— I only fell for you , baby
[1]
อากาศช่วงนี้ทำให้คุณเพลิดเพลินกับเพลงแนวที่ชอบได้มากขึ้น
นั่นเป็นสาเหตุของเสียงร้องไห้ที่ทำให้ผมตื่นขึ้นมากลางดึก
พลิกไตัวไปอีกฝั่งของเตียง เพื่อโอบกอดคุณผู้กำลังนอนคู้ตัว
ร่างกายเล็กผอมดูเปราะบางเข้าไปอีกเมื่อเจออากาศหนาวและเพลงเศร้า
[2]
เดทกันครั้งแรกในรอบปีหลังจากยุ่งอยู่กับงาน คุณบอกว่า die tomorrow ฉบับแผ่นมาส่งแล้ว พร้อมของสมนาคุณมากมายเพราะสั่งซื้อเซ็ตครบชุดหลังจากรอทีมงานจำหน่ายแผ่นอยู่นานนับปี— ผมกึ่งนั่งกึ่งนอนดูอยู่บนเตียงข้างๆ คุณผู้มีประกายความตื่นเต้นในดวงตา
เรื่องราวดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ไม่หวือหวา ไม่เกินจริง เล่าเรื่องราวของผู้คนในชีวิตประจำวัน พร้อมตัวเลขนับจำนวนคนตายที่เพิ่มขึ้นตามเฉลี่ยแต่ละวินาทีที่มุมจอ
คุณชอบหนังเรื่องนี้
“ผมว่ามันทำให้ผมรู้สึกสงบดีนะ”
คุณกล่าวแล้วหัวเราะนิดหน่อย รู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองพูดมันช่างน่าขัน
แต่ก็ไม่อาจปฎิเสธได้ว่าหนังเรื่องนี้มีมุมมองเกี่ยวกับความตายที่สงบเหลือเกิน
นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ผมชอบกำมือคุณไว้ขณะที่คุณกำลังจดจ่อกับหน้าจอตรงหน้า
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ท่าทีเรียบนิ่งของคุณทำให้ผมหวั่นใจ
อาจเป็นเพราะบาดแผลใหม่บนร่างกายที่ไม่เคยลดจำนวนลง
วันนั้นหลังดูหนังจบ คุณเดินออกไปที่ระเบียง ยืนจ้องมองทิวทัศน์เบื้องหน้า
ผมเอนตัวลงบนเตียงขณะที่สายตาจับจ้องมองแผ่นหลังของคุณ
ร่างผอมบางของคุณกระทบกับแสงแดดบ่ายที่ทอดทาบทับลงมา
“ข้างนอกลมพัดหนาวนะ” ผมเอ่ย
“แต่แสงแดดอุ่นดีนะครับ” คุณตอบกลับมา
ร่างโน้มตัวไปข้างหน้าราวต้องการส่องมองว่ามีผู้ใดเดินผ่านใต้ตัวอาคาร
ผมรู้ว่าคุณไม่ได้กำลังมองหาสิ่งใด— แต่กำลังหลับตา
ก้มหน้าลงเพื่อบังคับให้หยาดน้ำตารินไหล
[3]
คุณกับผมอายุห่างกันสี่ปี เราพบเจอกันครั้งแรกตอนเลี้ยงสายรหัส
คุณเพิ่งเข้าปีหนึ่ง ผมก็กลายเป็นพี่คนแก่ของคุณตั้งแต่แรกพบเสียแล้ว
ในตอนนั้น คุณพูดน้อย แต่ก็ยิ้มแย้ม พูดคุยสนุกสนานตามประสา
ผมอาสาไปส่งคุณที่หอพักเพราะคุณไม่มีรถกลับ พวกเราร่ำลากันตามความเหมาะสม ก่อนจะเกิดเหตุบางอย่างที่ทำให้ผมวนกลับไปหาคุณ , เรื่องราวของพวกเราเริ่มต้นขึ้นตอนนั้น
แล้วที่นั่งข้างคนขับก็กลายเป็นที่ประจำของคุณ
[4]
คุณมักจะจัดเก็บข้าวของเป็นระเบียบเสมอ ยิ่งหนังสือ หรือเอกสารของตัวเองแล้ว เป็นอีกหนึ่งตัวตนของคุณที่ผมมองว่ามันน่ารักดี
สมุดบันทึกอาการป่วยถูกดึงออกมาเตรียมเขียนทุกครั้งที่จะครบรอบนัดกับแพทย์ แต่เอาเข้าจริง มันถูกดึงออกมาเขียนบ่อยครั้งไปเมื่อคุณร้องไห้ , คุณจึงวางมันไว้ข้างซองยา
“อังคารนี้ไปหาหมอตอนบ่ายใช่มั้ย” ผมถาม วางคางเก่ยบนไหล่ของคุณ
“ครับ” คุณตอบ น้ำเสียงไม่เจือความง่วงแม้แต่นิดเดียว
“เสร็จแล้วไปเดทกันนะ” แขนโอบกอดเอวของคุณไว้
“เอาสิครับ” ครั้งนี้คุณหัวเราะนิดหน่อย
แผ่นหลังของคุณแนบชิดแน่นกับหัวใจของผม ท่อนขาของเราสัมผัสกัน ปลายเท้าแต่ละคนล้วนเย็นเยียบ ทั้งนี้เป็นฝีมือของลมหนาวทั้งนั้น
คุณหลับตาพริ้ม ในฟูกนุ่ม ผ้านวมผืนโปรด และอ้อมกอดของผม
พรุ่งนี้ผมจะนั่งเฝ้ารอคุณที่หน้าแผนกตรวจ
คุณจะยิ้มเจื่อนให้กับแผงยามากมายในถุง
และผมจะกุมมือคุณไว้ รอเวลา จนกว่าคุณจะเอ่ยปากถามว่าเมื่อไหร่จะพาไปกินบิงซูแตงโม
?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in