เกริ่นก่อนว่า เราเรียนอยู่คณะมนุษยศาสตร์ สาขาภาษาฝรั่งเศส ตอนนี้อยู่ปี 4 และกำลังเตรียมตัวเผชิญกับช่วงเปลี่ยนผันของชีวิต (นั่นก็คือรอจบการศึกษา และหางานทำนั่นแหละ) และเหตุผลที่เลือกไปฝรั่งเศสก็เพราะเรียนภาษาเขามาตั้งหลายปี ตั้งแต่มัธยมจนมหาลัย ก็อยากไปสัมผัสฝรั่งเศสแบบเรียลๆ บ้าง
ทางโครงการติดต่อกลับมาพร้อมสัญญาที่ต้องเซ็นและใช้ประกอบในการทำวีซ่าของเรา เราได้ไปฝึกงานในส่วนของ F&B (ตามที่ถูกถามตอนสัมภาษณ์ว่าอยากไปทำตำแหน่งไหน) ซึ่งเรียกได้ว่าไม่มีประสบการณ์งานด้านนี้เลยเถอะ ถึงจะได้ไปลองงานในโรงแรมมาแล้ว... ก็... ค่อนข้างเซอร์ไพรส์และแอบจิตตกในเวลาเดียวกัน โรงแรมที่ต้องไปอยู่ในระยะเวลา 3 เดือนเป็นโรงแรมที่อยู่ในเมือง Nice เป็นเมืองใกล้ๆ กับ Cannes ซึ่งเราสามารถเดินทางไปมาระหว่างสองเมืองนี้ด้วยรถไฟหรือบัส หลังจากรู้ชื่อโรงแรมก็เปิด Google ทันที!
อืม... ไม่เลว อยู่ในเมือง ติดย่านชุมชน แหล่งชอปปิ้ง... รอดแล้ว!
หลังจากนั้นเราก็ไปทำวีซ่า ซื้อของ และเตรียมตัวบินแบบสวยๆ... ค่ะ...
การบินเดี่ยวออกนอกประเทศครั้งแรกในชีวิต ภาพในหัววาดฝันไว้ (โคตรร) สวยงาม มีก้อนเมฆนุ่มนิ่ม มองเห็นเมือง ไม่ก็ประเทศต่างๆ เวลาบินผ่านแบบฟินๆ แต่ความเป็นจริงคือ เราการที่ต้องนั่งแหง็กอยู่บนเครื่องสิบกว่าชั่วโมง บินตอนเที่ยงคืน มองไม่เห็นแม้กระทั่งปีกเครื่องบิน แม่งโคตรจะไม่บันเทิง! แนะนำว่าแต่งตัวแบบสบายๆ ขึ้นเครื่องดีกว่า และใครที่ชอบเมารถ เมาเรือ เตรียมยาไปด้วยก็ดี เพราะเรา...
เมา เครื่อง บิน!
(ข่มตานอน)
บินรวดเดียวสิบกว่าชั่วโมงอาจจะดูเว่อร์ไป อันที่จริงเราต่อเครื่องที่โดฮา โดยบินเดี่ยวจากไทยไปลงโดฮา ไปเจอเพื่อนอีกคนที่เลือกมาฝึกฝรั่งเศสทางใต้เหมือนกัน แต่คนละเมือง แล้วบินต่อไปที่ Nice เลยยยยยย!
ตอนใกล้จะถึง (โดยอิงจากเวลาสิบกว่าชั่วโมงนั่นแหละ) ภาพที่เห็นผ่านหน้าต่างคือเหมือน "ฝัน" เราบินมาถึงตอนประมาณบ่ายสองโมง แดดกำลังดีเลยยย ข้างล่างเป็นเมืองตากอากาศที่มีตึกสีส้มชมพูสลับกัน ทะเลที่จรดกับท้องฟ้าจนกลืนเป็นสีเดียวกัน ตึกของสนามบินมีป้ายต้อนรับ "Nice to meet you" ให้เห็นตอนรอลงจากเครื่อง คิดว่าน่าจะมาจากการเอาคำว่า Nice ที่เป็นชื่อเมืองมาเล่นคำ ตอนนั้นมีเสียงในหัวแค่...
"โคตรดี"
และ
...
"กูมาถึงแล้วค่ะ!"
ตอนลงจากเครื่องได้สัมผัสอากาศข้างนอกเล็กน้อยก่อนไปเอากระเป๋า ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดอุณหภูมิอยู่ที่ 15 องศา (กำลังเข้าหน้าร้อน) มีลมเย็นๆ กับเสียงต้นไม้ลู่กับลมที่พัดมาจากทะเล ตอนนั้นแค่อากาศเย็นก็ตื่นเต้นแล้ว หลังจากเอากระเป๋าเสร็จเราก็เดินไปรอคนจากโรงแรมที่นัดกันว่าให้มารับ ซึ่งเราไม่เคยเห็นหน้าเขา มีแค่เบอร์โทรเท่านั้น และรออยู่นานมากเกือบชั่วโมงก็ไร้วี่แวว สุดท้ายติดต่อทางเจ้นไป เขาก็ตอบกลับมาทันทีว่า เดี๋ยวติดต่อให้ และให้เรารออยู่ที่ประชาสัมพันธ์ของสนามบิน ก็รอนานอีกเช่นเคย เริ่ม ปสด... (อันนี้คือประสาทแดก) เลยขอให้เจ๊ผมทองที่อยู่ประชาสัมพันธ์ติดต่อเบอร์คนมารับให้ โอเคตอนนี้ติดต่อได้แล้ว เขากำลังมา สุดท้ายมารู้ว่า เขามารอเราตามเวลาที่เครื่องบินจะลง แต่เรายืนรอกระเป๋านานมาก เกือบชั่วโมง และเขาต้องรีบไปส่งลูกค้าเหมือนกันเลยเลือกไปส่งลูกค้าที่โรงแรมก่อน สุดท้ายเลยน่าจะคลาดกัน
(เรื่องคนมารับไปโรงแรม อันนี้ลองขอทางเจ้นดูนะ อาจจะได้หรือไม่ได้ก็ลองดู เราคุยได้)
โอเค... เราขึ้นรถของทางโรงแรมมาแล้ว และเขาบอกว่าต้องไปทำธุระอีกที่ก่อนเข้าโรงแรม เราก็โอเคไปเลยค่ะ บนรถเราก็คุยกับเขาไปว่า นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มาต่างประเทศ เมืองนี้สวยมาก วันนี้อากาศดีมาก (บลา บลา) สุดท้ายมาถึงโรงแรม ได้เจอกับ "ชาร์ลอตต์" ซึ่งทำหน้าที่ Front อยู่ที่นี่ นางดูใจดี พอรู้ว่าเราเป็นเด็กฝึกงานก็เข้ามาคุยด้วยใหญ่เลย แถมยังช่วยลากกระเป๋าขึ้นลิฟท์ไปส่งที่ห้องพักอีกด้วย (ที่พักของเราอยู่ในโรงแรมนะ ในส่วนของพนักงาน)
เราก็มาถึงห้องซึ่งมีเด็กฝึกงานอยู่มาก่อนแล้วสองคนในห้องนี้ ไทยหนึ่งคน ฝรั่งเศสหนึ่งคน แต่ตอนนี้เหมือนทุกคนจะทำงานอยู่ เราก็หาที่วางกระเป๋า สำรวจห้องไป (เอาจริงๆ ห้องไม่ได้ใหญ่มากพอจะใช้คำว่า "สำรวจ" ด้วยซ้ำ) ยังไม่ทันได้พักจากการนั่งตูดเปื่อยสิบกว่าชั่วโมงบนเครื่องบินก็ถูกเรียกไปที่ F&B ทันที
เขาเรียกเราให้มาที่บาร์ของโรงแรม (สภาพตอนนั้น น้ำฉันก็ยังไม่ได้อาบ) ให้มารับชุดทำงาน วันเวลางาน มาทำความรู้จักกับเมเนเจอร์ของห้องอาหาร เราได้เจอกับ "ปีแอร์" และ "จอร์น" เราก็แนะนำตัวไป และถูกถามว่าจะเลือกทำหน้าที่อะไร ระหว่าง "ห้องอาหาร" กับ "ครัว" ด้วยความที่ฉันไม่มีสกิลการทำอาหารใดๆ จึงเลือกทำที่ห้องอาหาร ซึ่งมีหน้าที่ดูแลแขกในช่วงเช้าและบ่าย หลังจากนั้นปีแอร์ก็ปล่อยให้ขึ้นไปพักแล้วมาเจอกันในวันทำงานวันแรกตอน 7 โมงเช้า...
เราได้อยู่ห้องที่ไม่ใหญ่มาก มีห้องน้ำส่วนตัว มีเครื่องทำความร้อน มี Wifi ไม่มีแอร์ แต่มีพัดลมตั้งโต๊ะให้ (อากาศไม่ร้อน เราอยู่ได้... เชื่อดิ ขนาดไปซัมเมอร์...) กลางวันถ้าต้องนอนอืดในห้องอาจจะร้อนหน่อย เราเลยชอบแอบมานั่งเป็นแขกของโรงแรมที่แผนกต้อนรับ แอร์มันฉ่ำ...
ไม่มีตู้เย็น! (เวลาอยากทำอาหารคือต้องกินให้หมด เก็บไม่ได้ หรือจะใช้ตู้เย็นโรงแรมก็ได้ แต่!! เราต้องคุยกับเชฟก่อนนะ เขาเหมือนเจ้าของครัวเวลาจะทำไรก็บอกเขาก่อน) เราโชคดีที่เพื่อนคนไทยที่อยู่มาก่อนไม่รู้เขาเอาหม้อสุกี้กับกาต้มน้ำมาจากไหน เราเลยได้ใช้ด้วยก็ถือว่าโชคดีไป เวลาหิวกลางดึกต้มมาม่ากินได้เลย ภายในห้องมีหน้าต่างบานใหญ่หนึ่งบาน พอได้ส่องลงไปจะเห็นถนนข้างโรงแรม ช่วงเลิกงานแอบวุ่นวายเพราะเสียงรถเบาๆ นอกจากนั้นก็มี ตู้เสื้อผ้า ชั้นเก็บของ
ห้องที่เราพักจะอยู่ในโรงแรมเลยในส่วนของพนักงาน และอยู่ติดกับห้องทำงานของหัวหน้า ซึ่งเวลาเลิกงานของเรา 14:30 แต่หัวหน้าชอบนั่งทำงานในห้องจนถึงห้าหกโมง บางทีอาจจะต้องเงียบๆ หน่อย เราเคยเปิดคอนเสิร์ตในห้องจนโดนดุเบาๆ...
อีกอย่างคือเราสามารถใช้ซักรีดของโรงแรมได้ฟรี!! แต่ต้องเป็นชุดใส่ทำงานเท่านั้น ส่วนเสื้อผ้าอื่นๆ เราต้องไปซักเองที่ร้านข้างนอก เราซักอาทิตย์ละครั้ง ครั้งหนึ่งอย่างต่ำ 8 ยูโร ราคาแอบแพง เราต้องอบแห้งด้วย เพราะห้องเราไม่มีระเบียง เวลาอบแห้งมาแต่ยังไม่แห้งสนิท เราก็ต้องเอามาพักหน้าตู้เสื้อผ้าแปบนึงก่อน
ส่วนผ้าปูที่นอน ถุงขยะ เราสามารถไปหยิบของโรงแรมที่เขาไว้ใช้กับแขกได้เลย แต่ต้องแจ้งก่อนด้วยนะ ไม่งั้นอาจจะโดนดุนะจ้ะ
ขั้นแรก
- ติดต่อทาง Ieo รับคำแนะนำ คำปรึกษา (อยากรู้อะไรก็ถามไปเลย ไม่งั้นเราจะไปกังวลเองนะ)
- ส่งเรซูเม่ (ทางเจ้นจะมีฟอร์มให้)
- รอสัมภาษณ์ (ของเราสัมกับเจ้าของโครงการ)
- ระหว่างรอเซ็นสัญญางาน ใครยังไม่มี Passport ก็ไปทำรอได้เลย
- ซื้อตั๋วเครื่องบิน (เราซื้อตั๋วไป-กลับบนแอพเอง ไม่ได้ผ่านเจ้น)
- ทำวีซ่า (วิธีกรอกข้อมูลต่างๆ มีให้ดูใน YouTube เยอะแยะเต็มไปหมด)
ขั้นสอง
- ซื้อของจำเป็น เสื้อผ้า ยา เครื่องสำอาง (บลาๆ) แนะนำว่าใครมีโรคประจำตัว ก็ให้เตรียมยาไปเยอะๆ เลย ไม่ว่าจะยาแก้ปวด แก้ท้องเสีย แก้เมาเครื่องบิน... เตรียมไปเลยย!
- ซื้อกระเป๋าเดินทาง (ขนาดกระเป๋าแนะนำว่าให้ไปดูด้วยตาตัวเอง ลองเลือกที่คิดว่าเหมาะกับตัวเอง ไม่ใหญ่หรือเล็กไป เพราะถ้าใครต้องเดินทางไปโรงแรมเองอาจจะลำบาก แต่ถ้าได้มาเมือง Nice เหมือนเรา ชิลได้เลยค่ะ มีรถรางวิ่งไปทั่วเมือง)
ขั้นสาม
- เตรียมบิน (เช็คดูตั๋วเครื่องบินที่ปริ้นท์จากคอม Passport เอามาด้วยมั้ย ? เราถือใบที่เซ็นสัญญากับโรงแรมติดกระเป๋าถือขึ้นเครื่องไปด้วย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินใดๆ)
- เช็คอิน โหลดกระเป๋า
บินนนนนนนนนนนนนน!
"ถ้าเรามีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับการฝึกงานให้ถามเจ้นเลย ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่"
"บางครั้งถ้าต้องพึ่งตัวเอง Google ช่วยเราได้เสมอ (5555) ไม่ว่าจะวิธีการจองตั๋วเครื่องบิน การทำวีซ่า หรือแม้แต่สำรวจสนามบินที่จะไปเปลี่ยนเครื่อง สิ่งของจำเป็นก่อนบินไปต่างประเทศ มีคนแนะนำเราไว้เยอะมากๆ"
"เตรียมเงินติดตัวไปสัก 20,000 อาจจะแบ่งติดตัวกับในบัญชีแบบครึ่งๆ ก็ได้"
"เปิดบัญชีไทยไว้กดเงินหรือโอนเงินให้ดูว่ามีคำว่า Visa มั้ย (ใช้เพื่อกดตู้ที่ต่างประเทศ และที่ฝรั่งเศสไม่ใช่ทุกตู้จะกดได้นะ ถามพนักงานก่อนจะกดด้วย ไม่งั้นโดนกินบัตรไม่รู้ด้วย ทุกครั้งที่กดจะมีค่าธรรมเนียมสำหรับบัญชีต่างประเทศ ของเรา 100 บาท)"
"ซื้อซิมส์ไว้ใช้เน็ตระหว่างการเดินทาง ลองไปสืบดูแต่ละเครือข่าย อันนี้เราว่าจำเป็นมากนอกจากใช้ติดต่อ และแก้เบื่อแล้ว เราได้ดูเวลาหรือเกทขึ้นเครื่องได้ บางครั้งไปรอดูที่สนามบินมันอัพเดทช้ากว่าในแอพ มันจะยิ่งทำให้เสียเวลาตอนต่อเครื่อง"
"ตอนซื้อตั๋วเครื่องบิน ถ้าใครไม่ได้อยู่กรุงเทพหรือบ้านห่างไกลจากสนามบิน ดูวันเวลาดีๆ นะ (อย่าบ้งเหมือนเรา) เช่น ถ้าเครื่องที่จะขึ้นอยู่สุวรรณภูมิจะบินวันที่ 2/10/19 เวลาเที่ยงคืน เราจะต้องไปถึงสุวรรณภูมิในวันที่ 1/10/19 นะ และทุกครั้งที่ขึ้นหรือต่อเครื่องเผื่อเวลาดีๆ อย่างต่ำ 3 ชั่วโมง นี่ระยะปลอดภัย เพราะเวลาเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินต่างประเทศ เราไม่รู้ทางนะเว้ย แต่ไม่ยาก บอกแล้วไม่มีอะไรเกินความสามารถ! ดูป้าย Transfer ไป แต่ถ้าบ้งจริง ถาม! ใครสักคน พนักงานในสนามบินหรือคนที่บินมากับเรานั่นแหล่ะ)"
"อยู่ไกลไปเกือบหมื่นไมล์ คนที่จะให้คำปรึกษาเราได้ดีกว่าเจ้นคือ เพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้า มีไรสงสัย หรือขอความช่วยเหลือใดๆ บอกเขาได้เลย ไม่ต้องกลัว เขาพร้อมช่วยเราอยู่แล้ว"
พูดภาษาฝรั่งเศสไม่เก่ง ทำไง?
"ภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆ ก็เอาตัวรอดได้เด้อออ... แต่ไปถึงที่แล้วก็ลอง Bonjour! ไม่ก็ทักทายแบบแก้มชนแก้มหน่อยก็ไม่เลว (คิ้กค้าก)"
"ไปถึงที่แล้วอย่าเสียเวลานอนอืดอยู่ในห้อง ออกไปเที่ยว ออกไปรับแดดข้างนอกด้วย ใช้ชีวิตให้เต็มที่ อยากลองทำอะไรลองเลย ถ้าา! มันไม่ส่งผลเสียหรือเป็นอันตรายกับตัวเอง"
สิ่งที่เรามาเล่าให้ฟังมันแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เวลาที่เราไปเจอกับมันจริงๆ มันมีรายละเอียดยิบย่อยอีกมาก แต่เราจะผ่านมันไปได้แน่นอน ไม่มีอะไรยากหรอก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in