วันนี้บล็อกของเราจะพาทุกท่านมารู้จักกับ Whitney ศิลปินดูโอจากเมือง Chicago สหรัฐอเมริกา ที่ทำดนตรีออกมาได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว เมื่อคุณฟังพวกเขาเป็นครั้งแรก คุณจะรู้สึกถึงอารมณ์เพลงเก่าๆยุคใน 80 หรือเพลงโฟล์กร็อกสบายๆที่เหมาะกับการฟังบนโรดทริปที่ฟังได้ไม่เบื่อ
Whitney ประกอบไปด้วยสมาชิกสองคนคือ Julien Ehrlich (ร้องนำ/กลอง) และ Max Kakacek (กีตาร์) ซึ่งว่ากันตามตรงแล้วนักร้องนำที่ตีกลองด้วยมันก็จะหายากหน่อยๆ ส่วนใหญ่ก็จะดีดกีต้าร์เท่ๆกันซะมากกว่า แต่สำหรับเรา เราคิดว่านี่เป็นอีกสิ่งนึงที่มีสเน่ห์และทำให้เราสนใจวงนี้มากขึ้น
Whitney เป็นวงอินดี้/โฟล์กร็อกที่มีกลิ่นอายของ psychedelic pop และทำเพลงออกมาได้อย่างลงตัว โดยที่ทั้งคู่ได้เริ่มก่อตั้งวงขึ้นมาในปี 2014 ซึ่งแมกซ์ทำหน้าที่เป็นมือกีต้าร์ ส่วนจูเลี่ยนเป็นมือกลองที่เหมือนรับจ็อบร้องเพลงเป็นงานควบคู่ไปด้วย เพราะตีกลองน่ะงานถนัดเขาล่ะ แต่พวกเขาก็ทำผลงานออกมาได้อย่างละมุนละไมและน่าประทับใจ จึงไม่แปลกที่จะได้รับคำชมจากนักวิจารณ์จากหลายๆสำนัก
หากจะให้พูดถึงแบ็คกราวด์ของทั้งสองคน ก็อาจจะต้องย้อนความกันหน่อย งั้นเราขอเริ่มจากแมกซ์ก่อนละกัน (จริงๆคือไทม์ไลน์ของสองคนนี้มันจะคาบเกี่ยวกันนิดหน่อย ถ้าอ่านแล้วงง ขอให้ลองอ่านใหม่55555)
Max Kakacek เป็นมือกีต้าร์ที่เริ่มจากการฟอร์มร็อกแบนด์ขึ้นมาภายใต้ชื่อ "Smith westerns" กับเพื่อนอีกสองคนคือ Cullen และ Cameron Omori ในปี 2009 และร่วมกันทำเพลงโดยทิ้งการเข้ามหาลัยไว้เบื้องหลัง ทั้งสามคนมาจากชิคาโก แต่เนื่องจากผลงานเพลงที่เป็นที่นิยม พวกเขาจึงได้ไปตะลอนทัวร์ในหลายประเทศร่วมกับวงใหญ่ๆอย่าง MGMT เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวงน้องใหม่ที่น่าจับตามอง ต่อมาในปี 2013 โปรดิวเซอร์ของวงก็ได้ดึงตัว Julien Ehrlich เข้ามาเป็นมือกลองและเป็นสมาชิกคนที่สี่ของวงเพื่อให้แนวดนตรีซอฟต์ลงและโฟลวขึ้น แต่น่าเสียดายที่หลังจากนั้นในปลายปี 2014 ทางวงก็ประกาศยุบวงอย่างถาวรเนื่องจากความคิดที่ไม่ตรงกันระหว่างแมกซ์และคัลเลน ทำให้แต่ละคนต่างก็ต้องแยกย้ายไปในเส้นทางของตัวเอง
จากซ้ายไปขวา Julien, Cullen, Cameron, Max
ตัดมาที่อีกฝั่ง Julien Ehrlich เป็นนักดนตรีที่มีประสบการณ์มาตั้งแต่อายุยังน้อย เริ่มตั้งแต่ที่เขาเคยเป็นสมาชิกของวง "Unknown mortal orchestra" วงอินดี้ร็อกที่เป็นลูกผสมจากนิวซีแลนด์และอเมริกา โดยเขาเป็นมือกลองอายุเพียง 18 ปี วงแจ้งเกิดจากการที่ในปี 2010 Ruban Nielson นักร้องนำชาวนิวซีแลนด์ได้ปล่อยเพลง Ffunny Ffrends ลงในแบนด์แคมป์โดยไม่ได้ระบุชื่อ และหลังจากนั้นแทร็กนี้ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างดี และบล็อกดนตรีชื่อดังอย่าง Pitchfork ก็ได้ให้ความสนใจและชื่นชมพวกเขาเป็นอย่างมาก ทำให้ต่อมา UMO ก็ได้เริ่มทัวร์อย่างต่อเนื่อง เป็นวงเปิดให้หลายๆวงดัง และมีแฟนเพลงมากมาย
น่าเสียดายที่หลังจากนั้นในปี 2013 จูเลี่ยนก็ได้ออกจากวงไป ซึ่งตอนนี้นั่นเองที่เขาได้เข้าไปเล่นให้กับ Smith westerns แต่ทางด้าน UMO เองก็ยังคงดำเนินอยู่และปล่อยเพลงออกมาเรื่อยๆ และจูเลี่ยนเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับสมาชิกคนอื่นๆ(ไม่เหมือนแมกซ์กับคัลเลนที่ดูจะขัดแย้งกันไปเลย) แถมวิทนี่ย์เองยังไปเล่นเป็นวงซัพพอร์ตให้UMOในช่วงแรกๆด้วย ส่วนตัวเราชอบเพลงนี้ของ UMO มาก เป็นอินดี้ร็อกบีทเบาๆที่ฟังแล้วลื่นหูเว่อ ถือว่าเป็น recommend track แถมให้เลย ลองไปฟังกัน
ในส่วนของชื่อวงว่า “Whitney” จูเลี่ยนเผยว่าเขาและแมกซ์มักจะใช้ชื่อๆนึงมาแทนตัวตนของวงเสมอ ซึ่งพวกเขาเลือกใช้ชื่อวิทนี่ย์ ตามชื่อของนักร้องชื่อดังในตำนานอย่าง Whitney Houston ถ้านึกภาพไม่ออก จะยกตัวอย่างให้ฟัง อย่างเช่นว่าถ้าตอนนี้พวกเขากำลังวางแผนทำเพลงกันอยู่ พวกเขาก็จะจินตนาการว่าวิทนี่ย์จะทำเพลงไปในทิศทางไหนน้าา หรือวิทนี่ย์จะแต่งเนื้อร้องในคอนเซปต์แบบไหน (ซึ่งวิทนี่ย์ในที่นี้ไม่ใช่นักร้องนะ เป็นแค่ชื่อสมมติของวงเฉยๆ) หลังจากนั้นพวกเขาเลยเลือกใช้ชื่อนี้มาเป็นชื่อวงซะเลย นี่จึงเป็นที่มาของชื่อ Whitney
Whitney ได้รับความสนใจและการจับตามองในฐานะวงอินดี้หน้าใหม่จากสื่อดนตรีหลายที่ รวมถึงนักร้องรุ่นใหญ่อย่าง Sir Elton John ซึ่งจัดรายการวิทยุของตัวเองผ่านทาง Apple music station ที่มีชื่อว่า Elton John’s rocket hour ซึ่งคอนเทนต์ของรายการจะเน้นไปที่วงคลื่นลูกใหม่ที่น่าสนใจและเข้าหูท่านเอลตันเขา แน่นอนว่า Whitney เองก็เป็นหนึ่งในนั้น และดูเหมือนว่าจะเป็นที่โปรดปรานเป็นพิเศษของท่านเซอร์เขาด้วย เอลตันบอกว่ามีเพื่อนแนะนำมาก็ลองฟังดู พอฟังแล้วแบบ เหยยย มันใช่มากอะแกร คือบั่บดนตรีโคตรสวยแถมน้ำเสียงเอกลักษณ์นี่โดนใจเต็มๆ เป็นวงที่ไม่เหมือนใครจริงๆ สุดยอดมาก แล้วเขาก็ยังบอกอีกว่าวิทนี่ย์เป็นอัลบั้มโปรดของเขาในปี 2016 เลยด้วย
สำหรับอัลบั้มแรกของพวกเขาใช้ชื่อว่า “Light upon the lake” ซึ่งปล่อยออกมาภายใต้สังกัด Secretly Canadian ในปี 2016 และได้กระแสตอบรับอย่างล้นหลาม เพราะแต่ละแทร็กในอัลบั้มนั้นเป็นส่วนผสมละมุนหูของโฟล์คร็อกและคันทรี่ แนะนำให้ไปสอยมากๆ มีขายทั่วไปในไทยเลย ฟังเพลินไม่เบื่อ เรียกว่านี่แหละ คุณค่าที่คุณคู่ควร
สำหรับแทร็กที่แนะนำ ก็ขอให้เป็นเพลงนี้เลย No woman ที่เป็นเพลงแจ้งเกิดของพวกเขา เพลงนี้ฟังแล้วจะรู้สึกลอยๆ ระรื่นหูไปกับความ psychedelic บวกกับดนตรีหลายชนิดที่ประสานกันได้อย่างลงตัว เพราะจริงๆ full band ของนางคือมีอีก 5 คนที่ร่วมกันสร้างสรรค์ดนตรีออกมา แถมเสียงหวานๆของจูเลี่ยนก็เข้ากับเพลงซะเหลือเกิน
อีกแทร็กที่อยากแนะนำก็นี่เลย Golden day เป็นเพลงที่มีค่อนข้างติดหู แล้วก็บีทที่จังหวะเร็วขึ้นมาหน่อยทำให้เพลงฟังแล้วมีสีสัน กับองค์ประกอบต่างๆทำให้โดยรวมแล้วเพลงนี้กลายเป็นเป็นเพลงโปรดของใครหลายๆคนไปเลย
เพลงสุดท้ายที่อยากให้ลองฟังดูมีชื่อว่า Polly เป็นเพลงเศร้าที่เมโลดี้ไม่เศร้า จะเห็นความโฟล์คร็อกในเพลงนี้ซึ่งเบลนด์กับเสียงเอกลักษณ์ของจูเลี่ยน ในเพลงนี้เราแอบชอบฝีมือการเป่าทรัมเป็ตของ Will Miller มันละมุนหัวใจดีมาก <3
ก็ขอฝากหนุ่มๆให้เป็นตัวเลือกในการฟังเพลงของทุกคนด้วยแล้วกันนะคะ แต่ละเพลงของวงนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน อยากให้มาสนใจไทยแลนด์บ้าง เฮลโหล่ว/โบกมือหาโปรโมเตอร์ เราอยากมีโอกาสได้ฟังพวกนางสดๆสักครั้งในชีวิตเพราะแต่ละไลฟ์คือฝีมือไม่ธรรมดากันเลย ยังไงก็ฝาก Whitney ไว้ในอ้อมอกทุกคน เหมือนที่แมกซ์อยู่ในอ้อมอกจูเลี่ยนด้วยนะคะ/พายเรือ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in