมากั้น ก็ลองคิดดูว่าเฟอร์นิเจอร์ส่วนของเราสามารถจัดยังไงให้รู้สึกเป็นส่วนตัวขึ้นได้ เป็นต้นว่าหันเตียงตั้งฉากกับเตียงรูมเมทดีมั้ย โต๊ะกับตู้ในห้องเอามากั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเราได้รึเปล่า คิดว่าในหนึ่งวันของคนคงต้องมีบ้างที่รู้สึกอยากอยู่คนเดียวใช่มั้ยคะ แต่ถ้ารูมเมทอยู่ห้องตลอดเวลามันก็เป็นไปไม่ได้ล่ะสิ ลองหันเตียงออก หรือเอาอะไรมากั้นสายตาเราดูค่ะ สำหรับเราเราว่ามันทำให้รู้สึกดีขึ้นได้อยู่นะ รวม ๆ แล้วมันคือการสร้างความรู้สึกว่า “นี่คือพื้นที่ของฉัน” ขึ้นมาค่ะ วันที่ร้าย ๆ อยากนอนร้องไห้คนเดียวจะได้ร้องในพื้นที่ของเราให้เต็มที่ วันที่แฮปปี้จะนอนขำเงียบ ๆ กับตัวเองบนเตียงก็ไม่มีใครว่า (แต่ต้องเงียบ ๆ นะคะ เดี๋ยวรูมเมทจะหลอน บรื๋อ) เพื่อนเราคนนึงชอบบอกว่าเตียงนอนสบายขึ้นหลังจากจัดห้องด้วยแหละ ไม่รู้จริงป่าว อย่างน้อยก็สบายใจแน่ ๆ เปลาะนึง
อีกเรื่องที่จะเปลี่ยนเมื่อจัดห้องแบบมีอะไรกั้นคือการโฟลว์ของเส้นผมค่ะ ผู้หญิงบางคนอาจจะเจอบ้างที่เจอรูมเมทไม่ค่อยทำความสะอาดห้อง ปล่อยให้เส้นผมตัวเองปลิวมาที่ฝั่งเรา (หรือบางคนก็มาเป็นขยะเลยค่ะ ถุงพลาสติกเอย เปลือกหลอดเอย) การจัดห้องโดยนำของมากั้นครึ่งของเราจะช่วยกักเส้นผมและของที่จะปลิวมาให้กลับไปอยู่ในครึ่งของรูมเมทค่ะ (พอดีคนเขียนไม่ใช่แม่พระค่ะ แหะ ๆ แอบไม่พอใจเวลาทำความสะอาดห้องคนเดียวเนี่ยมันก็มีกันบ้าง)
อ้อ ที่บอกให้จัดก่อนจัดของเข้าตู้ เพราะเฟอร์นิเจอร์ก่อนจะยัดสัมภาระเข้าไปจะเบาพอให้สามารถเคลื่อนย้ายคนเดียวได้ค่ะ ถ้ายัดของไปแล้วบางทีจะดันจะผลักยังไงก็ไม่ยอมขยับซะแล้ว
ที่สำคัญก่อนจะเคลื่อนย้ายของ ดูพวกรูเสียบปลั๊กไฟให้ดีก่อนนะคะ จะเอารูไหนเสียบอะไร ปลั๊กอยู่ตรงนี้ถนัดใช้งานมั้ย ย้ายของตามใจเราอย่างเดียวไม่ได้ ต้องตามใจตำแหน่งปลั๊กไฟด้วยค่ะ และทางที่ดีก็ถ่ายรูปหอก่อนที่เราจะทำอะไรกับมันไว้ด้วย ตอนที่ย้ายออกจะได้จัดของกลับเข้าที่เดิมได้ง่ายขึ้นค่ะ

3. ดูคลิปวิดีโอพวก life hack แล้วลองเลือกทำตาม
อันนี้แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนเลยค่ะ ที่เราทำประจำหลัก ๆ คือเอาคลิปหนีบกระดาษมาช่วยตรึงสายไฟค่ะ โดยเฉพาะสายชาร์จโทรศัพท์กับไอแพด ทำแล้วเหตุการณ์เผลอกระชากสายจนปลั๊กหลุดเวลาจะลุกไม่เกิดขึ้นอีกเลยค่ะ เย้

4. เก็บของใส่ลิ้นชักก็จริง แต่ถ้าใส่กล่องไว้อีกทีก็ดีนะ
ข้อนี้ไม่ค่อยจำเป็นค่ะ แต่การเก็บของใส่กล่องไว้อีกทีีมีข้อดีของมันอยู่ กล่องช่วยจัดระเบียบสิ่งของได้ ช่วยให้เราหาของเจอง่ายขึ้น และเวลาเก็บของกลับที่ก็จะง่ายขึ้นเช่นเดียวกัน นอกจากนี้เวลาต้องย้ายออกก็ช่วยประหยัดเวลาในการเก็บของด้วยค่ะ เวลาย้ายเข้าการเก็บของมาเป็นกล่องก็จะช่วยให้เราพอประมาณได้ว่าเราจะยัดสัมภาระของเราลงไปในโต๊ะตู้เตียงของหอได้พอมั้ย จำเป็นต้องหาซื้อตู้เก็บของมาเพิ่มหรือไม่ค่ะ
สำหรับกล่อง แนะนำเป็นกล่องกระดาษแบน ๆ พับเก็บได้ค่ะ จะหากระดาษมาทำเองก็ยังได้ สำหรับเราเราชอบใช้กล่องกระดาษของโอโตยะค่ะ ที่เวลาสั่งเดลิเวอรี่เซ็ตที่มีปลาหรือเบนโตะจะได้มาเป็นกล่องสีฟ้าลายซากุระหุ้มมา หน้าตาแบบนี้

ตอนแรกเก็บไว้เพราะสวยดีค่ะ วันดีคืนดีก็คิดได้ว่าน่าจะเอามาใช้เก็บของแยกใส่ลิ้นชัก ขนาดกล่องมันแบน ๆ กำลังดีเลยค่ะ ติดเทปกาวให้อยู่ทรงหน่อยก็ใช้ได้ แต่อาจไม่เหมาะกับคนที่รำคาญฝากล่องนะคะ ฝามันจะงอ ๆ ขึ้นมาถ้าไม่กดให้ปิดดี ๆ ถ้าไม่ชอบก็ตัดฝาได้ค่ะ แต่ก็จะเสียฟังก์ชันกล่องมีฝาปิดไป ความสะดวกเวลาขนย้ายก็จะลดน้อยลงค่ะ

5. หากไม่อยากให้สิ่งใดฝุ่นเกาะ จงหาผ้ามาคลุมไว้
ต่อให้กวาดห้องทุกวันยังไงห้องก็ยังมีฝุ่น เราไม่ใช่คนขยันเช็ดฝุ่น เพราะฉะนั้นถ้าอะไรที่หาผ้ามาคลุมพื้นผิวไว้ได้ก็จะคลุมไว้ค่ะ เอาผ้าไปสะบัดมันง่ายกว่าเช็ดฝุ่นนี่เนอะ รวมถึงเตียงนอนด้วยนะคะ คลุมขึ้นไปให้ทั่วทั้งเตียงเลย จะได้ไม่ต้องปัดฝุ่นบนที่นอนบ่อย ๆ
ส่วนของบางอย่างที่เอาผ้าคลุมไม่ได้ เช่น โคมไฟอ่านหนังสือ แนะนำว่าหาทิชชู่เปียกมาไว้ใกล้ ๆ โต๊ะค่ะ เวลานึกออกก็หยิบมาเช็ด นอกจากจะสะอาดขึ้นยังทำให้แสงจากหลอดไฟสว่างสวยงามตามท้องเรื่องอีกด้วยนะคะ ปิ๊ง ๆ

6. จานชามไม่ควรวางติดพื้น หาวิธีทำให้มันลอยขึ้นมาซะ
ถ้าเสกคาถาวิงการ์เดียม เลวีโอซาไม่ได้ก็คงต้องเอามันไปวางบนโต๊ะหรือตู้แล้วล่ะค่ะ แม้จะเก็บจานชามในชั้นเก็บแบบมีฝาครอบก็ตามที สิ่งมีชีวิตไม่พึงประสงค์มันมุดเก่งกว่าเราค่ะ ทางที่ดีหาที่วางที่สูงขึ้นมาจากพื้นจะดีซะกว่า

7. ถ้าจำเป็นต้องลุกมาเดินมืด ๆ ตอนกลางคืน การติดดาวเรืองแสงช่วยคุณได้
ดาวเรืองแสงไม่ได้ทำได้แค่แปะผนังไว้นอนดูเล่นเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยมาร์คตำแหน่งขอบตู้ โต๊ะ และขอบอะไรต่าง ๆ ที่เราอาจจะชนในตอนกลางคืน และช่วยนำทางเราให้เดินไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนได้อย่างปลอดภัยโดยแทบไม่ต้องพึ่งพาไฟฉายเลยค่ะ

8. จะซกมกยังไงก็ควรจะใส่เสื้อผ้าใหม่ทุกวัน แต่อย่าลืมทำที่แขวนนอกตู้เสื้อผ้า
ข้อนี้เอาไว้เตือนใจให้ซักชุดนอนบ่อย ๆ ค่ะ ถ้าไม่ได้มีหลายชุดจะเอาไปซักพร้อมชั้นในก็ยังได้ การนอนเปิดแอร์ไม่ได้ทำให้ชุดที่ใส่อยู่ห้องสะอาดพอจะใส่ซ้ำหลาย ๆ วันได้หรอกค่ะ
ส่วนชุดที่บางทีก็จำเป็นต้องใส่ซ้ำจริง ๆ (แม้จะรู้ว่าไม่ควรแต่สถานการณ์มันบังคับอะ!) เช่น เสื้อกาวน์ เสื้อโค้ท เสื้อกันหนาว อันนี้แนะนำว่าควรมีที่แขวนเสื้อโค้ทไว้แขวนนอกตู้ค่ะ หรือจะหาราวสูง ๆ มาแขวนก็ได้ อย่าเอาใส่ตู้เสื้อผ้าให้ไปปนเปื้อนกับน้อง ๆ ที่สะอาดแล้วในตู้เสื้อผ้าเลยค่ะ หรือจะเอาไปผึ่งแดดผึ่งลมที่ระเบียงก็ดีเหมือนกันค่ะ (แต่เสื้อกาวน์เนี่ย…เข้าใจว่าน่าจะขี้เกียจเอาออกไปมากกว่า ก็ถอดแขวนไว้ในห้องก็พอค่ะ อย่าใส่ขึ้นเตียงเลย)

9. หาไอเทมประหยัดเนื้อที่มาใช้ซะ
เช่น กระเป๋าห้อยที่มีช่องเล็ก ๆ หลาย ๆ ช่องไว้เสียบของ ราวแขวนเสื้อโค้ทแบบห้อยกับประตูตู้เสื้อผ้า ถ้ามีเงินเหลือก็ซื้อ ถ้าต้นชนปลายบ่อย ๆ ก็ลองดีไอวายจากของที่มีค่ะ เวลาตู้เต็มแล้วของพวกนี้จะช่วยจัดเก็บของแทนตู้ ไม่ต้องวางบนโต๊ะให้ระเกะระกะค่ะ

10. ชั้นวางของในห้องน้ำที่ดีต้องมีรู
ห้องน้ำในหอส่วนใหญ่ไม่น่ามีพื้นที่ใหญ่โต เวลาอาบน้ำน้ำก็จะกระเซ็นไปโดน ฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำขังควรใช้ชั้นวางที่น้ำไหลผ่านได้ค่ะ จะเป็นตะแกรงแบบขนานหรือแบบตารางเล็ก ๆ ก็ได้ แต่ต้องมีช่องให้น้ำไหลลงสู่พื้น หรือถ้าใครชอบหิ้วตะกร้าเข้าออกห้องน้ำ อย่าลืมซื้อตะกร้าที่มีช่องให้น้ำผ่านออกที่ก้นตะกร้าด้วยค่ะ
ที่วางสบู่ที่เป็นชั้นยื่นออกมาจากผนังเล็ก ๆ ถ้าขี้เกียจทำความสะอาดก็ไม่แนะนำให้ใช้วางสบู่ก้อนลงไปค่ะ หากล่องใส่แล้ววางสบู่บนตะแกรงของเราดีกว่า ชั้นนั้นเอาไว้วางเครื่องอาบน้ำที่เป็นขวด ๆ จะดีกว่า
รวมถึงถังเก็บน้ำด้วยค่ะ ถังพลาสติกถ้าใครเคยใช้คงนึกออกว่าฝาถังมักเป็นช่องเว้าที่น้ำเข้าไปขังได้ พวกนี้ถ้าไม่หมั่นทำความสะอาดก็จะสกปรกค่ะ ลองหาฝาเรียบมาใช้แทน หรือหาฟิวเจอร์บอร์ดมาปิดให้รอบก็จะดีค่ะ

11. ถึงหอจะมีแอร์ก็ต้องมีพัดลมด้วยนะ
ถ้าไม่มีให้ก็ต้องขนไปค่ะ วันดีคืนดีแอร์เสียขึ้นมาเราจะได้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เข้าใจง่ายกว่าอย่างพัดลมไว้ทดแทน

12. ทำที่นอนให้น่านอน
ที่นอนที่น่านอนนี่ก็แล้วแต่คนเลยค่ะ จัดที่นอนตามที่เราเห็นว่าแบบนี้น่านอนที่สุดแล้วจำไว้ จากนั้นก็รักษาสภาพให้เป็นแบบเดิมก็พอค่ะ อย่าให้เวลาอยากทิ้งตัวลงนอนแล้วรู้สึกว่าไม่มีที่นอนก็พอ
สำหรับห้องที่เตียงเป็นเตียงคู่บางทีเราอาจเผลอวางของไว้บนเตียงบ้าง เช่น หนังสือ เสื้อผ้า ก็อย่าลืมเอากลับที่ก็พอค่ะ เสื้อผ้าถ้ารู้ตัวว่าชอบถอดไว้แถวเตียงก็เลื่อนตะกร้าผ้ามาไว้ข้างเตียงก็ได้ ถ้าชอบอ่านหนังสือบนเตียงก็เอาชั้นเก็บหนังสือมาวางไว้ในระยะที่เอื้อมถึงจากเตียงได้ จัดตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ดีมีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ

13. ถ้าใจแข็งพอ พูดคุยกับรูมเมทเกี่ยวกับข้อจำกัดของแต่ละคนตั้งแต่แรก
ไม่จำเป็นต้องพูดหมดก็ได้ค่ะ แต่การที่มีคนเริ่มพูด อีกฝ่ายจะรู้สึกว่าสามารถพูดเรื่องนี้กับอีกฝ่ายในครั้งถัด ๆ ไปได้ค่ะ มีอะไรที่ไม่ชอบใจจะได้พูดกันได้ อะไรเปลี่ยนไม่ได้ก็บอกกันได้ว่าเคยชินมาอย่างนี้นะ กินอาหารมีกลิ่นในห้องได้มั้ย เปิดเสียงเวลาฟังเพลงในห้องได้หรือเปล่า เรื่องหยุมหยิมพวกนี้ถ้านึกออกพูดออกมาก็ดีค่ะ เพราะรูมเมทจะรำคาญอะไรกันก็มาจากเรื่องหยุมหยิมพวกนี้แหละ
ข้อนี้เราเองก็ไม่ได้ทำได้ทุกครั้งหรอกค่ะ แต่พอจะรู้สึกได้ว่าบรรยากาศในห้องถ้าได้พูดกันจะสบายขึ้น

14. เทคนิคกำจัดแมลงสาบ!
สัตว์น่ารำคาญ (หรือน่ากลัว) พวกนี้เนี่ยบางทีต่อให้สะอาดยังไงก็วิ่งมาจากห้องอื่นได้ค่ะ แก้โดยหาคิ้วกันแมลงมาติดขอบล่างของประตูค่ะ คิ้วกันแมลงก็มีหลายแบบเลยทั้งแบบขนแบบเรียบ แปะบนแปะล่าง ลองเสิร์ชหาดูค่ะ
แต่ถ้ามันเข้ามาได้แล้วเราก็อย่าไปยอมค่ะ ฆ่าได้ฆ่า! อาจจะโหดร้ายแต่ก็ดีกว่าปล่อยให้มันมาวางไข่ออกลูกออกหลานในห้องเรานะคะ กระซิก ๆ ทีนี้วิธีฆ่าที่ง่าย (?) และไร้สารพิษจากสเปรย์กำจัดแมลงสาบที่สุดก็คงเป็นการหาอะไรมาตีใช่มั้ยคะ แต่คนใจเสาะอย่างเราทำไม่ได้ค่ะ แง *ร้องไห้น้ำตาท่วม* เลยมาขอนำเสนอวิธีฆาตกรรมน้องแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ค่ะ
อุปกรณ์ที่ต้องใช้มีแค่ 1) ฟ็อกกี้/ขวดสบู่แบบกด 2) น้ำเปล่า 3) สบู่/น้ำยาล้างจาน
วิธีทำก็แค่ผสมน้ำกับสารลดแรงตึงผิว (สบู่/น้ำยาล้างจาน) ใส่ในฟ็อกกี้หรือขวดกด วางไว้ในตำแหน่งที่หยิบง่าย จากนั้นพอเหยื่อออกมาในที่โล่งก็รีบคว้ามาเขย่าและยิงใส่เหยื่อด้วยความรวดเร็วค่ะ เหยื่ออาจจะวิ่งได้อยู่ในปั๊มแรก ๆ แต่ขอให้มีความพยายามวิ่งตามไปฉีดต่อ ซักพักเหยื่อจะแน่นิ่งจมฟองสบู่ไปเองค่ะ ขออโหสิกรรมให้เราด้วยนะปีเตอร์ทั้งหลาย ฮึก

หมดแล้วววที่นึกออกตอนนี้ เย่ หวังว่าจะพอมีประโยชน์บ้างนะคะ มีอะไรมาแบ่งปันกันได้ วันนี้ขอลาแล้วค่ะ สวัสดี -/-

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น