มันเป็นความรู้สึกอึดอัดเหมือนกำลังถูกขายตรง
จากคนที่นั่งข้างๆบนรถเมล์
ทำได้แค่ส่งยิ้มแห้งๆกลับคืนไปให้ในบางจังหวะ
.
นั่นมันแค่คำเปรียบเปรยในความรู้สึกของบางห้วง
การพยายามสร้างสัมพันธภาพใหม่ๆเป็นสิ่งที่ดีนะ
ในหลายๆสถานะนั่นแหละ รวบไปทั้งหมดเลย
.
คงเริ่มจากการชวนคุยแลกเปลี่ยนเรื่องพื้นฐานกัน
ใช้เป็นวัตถุดิบในการต่อยอดเพื่อสร้างสัมพันธ์
แต่เราก็คิดว่ามันต้องมีจังหวะดีๆของมันนะ
.
เคยอึดอัดจากบทสนทนาที่เหมือนถูกขายตรงน่ะ
พยายามยัดเยียดสิ่งที่เราก็ไม่ได้สนใจ
เพื่อการก้าวไปสู่การสร้างสัมพันธ์ที่รวดเร็วเหรอ?
และยังย้ำอีกครั้งว่าในที่นี้ก็หมายถึงทุกความสัมพันธ์
.
เราอาจจะเคยเป็นทั้งคนที่ยัดเยียดอาการฮาร์ทเซลนี้
และก็คงเคยเป็นนังเอ๋อที่ได้แต่พยักหน้ารับฟังการขาย
แล้วมันก็คงจะพบแต่ความไม่ลื่นไหลในบทสนทนา
.
หากอยากจะรู้จักใครสักคนจริงๆเราคิดว่า
การคอยสังเกตุและซึมซับสิ่งที่เขาทำมันจะน่ารักกว่ามั้ยนะ
.
หากเป็นคนที่มีเรื่องกึ่งกลางระหว่างกันก็คงง่ายหน่อย
การได้เฝ้ามองคนที่เราสนใจเนี่ย มันได้เห็นมุมต่างๆของเขา
พอเห็นเข้าบ่อยก็ได้ซึมซับ และเริ่มศึกษา
จากนั้นเราอาจจะมาบรรจบกันได้อย่างพอดีเลยนะ
หรืออาจจะกลายเป็นว่าไม่ได้ชอบไปเลยก็ได้ นั่นก็จบ
.
การพยายามยัดเยียดสิ่งที่ตัวเองมีถมลงไปให้อีกฝ่าย
มันก็คงมีแต่มวลของความอึดอัดอบอวลอยู่ในบรรยากาศรอบๆ
.
บทสนทนาที่จะไปได้ดี
เราก็คิดว่าควรสังเกตุคู่สนทนาด้วยจะดีมั้ย
ยิ่งหากเป็นการสานสัมพันธ์ที่ต้องต่อยอดกันไปอีกไกล
เราว่าควรใส่ใจในเรื่องนี้จะดูน่ารักมากเลยแหละ
การเล่าหรือพูดเอาเองฝ่ายเดียว
ชวนให้มีแต่บรรยากาศอึมครึมเปล่าๆ
นี่การสนทนานะไม่ใช่ทอล์กโชว์
.
ครั้งหนึ่งขณะยืนรอรถอยู่หน้าหมู่บ้าน
ลุงข้างๆเดินมาชวนคุย ถามเรื่อยเปื่อย
และก็ต้องขึ้นรถสายเดียวกัน
คุณลุงต่อบทสนทนาด้วยการพยายามขายของ
เราก็ไม่ได้ว่าขายของไม่ดีและลุงไม่ดี
แต่เราอาจจะผิดกลุ่มเป้าหมายลุงไปหน่อย
และคงจะผิดที่จังหวะอีกด้วยนั่นแหละ
เราได้แต่พยักหน้า อ๋อค่ะ พยายามเบี่ยงหน้าหนีหน่อยๆ
ก็กลับไม่เป็นผลอะไร มีแต่ก้อนความอึดอัดก้อนใหญ่
ที่มันจุกอยู่ในห้วงอารมณ์ ณ ขณะนั้น
เราเข้าใจคุณลุงนะว่าเขาทำหน้าที่อยู่ นั่นคือหน้าที่
คุณลุงได้ให้นามบัตรกับเราไว้ หากสนใจก็ติดต่อกลับ
คุณลุงก็พยายามที่จะวกกลับมาคุยตลอดระยะทาง
.
แล้วตอนท้ายเราก็เลือกที่จะลงสักป้ายหนึ่ง
เพียงเพราะเราจะได้สบายใจ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in