(ยกมาจากบล็อกเก่านะคะ)
อ่ะแฮ่ม… ก็คงต้องสารภาพกันตรงๆเนอะว่าเราเข้าปีหนึ่งแล้ว ช่วงที่ผ่านมาก็คิดจะอัพบล็อคอยู่นะคะ แต่ติดที่ไม่ค่อยมีเวลามานั่งเขียนอะไรยาวๆเลย ทั้งเรียน ทั้งรับน้อง แถมเน็ตที่หอก็กากอีก เลยไม่ค่อยได้เข้ามาเขียนต่อเลย พอกลับมาก็มาเขียนเรื่องเดิมๆเนอะ คือ..ไปคอนมาอีกแล้วค่ะ 5555555555 ขอบอกดักไว้ก่อนเลยว่ารอบนี้เรื่องราวการผจญภัยของเรานั้นเข้มข้นยิ่งกว่าคนอร์ซุปก้อนอีกค่ะ! เพราะคอนนี้เราฉายเดี่ยว+ลงหลุม พูดแล้วเศร้าคิดถึงคนที่เคยไปด้วยกันเมื่อวันวาน (T_T;) แต่เพราะแบบนั้นเลยทำให้เราได้ไปทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต !
– พอดีช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงปิดเทอมซึ่งเราหยุดยาว 6 เดือน ทำให้รู้สึกว่าการที่เราเอาแต่อยู่บ้านไปวันๆ 6 เดือนนี่มันไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เราควรหาอะไรทำซึ่งการหาอะไรทำของเราคือ…การไปทำงานพาร์ทไทม์นั่นเองค่า ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด
– หลังจากวันเวลาล่วงเลยผ่านไปนับตั้งแต่ปิดเทอมจนไปถึงวันสงกรานต์ เป็นช่วงเวลาที่เราตื่นมากินแล้วก็นอนวนซ้ำๆไปในทุกๆวัน ถามว่ามันดีมั้ย ? ก็สบายดีค่ะ แต่สบายเกินไปจนกลัว กลัวตัวเองไม่อยากทำอะไรแล้วชีวิตนี้ 555555 เราเลยคิดว่าไหนๆอยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำแล้ว เลยอยากทำงานเก็บตังไว้เอาเงินไปซื้อของที่เราอยากได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องขอพ่อแม่ค่ะ บวกกับตอนนั้นเพื่อนมาชวนไปทำงานด้วยกัน เลยลองไปทำดูสักตั้งแล้วงานที่เราไปทำก็คือ.. คือ..เด็กเสิร์ฟร้านอาหาร นั่นเองค่ะ หนึ่งในงานพาร์ทไทม์ยอดฮิต ร้านอาหารที่เราไปทำไม่ใช่ร้านอาหารกะโหลกกะลานะคะ มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักพอสมควรเลย ใครมาเที่ยวจังหวัดเราก็จะมากินร้านนี้กัน ส่วนตัวแล้วเราก็ไม่เคยมากินอาหารร้านนี้เลย เพราะคนเยอะตลอดเห็นแล้วไม่น่าเข้าไปไฝว้ค่ะเราจะทำเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ แต่ถ้าสัปดาห์ไหนมีวันหยุดนักขัตฤกษ์ก็จะทำด้วยค่ะ พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือทำทุกวันหยุดนั่นแหละ 55555 วันหยุดมีลูกค้าเยอะตลอด เมื่อเป็นแบบนั้นเราก็ต้องทำงานเหนื่อยขึ้นค่ะ แล้วทำไมเราถึงเลือกทำวันหยุด ก็คงหนีไม่พ้นค่าแรงนั่นเอง เพราะวันที่ลูกค้าเยอะค่าแรงก็จะเยอะตามไปด้วย สรุปก็คือเราหน้าเงินนั่นเอง…
– เริ่มงานวันแรก ด้วยความที่ยังเป็นเด็กใหม่ก็เลยต้องพึ่งพาเพื่อนที่ทำอยู่ก่อนแล้วโดยการให้เพื่อนพาไปฝากฝัง(?) แนะนำตัวกับเจ๊เจ้าของร้าน เมื่อฝากเนื้อฝากตัวกับเจ๊เรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่เราทำคือกินข้าวค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เพราะฉะนั้นกินมาแล้วก็กินเข้าไปอีก ทุกเช้าที่ร้านจะมีก๋วยเตี๋ยวหรือกับข้าวฟรีเลี้ยงคนที่ไปทำงานค่ะ อยากใส่อะไรก็ใส่ปรุงเองทำเองตั้งแต่ลวกเส้นเลย เปรียบเสมือนการฝึกเป็นแม่ค้าขายก๋วนเตี๋ยวไปในตัว.. (หรอ) นับว่าเป็นเรื่องราวดีๆ เผื่อไปต่อยอดทำกิจการของตัวเองได้บ้าง 5555 หลังจากกินข้าวจนอิ่มแล้วก็ได้เวลาเริ่มงาน จริงๆแล้วช่วงเช้าจะยังไม่ค่อยมีลูกค้า เจ๊เลยให้เราไปเด็ดผัก หั่นผัก เจ้าผักนั่นคือหัวหอม แต่ปัญหาก็คือเราทำไม่เป็นค่ะ จริงๆเราทำอะไรไม่เป็นเลยสักอย่าง 5555555 เพราะปกติอยู่บ้านไม่เคยทำเลย ชีวิตแลดูไร้ประโยชน์ต่อชาติและสังคมมาก แต่เราจะไม่เป็นแบบนั้นอีกต่อไปค่ะ!!! เรามาที่นี่เพื่อจะพัฒนาตนเองให้มีทักษะชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อเจ๊สอนเราเลยตั้งใจฟังเต็มที่ค่ะว่าทำยังไง
หลังจากเด็ดผักไปได้สักพัก พอลูกค้าเริ่มมากันเยอะขึ้นเจ๊ก็จะมาเรียกเด็กจ๊อบ (เด็กที่ทำพาร์ทไทม์) ไปเข้าโซนค่ะ คือร้านนี้เขาจะแบ่งที่นั่งเป็นโซนๆ แล้วก็แบ่งคนไปรับผิดชอบโซนนั่นๆค่ะ ร้านนี้จะมีทั้งหมด 7 โซนค่ะ คือ โซนแอร์ใน แอร์นอก กลางบ้าน ป่าจาก โดม บ้านตึกชั้นล่าง บ้านตึกชั้นบน ทุกโซนจะมีเด็กจ๊อบอย่างน้อย 1 คน กับ พนักงานประจำโซนละอย่างน้อย 1 คนเหมือนกัน แต่โซนที่คนเยอะมากๆตลอดเวลาคือ โซนแอร์ในกับแอร์นอกค่ะ เจ๊อยากให้เราทำงานเป็นไวๆเลยจับเราไปลงโซนแอร์ในตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ… ;__; ตอนนั้นเราทำอะไรไม่เป็นเลย ต้องคอยถามเพื่อนตลอด พอจะมัดยางถุงก็มัดไม่เป็น เทกับข้าวใส่ถุงกลับบ้านก็ไม่เป็น ทำอะไรก็ดูเก้ๆกังๆไปหมด แล้ววันนั้นเป็นวันเสาร์หลังวันหยุดสงกรานต์ค่ะ คนเยอะมากกกก เราทำงานตลอดไม่ได้นั่งเลย ทำงาน 12 ชั่วโมง กับค่าแรง 300-400 บาทต่อวัน ถามว่าคุ้มไหมก็ตอบเลยค่ะว่าไม่คุ้มแต่เราไม่เลิกทำ ทำแล้วต้องทำให้สุด
– ผ่านมาได้สัปดาห์นึงเริ่มมีเพื่อนในร้าน เริ่มสนิทกันทุกอย่างก็ดีไปหมดค่ะ งานเหนื่อยแค่ไหนก็ยิ้มก็ขำ เพราะได้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานดีๆ จากตอนแรกที่บ่นปวดขาทั้งวัน พอทำมาเรื่อยๆก็ไม่มีอะไรยากเกินกำลังเราค่ะ แค่ต้องไม่ท้อต่ออุปสรรค โดยรวมแล้วจากที่ไปทำมาเกือบตลอดช่วงปิดเทอม การไปทำงานที่ร้านนี้เป็นเรื่องที่น่าประทับใจค่ะ อยากให้ทุกคนลองทำดูเป็นประสบการณ์ใหม่ๆแถมเป็นการฆ่าเวลาที่ดี ได้ตัง ได้เพื่อน ได้ประสบการณ์ ได้ออกกำลังกายด้วยค่ะ 555555 ช่วงนั้นเพื่อนที่ไม่ได้ไปทำงานด้วย ทักเลยค่ะว่าผอมลงนะ เรานี่ยิ้มแห้งเลยทำงานวันละ 12 ชั่วโมงขนาดนี้ วันๆนึงนั่งกี่นาทีนี่นับนิ้วได้เลยค่ะ ถ้าอ้วนขึ้นคงแปลกแล้ว 55555555 ความลับอีกอย่างนึงคือ..แอบชอบคนที่ทำงานด้วยหละค่ะ แต่จบไม่สวย เพราะงั้นขอผ่านนะคะ… แฮ่ (แล้วบอกทำไม)
– จบเรื่องที่ทำงานกันไปนะคะ พอหอมปากหอมคอให้พอรู้ว่าเราได้อะไรมาบ้างเนอะ 5555555 ทีนี้ก็มาต่อที่หัวข้อหลักกันเถอะค่ะ เย้ / …อีกครั้งกับคอนเสิร์ตบังทัน รอบนี้ไม่เหมือนรอบที่แล้วเพราะเพื่อนที่เคยไปด้วยกันไม่ได้ไปด้วยกันแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายกัน เราก็มาเรียนไกลบ้านเลยค่ะ ซึ่งคอนจัดวันที่เราย้ายไปอยู่หอแล้วค่ะซึ่งนั่นคือปัญหาใหญ่เลยล่ะ Orz
– เรื่องราวครั้งนี้เริ่มจาก… รู้ตัวว่าบังทันจะมีคอนนั่นหละค่ะ ฟฟฟฟฟฟฟฟ พอเรารู้ก็เครียดเลย เพราะตอนนั้นกำลังจะปิดเทอม 6 เดือน ซึ่งหมายความว่าเราจะอยู่แต่บ้านและไม่มีตังเก็บค่ะ /ปาดน้ำตา (つд;) และนั่นทำให้เราต้องหาตังไปคอน จากที่เล่าไปข้างบนก็คือเราไปทำงานพาร์ทไทม์มา เราเลยได้ทั้งเงินไปคอนโดยไม่ต้องขอพ่อแม่และได้ประสบการณ์ในการทำงานด้วยค่ะ ♡
เมื่อเรามีตังแล้วสิ่งที่ต้องทำต่อไปคือชวนเพื่อนๆค่ะ แต่.. ครั้งนี้น้องพลอยไม่ไป เพราะแม่บอกว่าเพิ่งไปมาโดนขุ่นแม่ห้าม ฮรึก ;__; ส่วนจูน…ไม่มีตัง บวกกับตอนนั้นเพื่อนจะไปต่างประเทศด้วยเลยเก็บตังไปต่างประเทศค่ะ… สรุปเราหัวเดียวกระเทียมลีบ ㅠㅠㅠㅠ เพราะงั้นเราเลยต้องหาคนช่วยกดบัตร รอบนี้ไม่มั่นใจเลยว่าจะกดบัตรได้ เพราะมีคนชอบบังทันเพิ่มขึ้นเยอะเลย เราเลยไปไหว้วานพี่ที่รู้จักกันในทวิต(และไม่ได้ชอบบังทัน) ให้ช่วยกดบัตรให้ค่ะ 55555555555 รอบนี้เราเลือกโซนที่จะไปยากมากกกกกก เพราะบัตรนั่งมันห่างจากเวทีและมี FOH คั่นระหว่างที่นั่งกับเวที เราเลยไม่กล้าไป กลัวไม่คุ้มเพราะเห็นไม่ชัดค่ะ ส่วนบัตรยืนก็กลัวจะโดนเบียดจนเป็นลมคาหลุม เพราะเป็นสาวน้อยตัวเล็กเพียงคนเดียวลำพังหว่าเว้~ จะให้ลงบัตรหลุมคนเดียวก็จะดูทำร้ายตัวเองเกินไป แต่จนแล้วจนรอดด้วยความอยากไปเจอเขาใกล้ๆ เลยตัดสินใจ ณ วินาทีสุดท้ายว่าจะไปบัตรยืนด้วยส่วนสูงอันน้อยนิดที่มีอยู่.. เอาแบบมีสาระก็จริงๆแล้ว ไปปรึกษาเพื่อนๆมา แล้วทุกคนต่างบอกว่าให้ไปบัตรยืน เพราะใกล้กว่า ถูกกว่า สนุกกว่า ด้วยความที่เราเป็นคนเชื่อคนง่ายเลยไปตามที่เพื่อนๆแนะนำมาค่ะ..(หรอ)
เราไปบัตร 4,800 ค่ะ ซึ่งบัตรเราจะมีคนสุ่มได้ไฮทัชแค่ 400 คน ได้เข้างานแถลงข่าว 145 คน และโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นต์ 30 คน คอนที่แล้วมีกรุ๊ปโฟโต้ด้วยแต่คอนนี้ไม่มี น่าเสียดายเนอะ รวมกันหลุมสองฝั่ง หลุมละประมาณเกือบๆ 2,000 คน… โอกาสที่จะได้ก็.. อย่าพูดถึงเลยดีกว่าค่ะ (つд;)
– สรุปก็.. นกเหมือนเดิม นกซ้ำนกซ้อน แบบนี้คอนหน้าคงต้องไปทำบุญก่อนกดบัตรค่ะ มันช่างน่าเจ็บใจ เพราะคิวที่ 562 ได้สิทธิ์เข้างานแถลงข่าว ห่างกันแค่คิวเดียวเองเนอะ แต่มาคิดดูถึงเราได้สิทธิ์นี้มาก็คงไม่ได้ไปค่ะ เพราะวันที่จัดงานแถลงข่าวเราไม่ว่าง เลยเสียใจแต่ไม่แคร์~ /สะบัดบ๊อบ ┐(´д`)┌ เมื่อเรื่องบัตรจบกันไปแล้ว แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดของการไปคอนครั้งนี้มันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นค่ะ.. เราไม่รู้จะไปยังไงและกลับยังไง ถ้าเรายังอยู่ที่บ้านก่อนจะไปคอนก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะนั่งรถไปกลับเองได้ แต่วันก่อนไปคอนเราอยู่ที่มอแล้วเนี่ยสิคะ ;___; เราเลยหาวิธีว่าจะไปยังไง ทั้งหาเพื่อนในมอไป หาเพื่อนในเอกไป ก็ไม่มีใครไปสักคนเลย (´・_・`) จะไปคนเดียวก็จะเฟี้ยวไป กลับดึกแถมยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่แบบนี้คงไม่ค่อยดี แต่!..เราไปเจอโพสหาเพื่อนไปคอนของบ้านเบสไทยบ้านหนึ่งค่ะ เหมือนพบหนทางแห่งแสงสว่าง เราเลยรีบเข้าไปลงชื่อ แต่มีคนลงชื่อว่าอยู่ชลบุรีอยู่แล้ว เราเลยทักไป คุยแนะนำตัวกันนิดหน่อยเขาก็ลากเราเข้าไลน์กลุ่มค่ะ ในกลุ่มก็ตกลงกันว่าจะเหมารถตู้ไป เสียค่ารถกันคนละ 300 บาท
–06/08/2559- ♡
– ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงค่ะ วันนี้เราต้องไปหาบังทันกันแล้ว เย้ / เราตื่นประมาณ 7 โมงเช้า ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวไปคอนเนอะ วันนั้นเราไม่ได้กินข้าวกินไม่ทัน เพราะรถมาประมาณ 9 โมง กว่าเราจะเตรียมตัวเสร็จก็ต้องออกจากหอแล้ว ฮืออออออออ ;___; เรานั่งมอไซวินไปที่จุดนัดพบ กว่าจะไปถึงเพื่อนๆคนอื่นก็มานั่งรอกันหมดแล้ว มองไปที่เท้าเพื่อนแต่ละคนแล้วได้แต่อึ้งค่ะ เสริมส้น เสริมส้นกันเต็มไปหมดเลย แล้วฉันมาทำอะไรที่นี่เตี้ยที่สุดในกลุ่มแล้วยังใส่รองเท้าแตะอีก… เลยโดนแซวค่ะว่าทำไมไม่ใส่เสริมส้นมา เราก็ได้แต่ก้มหน้าตอบว่าลืม ตอนแรกกะว่าจะสั่งในเน็ตมาแต่มานึกได้ 2 วันก่อนไปคอน ถ้าสั่งมาตอนนั้นของก็มาไม่ทันค่ะ เลยทำใจไม่ใส่ก็ได้ ㅠㅠㅠㅠ
หลังจากคุยกันได้นิดหน่อยรถก็มารับค่ะ เราก็ขึ้นไปบนรถกันแล้วก็เปิดเพลงบังทันฟังกันไปตลอดทางเลยค่ะ มีเพื่อนเอาบราวน์นี่มาแจกด้วย บางคนก็ปริ้นรูปมาแจก เราไม่ได้เอาอะไรไปเลยรู้สึกผิดมาก ณ จุดนี้ (´・_・`) ระหว่างเดินทางเราก็มองข้างทางไปเรื่อย แล้วจู่ๆเราก็เห็นร้านขายรองเท้ารองเท้าเสริมส้นด้วย!! แต่ตอนนั้นอยู่บนถนนรถติดอยู่จะบอกเขาให้แวะซื้อรองเท้าก็แปลกๆ เลยไม่ซื้อมาค่ะได้แต่มองตาละห้อย ฮรึก /ปาดน้ำตา
– พอเรามาถึงอินดอร์สเตเดียมก็แปลกใจเลยค่ะ เราเพิ่งรู้ว่าอยู่ข้างๆกับราชมังคลาฯ ราชมังใหญ่มากจริงๆ เห็นแล้วได้แต่สงสัยว่าถ้านั่งบัตรดอยจะมองเห็นอะไร…หลังจากยืนอึ้งกับความใหญ่โตของราชมังกันไปพักนึง ก็ต้องแยกย้ายไปทำภารกิจของตัวเอง เพื่อนๆบางคนมารับบัตรหน้าคอนเลยรีบไปต่อแถว ส่วนเราให้ส่งมาทางไปรษณีย์ เลยแยกตัวไปรับของที่นัดรับไว้ค่ะ สิ่งนั้นคือ… อาร์มี่บอมบ์นั่นเอง แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นจนได้ เราหาจุดนัดรับไม่เจอ… เดินวนไปวนมาจนสุดท้ายต้องถาม รปภ.แถวนั้นค่ะว่าสระน้ำอยู่ตรงไหน ;___; กว่าจะเจอก็หลงอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง แดดก็ร้อนด้วย ดีนะคะที่รอดมาได้… พอเจอจุดนัดรับก็เข้าไปคุยกับพี่เจ้าของร้าน ความประทับใจแรกเลยคือ เราแค่ไปยืนเขาก็ถามเลย ‘น้องxx ใช่ไหมคะ‘ ตอนนั้นงงมากเพิ่งเคยนัดรับครั้งแรก ทวิตเตอร์ก็ล๊อค รูปเราไม่เคยลงแล้วพี่เขารู้ได้ยังไง ซึ้งมากค่ะ (つд;) หลังได้ของมาแล้วเราก็ประกอบเลย ลืมบอกไปว่าเราแอบแวะซื้อถ่านใส่มี่บอมบ์ก่อนออกไปขึ้นรถค่ะ ☆
เสร็จภารกิจไปหนึ่งอย่างแล้วสถานีต่อไปคือช๊อปปิ้ง เป็นประจำสำหรับการไปคอน รอบนี้มีร้านค้าเยอะมากกกก ส่วนมากเป็นของแฟนเมด แฟนอาร์ต น่ารักมากเลย เราโดนสติกเกอร์กันรังสี เสื้อ 2 ตัว สมุด สแตนดี้ สติกเกอร์ ได้มาแต่ของกระจุกกระจิก ตอนแรกว่าจะเก็บตังไปซื้อของออฟฟิเชียลนะแต่ไม่รอดค่ะตังหมด แถมแถวซื้อของยาวมากเราเลยยอมแพ้ ㅠㅠㅠㅠ เปลี่ยนไปเดินตามล่าของฟรีแทน บางทีก็ไปช่วยเขาแจก สนุกดีค่ะ >w<;
– ต่อไปเราก็ต้องไปเตรียมตัวต่อคิวเข้าคอนค่ะ เราก็เข้าไปนั่งรอ ตอนแรกเราว่าจะไปฝากกระเป๋าก่อนแต่ตอนนั้นจุดรับฝากยังไม่เปิด กว่าจุดรับฝากจะเปิดคิวที่ 1-500 ก็ได้เข้าไปแล้ว แต่เราเอาเป้ไป อยากไปฝาก เลยออกจากแถวไปฝาก พอไปถึงแถวคือเราเห็นความยาวแถวแล้วรู้เลยว่าฝากไม่ทันเข้าคอนแน่ๆ เลยไม่ฝากแล้วกลับมาเข้าแถว (ดูสับสนกับชีวิตเนอะ) มาถึงแถวได้แปปเดียวเขาก็เรียกเข้าเลยค่ะ โชคดีที่ตัดสินใจไม่ฝาก พอผ่านจุดตรวจของแล้วก็รีบวิ่งเข้าไป เราเลือกยืนตรงสเตจเล็กด้านหน้าค่ะ จริงๆคิวที่ 561 ก็ไม่ห่างเวทีเท่าไหร่นะคะ มองเห็นเลยถ้าบังทันมายืน ยืนรอประมาณครึ่งชั่วโมงระหว่างนั้น VTR ก็เปิดเอ็มวี ทุกคนก็ร้องตามค่ะ ตอนนี้บรรยากาศน่ารักมากค่ะ แต่จริงๆแล้วมันคือภาพลวงตา…
– หลังจากนั้นเราก็ได้ดูคอนอย่างสงบสุขสักทีค่ะ ช่วงท้ายคอนเราจำไม่ได้ว่าเพลงไหน แต่บังทันจะปาลูกบอลแจกค่ะ!! ตอนนั้นเจโฮปปามาตกตรงเราพอดีเลย แต่เราหยิบไม่ถนัดเพราะถือมี่บอมบ์อยู่ เลยทำตกลงไปข้างล่าง จริงๆเราจะกระโดดลงไปเก็บก็ได้ แต่เราเห็นว่าตรงนั้นมีคนเดี๋ยวเขาก็คงหยิบ แต่..ผิดคาดเขาไม่หยิบค่ะ จนผ่านไปพักนึงเขาเห็นว่าเราไม่เอา เขาเลยเอาไปค่ะ ฮือออออออ เสียใจ เสียใจจนถึงทุกวันนี้ว่าทำไมไม่ลงไปเก็บ (つд;) ทำไม๊ ทำไมฉันไม่เก็บมันขึ้นมา… /ขาดใจตาย
– หลังจากคอนจบฝนตกค่ะ ตกหนักด้วย แต่เราต้องไปต่อแถวรับกระเป๋าที่ฝากไว้ก่อน กว่าเราจะมาถึงแถวก็ยาวแล้ว แถมบางคนก็แซงแถวอีก เราต่อแถวอยู่เป็นชั่วโมงกว่าจะได้กระเป๋า กลับไปถึงรถตู้เรากับเพื่อนอีกสองคนเป็นกลุ่มสุดท้ายค่ะ แถมต้องจ่ายตังค่ารถเพิ่มคนละ 50 บาท เพราะเลยเวลาที่เหมาไว้อีก ระหว่างเดินทางกลับเพื่อนก็คุยกันอย่างมีความสุข ว่าถ่ายอะไรมาบ้าง ใครเดินมาเล่นด้วยบ้าง ตอนนั้นเราไม่อยากได้ยินเลยหลับค่ะ… หดหู่มากถ้าไม่หลับอาจจะร้องไห้
– คืนนั้นเรานอนหอเพื่อนค่ะ เพราะแม่ไม่อยากให้เราเดินทางไปหอคนเดียว เราไม่ได้กินข้าวเช้า ข้าวเที่ยงก็ไม่ได้กิน เลยแวะเข้าเซเว่นก่อนไปหอค่ะ แต่เรากินอะไรไม่ลงเลยซื้อแค่ไวตามิลค์หนึ่งกล่องกับซาร่าแผงนึงกันเป็นไข้ ไปถึงหอเราก็นอนเตียงเมทเพื่อน พอดีเขากลับบ้านเตียงเลยว่างพอดี ก่อนนอนก็จัดของนิดหน่อย เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็นอนเลยค่ะ (น้ำไม่อาบ ว้ายยย) รู้ตัวอีกทีตอน 9 โมงเช้าตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันแล้วออกไปกินข้าวเช้ากันค่ะ แต่ข้าวร้านนั้นไม่อร่อยเลย ข้าวผัดที่ไหนเขาใส่พริกกั๊นนนนนนนน ;__; กินข้าวเสร็จเราก็แยกย้ายกันกลับหอตัวเอง เป็นอันจบการผจญภัยครั้งนี้ค่ะ
♡ – – – – – – – – – – – – – ♡
– ถามว่าคอนนี้เป็นไงบ้างคงตอบว่าเหมือนไม่ได้มาค่ะ ดูไม่รู้เรื่องเลย กว่าจะดูรู้เรื่องก็เหลืออีกแค่ 5-6 เพลงจะจบคอนแล้ว ตอนที่เบียดๆกันพี่นัมจุนเห็นด้วยค่ะ แล้วพี่เขาก็พูดเตือนบอกว่าอย่าเบียดกันแต่ก็ไม่มีใครฟัง จนพี่เขาต้องเตือนรอบที่สองเขาบอกว่าเห็นแบบนี้แล้วเสียใจ แต่ทุกคนก็ยังทำเหมือนเดิมเบียดเหมือนเดิม… น่าเศร้านะคะ ช่วงท้ายคอนก็ตัดออกไปหลายเพลงเลย ไม่รู้ว่าทำไมแต่เซ็ตลิสต์ไม่เหมือนของประเทศอื่น
– คอนนี้ต่างจากคราวทีแล้วมาก เราไม่มีความสุขเลย แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นผ่านคอนมาแค่วันเดียวก็คิดถึงบังทันแล้วล่ะค่ะ คิดซะว่ามันเป็นประสบการณ์เนอะ คราวหน้าเอาใหม่ถ้าจะไปหลุมก็ต้องเซฟตัวเองกว่านี้ อย่าใส่รองเท้าแตะ!! แล้วก็พกกระเป๋าใบเล็กๆไปแทน หรือไม่ก็ซื้อบัตรนั่งไปเลยอย่าไปเสี่ยงดวงอีกเพราะเรามันเตี้ยกว่าคนอื่นเขา ฮรึก (つд;) เราอยากให้บล็อกนี้เตือนใจทุกๆคนที่จะไปคอนค่ะว่าถ้าเตี้ยอย่าลงหลุมมมมมมมมมม ใครโชคดีก็อาจจะดีไป แต่ถ้าใครโชคร้ายอาจจะเจอแบบเราเน้อ แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีสิ่งดีๆอยู่คือเรามีโอกาสได้เห็นจีมินผมดำกับตาตัวเองด้วยค่ะ มันดีมากๆเลย ;//////; เพราะจีมินย้อมดำแค่แปปเดียวก็กลับไปทำผมสีๆอีกแล้ว เราจะคิดว่านี่คือความโชคดีของเราค่ะ บล็อกนี้ก็คงจบแค่นี้เนอะ เจอกันใหม่เมื่อเราอยากเขียนนะคะ /โดนตบ
♡ – – – – – – – – – – – – – ♡
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in