"ถ้าศีลไม่เสมอกันก็คงไม่มีวันไหนที่ได้โคจรมาเจอกันหรอก ยาก" -สหายท่านหนึ่งได้กล่าวไว้
ถ้าเราอยากจะรู้จักใครสักคนมากๆ เราต้องทำยังไงกันเหรอ แต่ละคนคงมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป บางคนคงคิดว่าการทำความรู้จักกับใครสักคนมันเป็นแค่เรื่องง่ายๆ แต่กับคนแบบเรา มันยากมากจริงๆ
กับคนขี้แพ้ คนที่เก็บความรู้สึก คนที่น่าเบื่อแบบเรา มันยากมากเลยนะ...
เราปลื้มเค้ามาได้สัก 2-3 เดือนแล้ว
เราอยู่คนละสังคม คนละสถาบัน คนละคณะ
ถ้าเราเป็นพี่เลี้ยงคอยดูคนบนแสตนเชียร์ เขาก็อยู่กลางสนามตามสไตล์ผู้นำเชียร์แหละ
ไม่มีทางไหนที่จะพาให้เรามาเจอกันในสถานการณ์ที่สามารถยืนคุยกันได้แล้วถามว่า"เธอชื่อไรอ่ะ คณะไหน?" เลย ดูท่าแล้วเราคงอยู่ขั้วเดียวกันของแม่เหล็กที่ดีดตัวออกจากกันตลอดเวลา
ความเป็นเพื่อน ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะไปถึงได้ไหม ตอนนี้แค่คนรู้จักก็ยังลำบากเลย แต่บอกตามตรงว่าเราเองก็ไม่ได้คิดอยากจะไปครอบครองเขาเพราะเรารู้ตัวเองดี แค่เราได้รู้จักเขาก็ดีมากแล้ว มีใครสักคนให้ได้ติดตามในทุกๆวันที่น่าเบื่อ มันก็ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่ง
เราแค่อยากมีเขาในชีวิตแบบนี้เรื่อยๆไป เป็นความทรงจำช่วงหนึ่งที่ดีของชีวิต ฟังแล้วแลดูโรคจิตหรือเปล่าก็ไม่รู้
เรารวบรวมความกล้าออกไปเจอเขา 2 ครั้ง ซึ่งก็แน่ใจว่าเขาคงจำไม่ได้ทั้ง 2 ครั้งเช่นกัน ซึ่งปกติเราเป็นคนเก็บตัวไม่ค่อยออกไปไหนถ้าอยู่ที่ม.หรืออาจเรียกง่ายๆว่าขี้เกียจ ตลกตัวเองดีเหมือนกันที่ลงทุนทำอะไรแบบนี้
พอได้เจอเขา เราก็ไม่รู้จะงัดไม้ไหนขึ้นมาพัฒนาความสัมพันธ์ให้ได้เป็นเพื่อนกัน มีเพื่อนแนะนำให้เริ่มจากประโยคที่ว่า "เธอๆเพื่อนเธอคนนั้นเป็นไงบ้าง ยังจำมันได้มั้ย" แต่พอมีเขาอยู่ตรงหน้าแล้วจริงๆประโยคนั้นดูยากขึ้นไปอีกสำหรับเรา ยิ่งเป็นคนที่ต่อบทสนทนาไม่เก่งนี่ยิ่งแล้วใหญ่ จะทำยังไงดี ในหัวคิด คิด คิด แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยความคิดที่ว่า ไม่เอาดีกว่า มันแปลก มันดูตลก เขาอยู่กับเพื่อน อย่ารบกวนเขาดีกว่า อาการจิตตกแบบนี้เกิดขึ้นตลอดเมื่ออยู่ตรงนั้น ตรงที่มีเขาอยู่
แม้แต่การอ้าง mutual friends ก็ยังช่วยเหลืออะไรไม่ได้ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือยืนมองหรือไม่ก็ขอถ่ายรูปเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นและไปต่อยังไงดี
อาจบอกได้ว่าเราทิ้งโอกาสที่มี เราทำไม่เต็มที่เอง มันก็คงจริง คงเป็นเพราะเราเองไม่มั่นใจ คงเป็นเพราะเราเองไม่กล้าพอ คงเป็นเพราะเราขี้กังวล หรือคงเป็นเพราะมันยังไม่ใช่โอกาสที่ใช่ล่ะมั้ง
เขามักถูกรายล้อมด้วยเพื่อนๆเสมอ เขาเป็นที่รักของหลายๆคน เราเองก็คงได้แต่เป็น"ผู้ชมที่ดี"ต่อไปแหละ หวังว่าคงจะมีสักวันที่กล้าทำอะไรสักอย่างที่เขาจะจำเราได้ในฐานะเพื่อน สงสัยคงจะนกวนๆไปซะละมั้ง
After reading, you may want to listen to this song:
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in