การมาฝึกงานที่นี่ เราได้ลองทำอะไรหลายอย่างมาก ด้วยความที่เป็นห้องสมุดขนาดเล็ก 

บรรณารักษ์ก็มีแค่ไม่กี่คน ในหนึ่งคนเลยจะได้ทำอย่างครอบคลุม และทุกคนก็คอยช่วยเหลือกัน

.

.

เรากับเพื่อนได้มีโอกาสช่วยพี่ ๆ ออกแบบกิจกรรมในเดือนกรกฎาคม ในครั้งแรกพวกเราเสนอไปแต่ก็ได้ฟีดแบคกลับมา เราเสนอสิ่งที่คิดว่าถ้าเด็กได้ทำน่าจะสนุกดี เลยเอาสิ่งที่เรียนมาประยุกต์ใช้ 

ช่วยกันออกแบบ แต่เราลืมคิดถึงเรื่องมูลค่าของมัน มันไม่ใช่กิจกรรมฟรี ผู้ปกครองจ่ายเงินมาเพื่อซื้อประสบการณ์ให้ลูก ๆ ของเขา ประสบการณ์ใหม่ที่หาไม่ได้จากที่บ้านอะ พวกเราเลยคิดกันอย่างหนักว่าจะออกแบบกิจกรรมยังไงให้สร้างสรรค์และเหมาะสม คุ้มค่ากับราคามากที่สุด ที่สำคัญคือเด็กต้องได้อะไรกลับบ้านด้วย ซึ่งเรารู้สึกว่างานนี้เครียดสุด อีกอย่างคือถึงจะคิดไม่ออกแต่ก็ต้องคิดกันให้ออก ด้วยความที่มีตารางเวลาที่ฟิกไว้ ทำให้เราเข้าใจคำว่าทำงานแข่งกับเวลาก็วันนี้แหละ เพราะไม่ใช่ว่าเราคิดวันนี้แล้วพรุ่งนี้จะทำได้เลย พอคิดเสร็จก็ต้องไปประสานกับแผนกอื่นอีก ต้องเตรียมอะไรอีกมากมาย 

ไม่ได้เริ่มและจบที่เราอยู่คนเดียว 

‘ข้าวผัดหิ่งห้อย’ เป็นหนึ่งเมนูในกิจกรรม cooking class เราออกแบบกันว่าเราจะอ่านนิทานที่เกี่ยวกับหิ่งห้อยให้เด็ก ๆ ฟังก่อน จากนั้นจึงสอนเด็ก ๆ ทำข้าวผัดร่วมกับผู้ปกครอง ในข้าวผัดเวลาใส่ซีอิ๊วหวาน ข้าวจะมีสีดำเหมือนกับสีของท้องฟ้ายามค่ำคืน แล้วใส่ฟักทองลวกหันเต๋า แทนแสงหิ่งห้อย และใส่อย่างอื่นได้อีกตามใจชอบ ก่อนจัดกิจกรรมจริงพี่ ๆ ให้พวกเราได้ลองทำข้าวผัด เพื่อลองรสชาติ 

แล้วจะได้รู้ขั้นตอนเพื่อไปสอนน้อง ๆ ได้

สิ่งที่เรากับเพื่อนชอบทำคือ งานประดิษฐ์ ในขั้นตอนเตรียมกิจกรรม เราก็ต้องลองทำสิ่ง ๆ นั้นออกมาก่อนตลอด เพื่อทดลองว่ามันใช้ได้จริงไหม อันตรายไหม เรื่องอื่นก็ต้องคิดเผื่อมาก ๆๆ ด้วย