เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ME & MY VITAMINsrosencrantz
BTS: ทำงานพาร์ทไทม์ครั้งแรก และ 2016 BTS LIVE (花樣年華 on stage : epilogue) in Bangkok
  • (ยกมาจากบล็อกเก่านะคะ)

    อ่ะแฮ่ม… ก็คงต้องสารภาพกันตรงๆเนอะว่าเราเข้าปีหนึ่งแล้ว ช่วงที่ผ่านมาก็คิดจะอัพบล็อคอยู่นะคะ แต่ติดที่ไม่ค่อยมีเวลามานั่งเขียนอะไรยาวๆเลย ทั้งเรียน ทั้งรับน้อง แถมเน็ตที่หอก็กากอีก เลยไม่ค่อยได้เข้ามาเขียนต่อเลย พอกลับมาก็มาเขียนเรื่องเดิมๆเนอะ คือ..ไปคอนมาอีกแล้วค่ะ 5555555555 ขอบอกดักไว้ก่อนเลยว่ารอบนี้เรื่องราวการผจญภัยของเรานั้นเข้มข้นยิ่งกว่าคนอร์ซุปก้อนอีกค่ะ! เพราะคอนนี้เราฉายเดี่ยว+ลงหลุม พูดแล้วเศร้าคิดถึงคนที่เคยไปด้วยกันเมื่อวันวาน (T_T;) แต่เพราะแบบนั้นเลยทำให้เราได้ไปทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต !

          พอดีช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงปิดเทอมซึ่งเราหยุดยาว 6 เดือน ทำให้รู้สึกว่าการที่เราเอาแต่อยู่บ้านไปวันๆ 6 เดือนนี่มันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เราควรหาอะไรทำซึ่งการหาอะไรทำของเราคือ…การไปทำงานพาร์ทไทม์นั่นเองค่า ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด

          หลังจากวันเวลาล่วงเลยผ่านไปนับตั้งแต่ปิดเทอมจนไปถึงวันสงกรานต์ เป็นช่วงเวลาที่เราตื่นมากินแล้วก็นอนวนซ้ำๆไปในทุกๆวัน ถามว่ามันดีมั้ย ? ก็สบายดีค่ะ แต่สบายเกินไปจนกลัว กลัวตัวเองไม่อยากทำอะไรแล้วชีวิตนี้ 555555 เราเลยคิดว่าไหนๆอยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำแล้ว เลยอยากทำงานเก็บตังไว้เอาเงินไปซื้อของที่เราอยากได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องขอพ่อแม่ค่ะ บวกกับตอนนั้นเพื่อนมาชวนไปทำงานด้วยกัน เลยลองไปทำดูสักตั้งแล้วงานที่เราไปทำก็คือ.. คือ..เด็กเสิร์ฟร้านอาหาร นั่นเองค่ะ หนึ่งในงานพาร์ทไทม์ยอดฮิต ร้านอาหารที่เราไปทำไม่ใช่ร้านอาหารกะโหลกกะลานะคะ มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักพอสมควรเลย ใครมาเที่ยวจังหวัดเราก็จะมากินร้านนี้กัน ส่วนตัวแล้วเราก็ไม่เคยมากินอาหารร้านนี้เลย เพราะคนเยอะตลอดเห็นแล้วไม่น่าเข้าไปไฝว้ค่ะเราจะทำเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ แต่ถ้าสัปดาห์ไหนมีวันหยุดนักขัตฤกษ์ก็จะทำด้วยค่ะ พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือทำทุกวันหยุดนั่นแหละ 55555 วันหยุดมีลูกค้าเยอะตลอด เมื่อเป็นแบบนั้นเราก็ต้องทำงานเหนื่อยขึ้นค่ะ แล้วทำไมเราถึงเลือกทำวันหยุด ก็คงหนีไม่พ้นค่าแรงนั่นเอง เพราะวันที่ลูกค้าเยอะค่าแรงก็จะเยอะตามไปด้วย สรุปก็คือเราหน้าเงินนั่นเอง…

          เริ่มงานวันแรก ด้วยความที่ยังเป็นเด็กใหม่ก็เลยต้องพึ่งพาเพื่อนที่ทำอยู่ก่อนแล้วโดยการให้เพื่อนพาไปฝากฝัง(?) แนะนำตัวกับเจ๊เจ้าของร้าน เมื่อฝากเนื้อฝากตัวกับเจ๊เรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่เราทำคือกินข้าวค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เพราะฉะนั้นกินมาแล้วก็กินเข้าไปอีก ทุกเช้าที่ร้านจะมีก๋วยเตี๋ยวหรือกับข้าวฟรีเลี้ยงคนที่ไปทำงานค่ะ อยากใส่อะไรก็ใส่ปรุงเองทำเองตั้งแต่ลวกเส้นเลย เปรียบเสมือนการฝึกเป็นแม่ค้าขายก๋วนเตี๋ยวไปในตัว.. (หรอ) นับว่าเป็นเรื่องราวดีๆ เผื่อไปต่อยอดทำกิจการของตัวเองได้บ้าง 5555 หลังจากกินข้าวจนอิ่มแล้วก็ได้เวลาเริ่มงาน จริงๆแล้วช่วงเช้าจะยังไม่ค่อยมีลูกค้า เจ๊เลยให้เราไปเด็ดผัก หั่นผัก เจ้าผักนั่นคือหัวหอม แต่ปัญหาก็คือเราทำไม่เป็นค่ะ จริงๆเราทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง 5555555 เพราะปกติอยู่บ้านไม่เคยทำเลย ชีวิตแลดูไร้ประโยชน์ต่อชาติและสังคมมาก แต่เราจะไม่เป็นแบบนั้นอีกต่อไปค่ะ!!! เรามาที่นี่เพื่อจะพัฒนาตนเองให้มีทักษะชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อเจ๊สอนเราเลยตั้งใจฟังเต็มที่ค่ะว่าทำยังไง

    หลังจากเด็ดผักไปได้สักพัก พอลูกค้าเริ่มมากันเยอะขึ้นเจ๊ก็จะมาเรียกเด็กจ๊อบ (เด็กที่ทำพาร์ทไทม์) ไปเข้าโซนค่ะ คือร้านนี้เขาจะแบ่งที่นั่งเป็นโซนๆ แล้วก็แบ่งคนไปรับผิดชอบโซนนั่นๆค่ะ ร้านนี้จะมีทั้งหมด 7 โซนค่ะ คือ โซนแอร์ใน แอร์นอก กลางบ้าน ป่าจาก โดม บ้านตึกชั้นล่าง บ้านตึกชั้นบน ทุกโซนจะมีเด็กจ๊อบอย่างน้อย 1 คน กับ พนักงานประจำโซนละอย่างน้อย 1 คนเหมือนกัน แต่โซนที่คนเยอะมากๆตลอดเวลาคือ โซนแอร์ในกับแอร์นอกค่ะ เจ๊อยากให้เราทำงานเป็นไวๆเลยจับเราไปลงโซนแอร์ในตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ… ;__; ตอนนั้นเราทำอะไรไม่เป็นเลย ต้องคอยถามเพื่อนตลอด พอจะมัดยางถุงก็มัดไม่เป็น เทกับข้าวใส่ถุงกลับบ้านก็ไม่เป็น ทำอะไรก็ดูเก้ๆกังๆไปหมด แล้ววันนั้นเป็นวันเสาร์หลังวันหยุดสงกรานต์ค่ะ คนเยอะมากกกก เราทำงานตลอดไม่ได้นั่งเลย ทำงาน 12 ชั่วโมง กับค่าแรง 300-400 บาทต่อวัน ถามว่าคุ้มไหมก็ตอบเลยค่ะว่าไม่คุ้มแต่เราไม่เลิกทำ ทำแล้วต้องทำให้สุด

          ผ่านมาได้สัปดาห์นึงเริ่มมีเพื่อนในร้าน เริ่มสนิทกันทุกอย่างก็ดีไปหมดค่ะ งานเหนื่อยแค่ไหนก็ยิ้มก็ขำ เพราะได้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานดีๆ จากตอนแรกที่บ่นปวดขาทั้งวัน พอทำมาเรื่อยๆก็ไม่มีอะไรยากเกินกำลังเราค่ะ แค่ต้องไม่ท้อต่ออุปสรรค โดยรวมแล้วจากที่ไปทำมาเกือบตลอดช่วงปิดเทอม การไปทำงานที่ร้านนี้เป็นเรื่องที่น่าประทับใจค่ะ อยากให้ทุกคนลองทำดูเป็นประสบการณ์ใหม่ๆแถมเป็นการฆ่าเวลาที่ดี ได้ตัง ได้เพื่อน ได้ประสบการณ์ ได้ออกกำลังกายด้วยค่ะ 555555 ช่วงนั้นเพื่อนที่ไม่ได้ไปทำงานด้วย ทักเลยค่ะว่าผอมลงนะ เรานี่ยิ้มแห้งเลยทำงานวันละ 12 ชั่วโมงขนาดนี้ วันๆนึงนั่งกี่นาทีนี่นับนิ้วได้เลยค่ะ ถ้าอ้วนขึ้นคงแปลกแล้ว 55555555 ความลับอีกอย่างนึงคือ..แอบชอบคนที่ทำงานด้วยหละค่ะ แต่จบไม่สวย เพราะงั้นขอผ่านนะคะ… แฮ่ (แล้วบอกทำไม)

          จบเรื่องที่ทำงานกันไปนะคะ พอหอมปากหอมคอให้พอรู้ว่าเราได้อะไรมาบ้างเนอะ 5555555 ทีนี้ก็มาต่อที่หัวข้อหลักกันเถอะค่ะ เย้ / …อีกครั้งกับคอนเสิร์ตบังทัน รอบนี้ไม่เหมือนรอบที่แล้วเพราะเพื่อนที่เคยไปด้วยกันไม่ได้ไปด้วยกันแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายกัน เราก็มาเรียนไกลบ้านเลยค่ะ ซึ่งคอนจัดวันที่เราย้ายไปอยู่หอแล้วค่ะซึ่งนั่นคือปัญหาใหญ่เลยล่ะ Orz

    –      เรื่องราวครั้งนี้เริ่มจาก… รู้ตัวว่าบังทันจะมีคอนนั่นหละค่ะ ฟฟฟฟฟฟฟฟ พอเรารู้ก็เครียดเลย เพราะตอนนั้นกำลังจะปิดเทอม 6 เดือน ซึ่งหมายความว่าเราจะอยู่แต่บ้านและไม่มีตังเก็บค่ะ /ปาดน้ำตา (つд;) และนั่นทำให้เราต้องหาตังไปคอน จากที่เล่าไปข้างบนก็คือเราไปทำงานพาร์ทไทม์มา เราเลยได้ทั้งเงินไปคอนโดยไม่ต้องขอพ่อแม่และได้ประสบการณ์ในการทำงานด้วยค่ะ 

    เมื่อเรามีตังแล้วสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือชวนเพื่อนๆค่ะ แต่.. ครั้งนี้น้องพลอยไม่ไป เพราะแม่บอกว่าเพิ่งไปมาโดนขุ่นแม่ห้าม ฮรึก ;__; ส่วนจูน…ไม่มีตัง บวกกับตอนนั้นเพื่อนจะไปต่างประเทศด้วยเลยเก็บตังไปต่างประเทศค่ะ… สรุปเราหัวเดียวกระเทียมลีบ ㅠㅠㅠㅠ เพราะงั้นเราเลยต้องหาคนช่วยกดบัตร รอบนี้ไม่มั่นใจเลยว่าจะกดบัตรได้ เพราะมีคนชอบบังทันเพิ่มขึ้นเยอะเลย เราเลยไปไหว้วานพี่ที่รู้จักกันในทวิต(และไม่ได้ชอบบังทัน) ให้ช่วยกดบัตรให้ค่ะ 55555555555 รอบนี้เราเลือกโซนที่จะไปยากมากกกกกก เพราะบัตรนั่งมันห่างจากเวทีและมี FOH คั่นระหว่างที่นั่งกับเวที เราเลยไม่กล้าไป กลัวไม่คุ้มเพราะเห็นไม่ชัดค่ะ ส่วนบัตรยืนก็กลัวจะโดนเบียดจนเป็นลมคาหลุม เพราะเป็นสาวน้อยตัวเล็กเพียงคนเดียวลำพังหว่าเว้~ จะให้ลงบัตรหลุมคนเดียวก็จะดูทำร้ายตัวเองเกินไป แต่จนแล้วจนรอดด้วยความอยากไปเจอเขาใกล้ๆ เลยตัดสินใจ ณ วินาทีสุดท้ายว่าจะไปบัตรยืนด้วยส่วนสูงอันน้อยนิดที่มีอยู่.. เอาแบบมีสาระก็จริงๆแล้ว ไปปรึกษาเพื่อนๆมา แล้วทุกคนต่างบอกว่าให้ไปบัตรยืน เพราะใกล้กว่า ถูกกว่า สนุกกว่า ด้วยความที่เราเป็นคนเชื่อคนง่ายเลยไปตามที่เพื่อนๆแนะนำมาค่ะ..(หรอ)

    ผังคอนเสิร์ตค่ะ เราไป SL ค่ะ

          เมื่อถึงวันกดบัตรก็เหมือนเดิมค่ะ รีบตื่นเช้ามาอาบน้ำแปรงฟันให้เรียบร้อยแล้วมานั่งรอเวลา พอถึงเวลา 10:00 น. ก็เข้าไปกดบัตร รอบนี้ตื่นเต้นน้อยกว่าคราวที่แล้วนิดนึงเพราะกดเป็นแล้ว แต่ก็ยังลุ้นอยู่ดีว่าจะได้ไหม เพราะคนลงหลุมเยอะมากกกกกกกกก แล้วฝั่งที่เราเลือกเป็นฝั่งที่ทุกคนเล็งไว้หมดค่ะ ;ㅅ; แต่เราก็กดมาได้ และพี่ที่เราฝากกดก็ได้เหมือนกัน เรากดได้วิที่ 20 ค่ะ ส่วนพี่เรากดได้วิที่ 22 เลยเอาของเรา เพราะคิวจะเรียงตามเวลาที่เรากดได้ค่ะ เมื่อตกลงกันเรียบร้อยก็โอนตัง เป็นอันจบสิ้นการกดบัตร

          สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือรอดูว่าตัวเองจะเป็นคิวที่เท่าไหร่ค่ะ… ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดเลย เพราะรอนานมากแล้วก็ลุ้นมากๆ รอเป็นเดือนเลย อ่านทวิตคนอื่นๆก็มีแต่คนกดไวกว่าเราวิที่ 17 บ้างหละ วิที่ 15 บ้างหละ ทำเอาใจแป้วเลยค่ะกลัวได้คิวหลังๆมาก เพราะเราเตี้ย ฮือออออออ (つд;) แต่ผลที่ได้ก็คือคิวที่ 561 ก็ไม่ใกล้แต่ก็ไม่ไกลค่ะ กำลังน่ารักเลย(หรอ) ลำดับคิวที่ได้ดีกว่าที่คาดไว้ แถมมีคนบอกว่าคิวประมาณนี้เดี๋ยวพอคอนเริ่มก็จะไหลไปติวรั้วเอง 555555555 ถือว่าน่าพอใจค่ะสำหรับคิวนี้ สิ่งที่ต้องลุ้นอีกทีก็คือสิทธิพิเศษอีกแล้วนั่นเอง ครั้งนี้รายละเอียดเป็นดังนี้เลยค่ะ

    เราไปบัตร 4,800 ค่ะ ซึ่งบัตรเราจะมีคนสุ่มได้ไฮทัชแค่ 400 คน ได้เข้างานแถลงข่าว 145 คน และโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นต์ 30 คน คอนที่แล้วมีกรุ๊ปโฟโต้ด้วยแต่คอนนี้ไม่มี น่าเสียดายเนอะ รวมกันหลุมสองฝั่ง หลุมละประมาณเกือบๆ 2,000 คน… โอกาสที่จะได้ก็.. อย่าพูดถึงเลยดีกว่าค่ะ (つд;)

          สรุปก็.. นกเหมือนเดิม นกซ้ำนกซ้อน แบบนี้คอนหน้าคงต้องไปทำบุญก่อนกดบัตรค่ะ มันช่างน่าเจ็บใจ เพราะคิวที่ 562 ได้สิทธิ์เข้างานแถลงข่าว ห่างกันแค่คิวเดียวเองเนอะ แต่มาคิดดูถึงเราได้สิทธิ์นี้มาก็คงไม่ได้ไปค่ะ เพราะวันที่จัดงานแถลงข่าวเราไม่ว่าง เลยเสียใจแต่ไม่แคร์~ /สะบัดบ๊อบ ┐(´д`)┌ เมื่อเรื่องบัตรจบกันไปแล้ว แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดของการไปคอนครั้งนี้มันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นค่ะ.. เราไม่รู้จะไปยังไงและกลับยังไง ถ้าเรายังอยู่ที่บ้านก่อนจะไปคอนก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะนั่งรถไปกลับเองได้ แต่วันก่อนไปคอนเราอยู่ที่มอแล้วเนี่ยสิคะ ;___; เราเลยหาวิธีว่าจะไปยังไง ทั้งหาเพื่อนในมอไป หาเพื่อนในเอกไป ก็ไม่มีใครไปสักคนเลย (´・_・`) จะไปคนเดียวก็จะเฟี้ยวไป กลับดึกแถมยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่แบบนี้คงไม่ค่อยดี แต่!..เราไปเจอโพสหาเพื่อนไปคอนของบ้านเบสไทยบ้านหนึ่งค่ะ เหมือนพบหนทางแห่งแสงสว่าง เราเลยรีบเข้าไปลงชื่อ แต่มีคนลงชื่อว่าอยู่ชลบุรีอยู่แล้ว เราเลยทักไป คุยแนะนำตัวกันนิดหน่อยเขาก็ลากเราเข้าไลน์กลุ่มค่ะ ในกลุ่มก็ตกลงกันว่าจะเหมารถตู้ไป เสียค่ารถกันคนละ 300 บาท

            –06/08/2559- 
          ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงค่ะ วันนี้เราต้องไปหาบังทันกันแล้ว เย้ / เราตื่นประมาณ 7 โมงเช้า ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวไปคอนเนอะ วันนั้นเราไม่ได้กินข้าวกินไม่ทัน เพราะรถมาประมาณ 9 โมง กว่าเราจะเตรียมตัวเสร็จก็ต้องออกจากหอแล้ว ฮืออออออออ ;___; เรานั่งมอไซวินไปที่จุดนัดพบ กว่าจะไปถึงเพื่อนๆคนอื่นก็มานั่งรอกันหมดแล้ว มองไปที่เท้าเพื่อนแต่ละคนแล้วได้แต่อึ้งค่ะ เสริมส้น เสริมส้นกันเต็มไปหมดเลย แล้วฉันมาทำอะไรที่นี่เตี้ยที่สุดในกลุ่มแล้วยังใส่รองเท้าแตะอีก… เลยโดนแซวค่ะว่าทำไมไม่ใส่เสริมส้นมา เราก็ได้แต่ก้มหน้าตอบว่าลืม ตอนแรกกะว่าจะสั่งในเน็ตมาแต่มานึกได้ 2 วันก่อนไปคอน ถ้าสั่งมาตอนนั้นของก็มาไม่ทันค่ะ เลยทำใจไม่ใส่ก็ได้ ㅠㅠㅠㅠ
    หลังจากคุยกันได้นิดหน่อยรถก็มารับค่ะ เราก็ขึ้นไปบนรถกันแล้วก็เปิดเพลงบังทันฟังกันไปตลอดทางเลยค่ะ มีเพื่อนเอาบราวน์นี่มาแจกด้วย บางคนก็ปริ้นรูปมาแจก เราไม่ได้เอาอะไรไปเลยรู้สึกผิดมาก ณ จุดนี้ (´・_・`) ระหว่างเดินทางเราก็มองข้างทางไปเรื่อย แล้วจู่ๆเราก็เห็นร้านขายรองเท้ารองเท้าเสริมส้นด้วย!! แต่ตอนนั้นอยู่บนถนนรถติดอยู่จะบอกเขาให้แวะซื้อรองเท้าก็แปลกๆ เลยไม่ซื้อมาค่ะได้แต่มองตาละห้อย ฮรึก /ปาดน้ำตา

          พอเรามาถึงอินดอร์สเตเดียมก็แปลกใจเลยค่ะ เราเพิ่งรู้ว่าอยู่ข้างๆกับราชมังคลาฯ  ราชมังใหญ่มากจริงๆ เห็นแล้วได้แต่สงสัยว่าถ้านั่งบัตรดอยจะมองเห็นอะไร…หลังจากยืนอึ้งกับความใหญ่โตของราชมังกันไปพักนึง ก็ต้องแยกย้ายไปทำภารกิจของตัวเอง เพื่อนๆบางคนมารับบัตรหน้าคอนเลยรีบไปต่อแถว ส่วนเราให้ส่งมาทางไปรษณีย์ เลยแยกตัวไปรับของที่นัดรับไว้ค่ะ สิ่งนั้นคือ… อาร์มี่บอมบ์นั่นเอง แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นจนได้ เราหาจุดนัดรับไม่เจอ… เดินวนไปวนมาจนสุดท้ายต้องถาม รปภ.แถวนั้นค่ะว่าสระน้ำอยู่ตรงไหน ;___; กว่าจะเจอก็หลงอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง แดดก็ร้อนด้วย ดีนะคะที่รอดมาได้… พอเจอจุดนัดรับก็เข้าไปคุยกับพี่เจ้าของร้าน ความประทับใจแรกเลยคือ เราแค่ไปยืนเขาก็ถามเลย ‘น้องxx ใช่ไหมคะ‘ ตอนนั้นงงมากเพิ่งเคยนัดรับครั้งแรก ทวิตเตอร์ก็ล๊อค รูปเราไม่เคยลงแล้วพี่เขารู้ได้ยังไง ซึ้งมากค่ะ (つд;) หลังได้ของมาแล้วเราก็ประกอบเลย ลืมบอกไปว่าเราแอบแวะซื้อถ่านใส่มี่บอมบ์ก่อนออกไปขึ้นรถค่ะ 

    เสร็จภารกิจไปหนึ่งอย่างแล้วสถานีต่อไปคือช๊อปปิ้ง เป็นประจำสำหรับการไปคอน รอบนี้มีร้านค้าเยอะมากกกก ส่วนมากเป็นของแฟนเมด แฟนอาร์ต น่ารักมากเลย เราโดนสติกเกอร์กันรังสี เสื้อ 2 ตัว สมุด สแตนดี้ สติกเกอร์ ได้มาแต่ของกระจุกกระจิก ตอนแรกว่าจะเก็บตังไปซื้อของออฟฟิเชียลนะแต่ไม่รอดค่ะตังหมด แถมแถวซื้อของยาวมากเราเลยยอมแพ้ ㅠㅠㅠㅠ เปลี่ยนไปเดินตามล่าของฟรีแทน บางทีก็ไปช่วยเขาแจก สนุกดีค่ะ >w<;

          ต่อไปเราก็ต้องไปเตรียมตัวต่อคิวเข้าคอนค่ะ เราก็เข้าไปนั่งรอ ตอนแรกเราว่าจะไปฝากกระเป๋าก่อนแต่ตอนนั้นจุดรับฝากยังไม่เปิด กว่าจุดรับฝากจะเปิดคิวที่ 1-500 ก็ได้เข้าไปแล้ว แต่เราเอาเป้ไป อยากไปฝาก เลยออกจากแถวไปฝาก พอไปถึงแถวคือเราเห็นความยาวแถวแล้วรู้เลยว่าฝากไม่ทันเข้าคอนแน่ๆ เลยไม่ฝากแล้วกลับมาเข้าแถว (ดูสับสนกับชีวิตเนอะ) มาถึงแถวได้แปปเดียวเขาก็เรียกเข้าเลยค่ะ โชคดีที่ตัดสินใจไม่ฝาก พอผ่านจุดตรวจของแล้วก็รีบวิ่งเข้าไป เราเลือกยืนตรงสเตจเล็กด้านหน้าค่ะ จริงๆคิวที่ 561 ก็ไม่ห่างเวทีเท่าไหร่นะคะ มองเห็นเลยถ้าบังทันมายืน ยืนรอประมาณครึ่งชั่วโมงระหว่างนั้น VTR ก็เปิดเอ็มวี ทุกคนก็ร้องตามค่ะ ตอนนี้บรรยากาศน่ารักมากค่ะ แต่จริงๆแล้วมันคือภาพลวงตา

    ความใกล้ประมาณนี้ค่ะ

          พอคอนใกล้เริ่มก็เริ่มรู้สึกอึดอัดค่ะเพราะข้างหลังดันมาตลอดขยับไม่ได้เลย คอนเริ่มก็ยิ่งไปกันใหญ่ เรามองไม่เห็นอะไรเลยโดนเบียด โดนดัน บางคนก็เอาหัวเราเป็นขาตั้งกล้อง -__-; คือมันแย่มากกกกก โดนดันขนาดไหนจากหน้าสเตจเล็กมาอยู่เกือบริวรั้วเมนสเตจ อยู่เกือบริวรั้วแล้วไงมันก็มองไม่เห็นอยู่ดี เราขอน้ำก็ไม่มีใครให้ ทั้งๆที่เราจะเป็นลมแล้ว สรุปเราร้องไห้ค่ะ ไม่รู้จะทำยังไง บังทันก็มองไม่เห็น หายใจก็ไม่ออกสุดท้าย ยอมไม่ทนแล้วสะกิดบอกคนข้างๆว่าจะออกจากหลุม เขาเลยพาเราไปริมรั้ว พี่สตาฟก็หามตัวเราออกค่ะ พอออกไปนอกรั้วหันไปมองบังทันบนเวทีแล้วเราก็ร้องไห้อีก เราแค่อยากจะมาดูเขาเอง ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย เดินร้องไห้ตามทางมาเรื่อยๆพี่สตาฟก็ส่งแอมโมเนีย กับน้ำขวดนึงให้ เรากระดกน้ำทีเดียวหมดขวดเลยค่ะ คอแห้งมากกกกกกกกก ตอนนั้นสภาพจิตใจเราแบบ.. คิดไปต่างๆนาๆ ‘เราออกจากคอนแล้วกลับบ้านเลยดีมั้ย’  ‘ไม่ดูมันแล้วดีมั้ย’  ‘คราวหน้าไม่มาแล้วดีไหม’ คิดไปเดินไปจนมาเข้าห้องน้ำเห็นสภาพตัวเองแล้วตกใจ นึกว่าไปเล่นสงกรานต์มา ผมนี่เหมือนคนเอาน้ำราดหัว ก้มไปดูกางเกง กระดุมหลุด เล็บเท้าฉีก กระเป๋าเป้เปียก.. แย่ แย่ มันแย่ไปหมดทั้งร่างกายทั้งจิตใจเลยค่ะ ออกมานั่งร้องไห้อยู่พักนึง พอตั้งสติได้ก็เอากระเป๋าไปฝาก แล้วตัดสินใจเดินเข้าคอนไปอีกรอบ พี่สตาฟก็ถามว่า จะลงหลุมอีกมั้ยเราส่ายหน้า เขาเลยพาเราไปนั่งตรงบันไดข้างๆบัตรนั่งค่ะ ตรงนั้นมีคนนั้นอยู่แล้วคนนึงเราไปนั่งข้างๆเขา ได้คุยกันนิดหน่อยแต่เขาออกมาก่อนหน้าเรานานแล้ว เราถามด้วยว่าเขาคิวที่เท่าไหร่แต่เราจำไม่ได้ เพื่อนน่ารักมากแต่เราไม่ได้ของทวิตหรือไลน์อะไรไว้เลย แอบเสียดาย ;__;
    ตอนออกมาข้างนอกค่ะ อากาศดีมาก..

         หลังจากนั้นเราก็ได้ดูคอนอย่างสงบสุขสักทีค่ะ ช่วงท้ายคอนเราจำไม่ได้ว่าเพลงไหน แต่บังทันจะปาลูกบอลแจกค่ะ!! ตอนนั้นเจโฮปปามาตกตรงเราพอดีเลย แต่เราหยิบไม่ถนัดเพราะถือมี่บอมบ์อยู่ เลยทำตกลงไปข้างล่าง จริงๆเราจะกระโดดลงไปเก็บก็ได้ แต่เราเห็นว่าตรงนั้นมีคนเดี๋ยวเขาก็คงหยิบ แต่..ผิดคาดเขาไม่หยิบค่ะ จนผ่านไปพักนึงเขาเห็นว่าเราไม่เอา เขาเลยเอาไปค่ะ ฮือออออออ เสียใจ เสียใจจนถึงทุกวันนี้ว่าทำไมไม่ลงไปเก็บ (つд;) ทำไม๊ ทำไมฉันไม่เก็บมันขึ้นมา… /ขาดใจตาย

         หลังจากคอนจบฝนตกค่ะ ตกหนักด้วย แต่เราต้องไปต่อแถวรับกระเป๋าที่ฝากไว้ก่อน กว่าเราจะมาถึงแถวก็ยาวแล้ว แถมบางคนก็แซงแถวอีก เราต่อแถวอยู่เป็นชั่วโมงกว่าจะได้กระเป๋า กลับไปถึงรถตู้เรากับเพื่อนอีกสองคนเป็นกลุ่มสุดท้ายค่ะ แถมต้องจ่ายตังค่ารถเพิ่มคนละ 50 บาท เพราะเลยเวลาที่เหมาไว้อีก ระหว่างเดินทางกลับเพื่อนก็คุยกันอย่างมีความสุข ว่าถ่ายอะไรมาบ้าง ใครเดินมาเล่นด้วยบ้าง ตอนนั้นเราไม่อยากได้ยินเลยหลับค่ะ… หดหู่มากถ้าไม่หลับอาจจะร้องไห้
         คืนนั้นเรานอนหอเพื่อนค่ะ เพราะแม่ไม่อยากให้เราเดินทางไปหอคนเดียว เราไม่ได้กินข้าวเช้า ข้าวเที่ยงก็ไม่ได้กิน เลยแวะเข้าเซเว่นก่อนไปหอค่ะ แต่เรากินอะไรไม่ลงเลยซื้อแค่ไวตามิลค์หนึ่งกล่องกับซาร่าแผงนึงกันเป็นไข้ ไปถึงหอเราก็นอนเตียงเมทเพื่อน พอดีเขากลับบ้านเตียงเลยว่างพอดี ก่อนนอนก็จัดของนิดหน่อย เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็นอนเลยค่ะ (น้ำไม่อาบ ว้ายยย) รู้ตัวอีกทีตอน 9 โมงเช้าตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันแล้วออกไปกินข้าวเช้ากันค่ะ แต่ข้าวร้านนั้นไม่อร่อยเลย ข้าวผัดที่ไหนเขาใส่พริกกั๊นนนนนนนน ;__; กินข้าวเสร็จเราก็แยกย้ายกันกลับหอตัวเอง เป็นอันจบการผจญภัยครั้งนี้ค่ะ

    ♡ – – – – – – – – – – – – – ♡

    –     ถามว่าคอนนี้เป็นไงบ้างคงตอบว่าเหมือนไม่ได้มาค่ะ ดูไม่รู้เรื่องเลย กว่าจะดูรู้เรื่องก็เหลืออีกแค่ 5-6 เพลงจะจบคอนแล้ว ตอนที่เบียดๆกันพี่นัมจุนเห็นด้วยค่ะ แล้วพี่เขาก็พูดเตือนบอกว่าอย่าเบียดกันแต่ก็ไม่มีใครฟัง จนพี่เขาต้องเตือนรอบที่สองเขาบอกว่าเห็นแบบนี้แล้วเสียใจ แต่ทุกคนก็ยังทำเหมือนเดิมเบียดเหมือนเดิม… น่าเศร้านะคะ ช่วงท้ายคอนก็ตัดออกไปหลายเพลงเลย ไม่รู้ว่าทำไมแต่เซ็ตลิสต์ไม่เหมือนของประเทศอื่น

        คอนนี้ต่างจากคราวทีแล้วมาก เราไม่มีความสุขเลย แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นผ่านคอนมาแค่วันเดียวก็คิดถึงบังทันแล้วล่ะค่ะ คิดซะว่ามันเป็นประสบการณ์เนอะ คราวหน้าเอาใหม่ถ้าจะไปหลุมก็ต้องเซฟตัวเองกว่านี้ อย่าใส่รองเท้าแตะ!! แล้วก็พกกระเป๋าใบเล็กๆไปแทน หรือไม่ก็ซื้อบัตรนั่งไปเลยอย่าไปเสี่ยงดวงอีกเพราะเรามันเตี้ยกว่าคนอื่นเขา ฮรึก (つд;) เราอยากให้บล็อกนี้เตือนใจทุกๆคนที่จะไปคอนค่ะว่าถ้าเตี้ยอย่าลงหลุมมมมมมมมมม ใครโชคดีก็อาจจะดีไป แต่ถ้าใครโชคร้ายอาจจะเจอแบบเราเน้อ แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีสิ่งดีๆอยู่คือเรามีโอกาสได้เห็นจีมินผมดำกับตาตัวเองด้วยค่ะ มันดีมากๆเลย ;//////; เพราะจีมินย้อมดำแค่แปปเดียวก็กลับไปทำผมสีๆอีกแล้ว เราจะคิดว่านี่คือความโชคดีของเราค่ะ บล็อกนี้ก็คงจบแค่นี้เนอะ เจอกันใหม่เมื่อเราอยากเขียนนะคะ /โดนตบ

     – – – – – – – – – – – – – 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in