เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เบญจามิน #benjastagram : jodaesupersaranchai
benjastagram 1/2
  •  






    #benjastagram
     
    เบญจามิน-โดยอง
    พีช-แจฮยอน
    จ๊าบ-พี่จอน







    เสียงบอกใกล้ถึงสถานีเตือนให้ระวังการลงจากรถไฟแทรกผ่านเสียงจอแจของผู้คนตอนเย็นวันศุกร์
     
    รถไฟฟ้าไม่มีที่ว่างให้คนอ่อนแอตอนนั้นที่เบญเผลอคิดถึงคุณภาพชีวิตแล้วต้องถอนหายใจออกมาหนักๆ
     
    ไม่มีความพอดี ไม่ว่าจะทางไหนก็ไม่อำนวยให้รู้สึกว่าที่ที่เบญต้องอยู่มันน่าอยู่เลย
     
    .... แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าที่ไหนบนโลกจะน่าอยู่
     
     
    ก็เบญยังเป็นแค่นักเรียนม.5ที่วิ่งตามระบบของสังคมเพื่อที่จะอัพเกรดตัวเองไม่ให้ตกเป็นชนชั้นที่โดนกดขี่ไม่เคยเห็นปัญหาโลกภายนอกที่ไกลตัวหรือไกลกำลังทรัพย์ก็เลยไม่กล้าฉอดว่าที่นั่นที่นี่ดีกว่า จึงด่วนสรุปไปเองว่าที่นี่ไม่น่าอยู่ และเบญไม่อยากอยู่แล้ว
     
     
    ถ้าเป็นคนที่ชินชาหรือเฉยเมยกับการเบียดเสียดรับกลิ่นเหงื่อการต่อแถวซื้อบัตรโง่ ๆ เพราะเครื่องขายบัตรอัตโนมัติบุลลี่คนพกแต่แบงค์ได้ก็คงดี
     
    เบญเอะใจขึ้นมาว่ามันจะไปได้แค่นี้จริง ๆหรอวะ คนระดับที่เขาขึ้นเป็นผู้นำที่ภาวะอำนาจการตัดสินใจที่กำหนดทิศทางของประเทศเขาทำได้ดีที่สุดแค่นี้เองหรอ
     
     
    แล้วก็ได้คำตอบผ่านแถวยาวจนเกือบถึงบันไดเลื่อน ว่าก็ได้แค่นี้แหละอยู่กันอย่างงี้แหละ อยู่กันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ 
     
    เคยมีใครคำนวนมั้ยว่าหนึ่งวันเราเสียเวลากับการเดินทางไปเท่าไหร่ถ้าใช้เวลาที่เสียไปจากตรงนี้เราจะทำอะไรได้บ้าง
    เบญตอบในใจเล่น ๆว่าอ่านคอมิคจบหนึ่งตอน —แน่นอนว่าไม่ได้มีประโยชน์ แต่อย่างน้อยก็เป็นสิ่งที่เลือกเองไม่ได้ถูกสิ่งเร้ามากระตุ้น หรือถูกสภาพสังคมบีบบังคับ
     
     
    ในหัวเบญสับสนแล้วก็รำคาญ คนเราจะถกเถียงเรื่องวัตถุนิยมไปทำไมนะในเมื่อสุดท้ายไม่ว่าบีเอ็มหรือมาสด้าก็จบอยู่กลางสี่แยกไฟแดงสักแห่งหนึ่งเบียดกันอยู่อย่างนั้นกลางถนนไม่ว่าจะรถยี่ห้อไหนก็หลีกหนีการจราจรห่วยแตกไปไม่ได้ ถ้าไม่ได้มีอำนาจสั่งปิดถนนหรือขับเครื่องบินไปจอดไว้หน้าบ้าน
     
    “sorry”
     
    คนต่างชาติลากกระเป๋าเดินทางชนเบญจนเซเล็กๆหางตาเห็นชุดนักเรียนโรงเรียนเดียวกันที่ไม่คุ้นหน้าขยับคล้ายว่าจะเข้ามาช่วยแต่เบญพยุงตัวเองค้านแรงโน้มถ่วงของโลกได้ก่อนเลยจบที่ก้มหัวขอบคุณพลางๆแล้วไม่ได้สนใจ
     
    “Are you alright?”
     
    “Don’t worries. I'm ok”
     
    พอปลีกตัวจากคู่กรณีมาได้เบญก็พบว่าเพื่อนร่วมขบวนคนนั้นยังมองอยู่เราสบตาแล้วก็เดินแยกกันไป ไม่มีคำทักทายอะไรหรอกเพราะนอกจากชื่อสถาบันที่ติดอยู่บนชุดเบญก็ไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว
     
    เบญเดินไปกดตังค์ผ่านแอปก่อนจะเดินเข้าร้านนางเงือก ซื้ออะไรหวาน ๆที่ไม่ดีต่อสนุกภาพแต่ละลายในปากและเข้ากับบรรยากาศร้อนๆ
     
    ไม่เสียเวลานาน เบญข้ามถนน เป้าหมายต่อไปคือเดินเท้าไปสามย่านบรรยากาศ5โมงเย็นกำลังพอดีกับการเคาะฟิล์มถ่ายรูปงานอดิเรกที่ไฟนอลพรากมันไปจากเบญร่วมเดือน
     
    ผ่านคณะนิเทศศาสตร์ มหาลัยที่พ่อมาร์กหัวไว้ว่าต้องเข้าให้ได้ถ้าจะเลือกเรียนสายนี้ไม่ได้บังคับหรอกนะ..แต่ถ้าจะเรียนนิเทศ ไม่ติดจุฬาก็ไม่ต้องเรียน พ่อว่ามาอย่างนั้นเบญก็เลยได้แต่เออออ ไม่กล้าขัดใจหรอก เขาเคลมว่ามีบุญคุณทำให้เบญได้เกิดมา..แม้จะไม่ด้ถามเบญเลยว่าอยากเกิดมาหรือเปล่า
     
     
     
    ไม่เร็ว ไม่ช้า เคาะกระจกหน้าร้านสองสามทีก่อนจะเข้าไปทั้งรอยยิ้ม
     
    ลมอะไรหอบมา”
     
    พี่ลินน์ทักทาย...ไม่ได้มาเกือบสองเดือนทั้งๆที่ปกติมาอาทิตย์ละครั้ง 
     เบญยักไหล่ก่อนจะล้วงเอาม้วนฟิล์ม4ม้วนในกระเป๋าส่งให้ผ่านเคาท์เตอร์
     
    ลมสอบยื้อเบญไว้อะดิ ..โคตรเหนื่อยเลยเจ้”
    "เห็นขอบตาก็เชื่อแล้วป้ะ.. กรอกเมลด้วย กูลืมแล้ว”
    กระดาษแผ่นเดิมถูกยื่นมาพร้อมเสียงเคาะปากกาตรงที่ยังไม่ได้เขียน
     
    นั่งก่อน”
     
    เบญวางกระเป๋าเดินสำรวจร้านแล้วก็พบว่าารูปเซเลปบนฝาผนังเพิ่มมาเกือบสิบแผ่น
     
    แมสแล้วนะเนี่ย”
     
    แซวตายิ้ม พี่ลินน์ส่ายหัวก่อนจะเมาท์ดาราชื่อดังคนที่ได้มีโอกาสร่วมงานให้เขาฟัง
     
    เอาแต่ใจชิบหายคิดว่าง่ายมากมั้ง..มาสี่โมงจะเอารูปสี่โมงครึ่ง อีสัด”
     
    ใจเย็น ๆ” เบญกลั้วหัวเราะ
     
    พี่จ๊าบไปไหนแล้วอะ”
     
    “..นั่นไง มาพอดี”
     
    พี่จ๊าบเดินออกมาแปะมือกับเบญทันทีที่เห็นว่าเบญยืนหายใจอยู่ในร้านด้วย
     
    ไม่บอกว่าจะมา”
     
    แล้วเบญก็ต้องหายใจติดขัดไปหนึ่งจังหวะตอนเด็กผู้ชายเดินออกมากจากเงาพี่จ๊าบพร้อมกล้องไลก้าสีดำล้วนที่ครั้งหนึ่งพี่จ๊าบเคยบอกว่า
     
    ลูกชายกูเอง หวงมาก  มีแค่มึงนะที่ได้จับมัน
     
    ....
    เหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้นแล้วสินะ..
     
     
    รู้จักกันรึเปล่าเรียนที่เดียวกันนี่ , พีช”
     
    คนเดียวกับที่เจอบนบีทีเอส..เบญawkward เกาท้ายทอยแล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
     
    เบญ..ผมรู้จัก”
     
    ฝ่ายนั้นพูดก่อน
    ไม่รู้ว่ารู้จักกันได้ยังไง
    แต่ที่แน่ ๆคือเบญไม่รู้จัก
    ยิ่งเห็นที่กล้องที่อยู่ในมืออีกฝ่ายแล้วเบญยิ่งพาลไม่อยยากรู้จัก
     
    “แน๊ มันเทพนะเบญจาแกรมคนนี้” ว่าจบก็ควักรูปที่เขาถ่ายให้ออกมาจากกระเป๋าตังค์ “สุดยอดป้ะ พีชอยากเล่นฟิล์มต้องให้เบญสอน”
     
    ไม่รู้ว่าทำไปเพราะไม่คิดอะไรหรือคิดแล้วแต่มันไม่มีอะไรถึงได้พกรูปที่เบญเป็นคนถ่ายให้รูปที่ล้างด้วยกันใส่กระเป๋าตังค์ไว้ตลอด
    มีแต่เบญที่เผลอคิดไปชิบหาย
     
    อุตส่าห์คิดไว้ว่ามูฟออนไปได้ไกล ใครแม่งจะรู้วะว่ามูฟบนลู่วิ่ง
     
    ห่างไปตั้งนาน แต่ไม่ถึงไหนเลยใจไอ้เชี่ยเบญ
     
    ชื่อพีชหรอ” 
    ทักไม่ให้สถานการณ์แย่ไปมากกว่าที่เป็นอยู่อีกคนพยักหน้าก่อนจะหามุมถ่ายรูปไปเรื่อย “อย่างนี้ถ้าลั่นไปแบบเผลอ ๆก็คือเสียเลยหรอรูปอะ”
     
    เออหนึ่งชัตเตอร์คือหนึ่งภาพ ถ้ามึงไม่ได้ชอบมันมึงจะกดทิ้งๆขว้างๆก็ได้ แต่ถ้ามึงให้ค่าฟิล์มมึงจะใส่ใจมากเวลากดมัน
     
    เฉียบว่ะ”พี่ลินน์หันหลังมาแซว พี่จ๊าบยักคิ้วก่อนจะยกมือขึ้นมายีหัวเด็กมัธยมตัวสูงผอมที่หายหน้าไปนาน
     
    แน่นอนดิผมเนี่ยลูกพี่เบญจาแกรมนะครับ”
     
     
     
     
    ——
     
     
    ยากว่ะ”
     
    แรกก็งี้”
     
    แล้วมันจะง่ายตอนไหน”
     
    ตอนมึงชอบมากมึงอยากทำมาก จนลืมโฟกัสว่าวิธีทำมันจะยากหรือง่ายมั้ง”
     
    เบญปล่อยกล้องให้ห้อยกับคอ เสื้อนักเรียนรุ่ยออกมาหย่อมนึงข้างตัวเป็นคนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึง3ชั่วโมง
     
    ถ่ายมึงได้มั้ย”
     
    พีชถาม และแน่นอนว่าเบญส่ายหน้า
     
    ไม่คุ้มฟิล์มมึงหรอก”
     
    ไม่มีคำพูดอะไรนอกเหนือจากนั้น เบญเดินนำหน้าไปไม่ได้สนใจว่าอีกคนจะก้าวตามหรือหยุดนิ่ง
     
    ตอนนั้นที่พีชรู้สึกว่ากลิ่นรักสันโดษที่แผ่ออกมาจากเบญจนอึดอัดที่จะอยู่ใกล้
     
    รำคาญกูหรือเปล่า”
     
    เบญชะงัก
     
    ทำไมคิดอย่างนั้น”
     
    มึงไม่ค่อยพูด”
     
    “...”
     
    ก็แค่...เบญไม่รู้จะพูดอะไร
     
    หลายครั้งที่เบญแสดงความเห็นแล้วโดนสายตาจับจ้องมีคนบอกว่าเบญแปลกแยกแล้วก็พยายามจะแหวกขนบสังคม
     
    คนเราต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอดอย่างปกติสุขแต่จะให้เบญเป็นแบบคนอื่นมันคงจะยากไป ขอเป็นแบบเดิมแต่ไม่มีใครรู้ดีกว่า
     
    ถ้าไม่พูดก็ไม่มีใครรู้ว่าเบญคิดอะไร เท่านี้ทุกอย่างก็ง่ายขึ้นเยอะเลย
     
     
    พออยู่คนเดียวก็ยิ้มเฉพาะเวลาอยากยิ้ม หัวเราะตอนตลกร้องไห้ตอนเสียใจ ไม่ต้องมานั่งปั้นแต่งความรู้สึกของตัวเองไปหลอกลวงใครทั้งนั้น 
     
    ถ้าได้ทำแบบที่อยากทำ...ต่อให้ต้องอยู่คนเดียวก็ไม่เป็นไร
     
     
    รำคาญก็บอกพูดได้ กูไม่โกรธหรอก”
     
    พีชไม่ได้เร่งก้าวขาตามมา มันพล่ามอยู่กับที่คนเดียวไปอย่างนั้นดูเหมือนจะไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเบญจะฟังหรือเปล่า
     
    รำ..คาญ”
     
    ไม่เซอร์ไพร์ส”
     
    ล้อเล่น”
     
    เบญหันกลับไปก่อนจะก้าวไปที่ที่เคยมา
     
    มึงชวนคุยสิ”
     
    “...”
     
     
    “..กูพูดไม่ค่อยเก่ง”
     
     
    ———
     
     
    ไม่เอางี้ดิพีชไอ้เหี้ย ไม่ได้ป้ะ”
     
    เดือนที่หนึ่ง เดือนที่สอง เดือนที่สาม..รู้ตัวอีกทีก็นั่งเอาขาเกยกันดูหนังในบ้านของพีช
     
    คริสปี้ครีมชิ้นสุดท้ายที่เบญเลือกไว้เพราะอยากกินช่วงไคลแม็กโดนกัดคำเดียวแต่แหว่งไปครึ่งชิ้นแน่นอนว่าขโมยก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
     
    กูนึกว่ามึงไม่กิน”
     
    ตอแหล
     
    เบญตะโกนลั่นในใจก่อนจะผลักหัวจนพีชลงไปซบกับเบาะโซฟาอีกฝั่ง
     
    อาศัยจังหวะเผลอ งับอีกครึ่งที่เหลือไว้คาปากคิ้วขมวดขู่แง่วว่าถ้าพีชแย่งอีกที่ต้องเอาหน้าลงไปบี้จะไม่ใช่เบาะโซฟาแต่เป็นส้นตีนเบญเนี่ยแหละ
     
     
    ขี้หวง”
     
    พีชยีหัวเล็กก่อนจะขยับตัวนังมองจอดีๆ 
    ก่อนหนังจบ เบญหยิบสมุดกับปากกา ชันขาเป็นที่รองเขียน 
     
    เบญเขียนความประทับใจจากหนัง พีชเคยแอบเปิดอ่านท้ายบทความเบญจะเขียนคำขอบคุณผู้กำกับหนังเรื่องที่เบญชอบอวยพรให้ความสำเร็จไม่ทรยศความพยายาม
     
    เข้าใจยาก แต่ที่เบญทำอยู่พีชมองว่าแม่งน่ารักชิบหายเลย
     
    เอาจริงนะกูว่าหนังกับกูแม่งไปกันไม่ได้ว่ะ”
     
    อยู่ๆก็พูดขึ้นมา ไม่มีปี่มีขลุ่ยเบญแนบหน้าลงกับพนักพิงจนแก้มเบียดกันย้วยให้พีชเผลอตัวเอามือไปเขี่ยเล่น
     
    ยังไง”
     
    กูไม่อินไม่อินแล้ว หมดแรงขับเคลื่อนความคิดชิบหาย จากเคยมีแพชชั่นที่จะพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีกว่า มีเป้าหมายว่าทำไปเพราะอะไรรู้ลิมิตว่าชอบมันแค่ไหน แต่หลังๆมานี่มันหายไป”
     
    เขาสะอึกไปพักหนึ่ง เบญทิ้งตัวลงบนตัก ตามันเหม่อลอยคล้ายว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันบนโซฟาสีเบจ
     
    แล้วมันเหี้ยตรงกูพยายามหลอกตัวเองไปเรื่อยๆว่าชอบที่จะทำมันเพราะไม่อยากยอมรับว่าที่จริงแล้วกูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบอะไร..โคตรห่วยเลยใช่ป้ะ”
     
    เบญยกมือปิดหน้า ..สัมผัสชื้นบนหน้าขาเรียกให้พีชต้องดึงมือมันออกเพื่อจะพบว่าน้ำตาอีกคนเปื้อนสองข้างแก้ม 
     
    ทะเลาะกับที่บ้านอีกแล้วหรอวะ”
     
    กูทะเลาะกับตัวเอง”
     
    มองตากู”
     
    “...”
     
    เบญ”
     
     
    ร้อยพันเสียงพิพากษ์ถึงความเหมาะสมในสิ่งที่เบญเป็น
     
    ครอบครัวไถ่ถามถึงความถูกต้อง ทวงร้องขอบุญคุณที่สักไว้บนหน้าผากด้วยหยดหมึกสีใสตั้งแต่เกิดใจความคือให้เบญสำนึก
     
    ต้องทำให้ได้ ต้องเป็นที่ภูมิใจ ต้องไม่ผิดพลาด และต้องสมบูรณ์แบบ
     
    เบญเริ่มรู้สึกว่าคำว่าถูกต้องของตัวเองกับครอบครัวเข้ากันไม่ได้อย่างสุดโต่งครั้งแรกตอนรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์
     
    ลองโยนหินถามทาง อ้างถึงเพื่อนชายที่ไม่มีตัวตนถามความเห็นพ่อทั้งพิรุจน์เต็มอก
     
    ตอนนั้นถึงได้รู้
     
    พ่อบอกว่ามันผิดปกติ ผิดธรรมชาติ เป็นบาปอย่าสาหัสแต่เบญมองว่าเป็นอีกประเภทของความรัก
     
     
    การตีกรอบจากคนหมู่มากไม่ได้แปลว่าจะถูกต้อง
     
    เบญเชื่ออย่างนั้นเสมอ
    เป็นความเชื่อที่เข้ากันไม่ได้เพราะมีหนึ่งฝ่ายไม่ชอบใจที่จะเปิดรับ
     
     
     
    ครอบครัวเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่สนิทใจตั้งแต่ที่เบญรู้สึกได้ว่าการมีลูกเป็นแค่การเล่นขายของของพวกผู้ใหญ่
     
    ไม่ได้เหมารวมหรอก เบญมีเพื่อนที่ครอบครัวซัพพอร์ตทุกความชอบสนับสนุนในทุกความสุข พอย้อนกลับมามองบ้านตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจพวกเขาทำเหมือนว่ากะอีแค่ชอบผู้ชายมันจะทำให้โลกแตก 
    หลังจากนั้นก็อีกหลายเรื่อง
     
    แพทเทิร์นความสุขของพ่อเป็นไปทางขวาแต่เบญเอียงไปทางซ้ายถ้าคุยก็มีปากเสียงเรื่องเลยจบที่เบญปิดปากเงียบอยู่ในห้องกับหูฟังแล้วก็หนังสักเรื่องที่จะพาเบญหนีออกจากสังคมที่ขัดแย้งกับความต้องการ
     
     
     
     
    ถ้าไม่ชอบก็ใช้ชีวิตต่อไปแบบไม่ต้องสนใจสิ
    ไม่เห็นจะต้องพยายามยัดเยียดความคิดให้เบญใหม่เลย
     
    ถูกต้องในที่ของตัวเองไม่ได้หรอในเมื่อความชอบของเบญก็ไม่เคยทำใครเดือดร้อน
     
     
     
     
     
     
     
     
    พีชขยับเข้ามาซ้อนหลังดึงอีกคนขึ้นไปนั่งทับบนตักกางเกงนักเรียนสีน้ำเงินร่นจนเห็นขาอ่อน
     
    ใครทำอะไรมึง..บอกกูหน่อยเบญ”
     
     
    ไม่มี”
     
    แล้วมึงร้องไห้ทำไม”
     
     
    “..กูเริ่มคิดว่าตัวเองแปลก”
     
     
    นั่นคือสิ่งที่เลวร้ายทีสุด
     
    เบญกลัวการถูกสังคมกลืนตัวเองในแบบที่ชอบไปแล้วทิ้งเบญแบบที่พวกเขาชอบไว้
     
    ....แล้วสุดท้ายเบญก็จะเป็นแบบนั้น
     
     
    แบบที่เบญเกลียดมันมาตลอดชีวิต
     
     
    หรือกูจะแปลกจริงๆวะพีช”
     
     
    ——
     
     
     
    ให้ไปส่งมั้ย”
     
    ไม่เป็นไร”
     
    แต่...”
     
    ไปหาป่านเถอะ แฟนมึงรอแล้ว”
     
    เบญยัดเสื้อใส่กางเกง หมดเวลาแล้ว บ่ายสี่โมงห้าสิบเบญมีเรียนพิเศษ ส่วนพีชก็ต้องใช้ชีวิตต่อในโลกความเป็นจริง
     
    เมื่อไหร่มึงจะเลิกอ้างป่าน”
     
    อ้างป่านอะไร”
     
    ช่างเหอะ กลับดีๆ”
     
    เบญพยักหน้านั่งยองใส่รองเท้าก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องไปไม่แม้จะมองกลับมา
     
     
    ฮัลโหลป่าน..พีชไปไม่ได้แล้วนะที่บ้านเอารถไปใช้อะ”
     
     
     
    กดวางสายก่อนจะก้มมองจากหน้าต่างชั้นสองเห็นเบญหยิบแอร์พอดขึ้นมาใส่หูตรงเงาไม้ข้างบ้านมันยืนรออยู่อย่างนั้นจนวินมอเตอร์ไซมาจอดเทียบ
     
     
    โทษทีพี่”
    แบงค์สีแดงถูกยีดใส่มือพี่วิน พีชดึงแขนเบญไว้ “เดี๋ยวผมไปส่งเพื่อนเอง อันนี้ค่าเสียเวลา”
     
    อะไรของมึงวะ”
     
    ป่านไม่ได้ไปเรียนวันนี้”
     
    เบญเดินกลับเข้ามาในรั้วบ้าน ถอดแอร์พอด ถอนหายใจเหนื่อยหน่าย
    บางครั้งพีชก็ทำอะไรไม่ค่อยคิด
     
    กูไปส่ง”
     
    ว่าจบก็ยัดเพื่อนเข้ารถ งุ่นง่านกับการคาดเข็มขัดอยูพักใหญ่ก่อนรถจะออกตัวเบญเอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อยืด พีชหันมามองสถานการณ์เดดแอร์กำลังเริ่มขึ้น แล้วมันจะเดินต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่มีใครปริปาก
     
    กูจะไปบ้านพี่จ๊าบ”
     
    ..ไม่ได้ดีขึ้นเลย
     
    พีชเผลอกำกุญแจรถแน่น และแน่นอนว่าหนีไม่พ้นสายตาเบญจามิน
     
    มึงตลกหรอ”มันว่าก่อนจะทิ้งตัวกับเบาะ “ขอร้องเหอะว่ะ มึงก็รู้ มันมีเมียแล้ว”
    มึงก็มีแล้ว”
    มันไม่เหมือนกันไงเบญ”
    ไม่เหมือนยังไง”
    มึงก็รู้ว่าแม่งไม่ได้บริสุทธิ์ใจอะ”

    พีช”เบญถอนหายใจอีกหน รบเร้าผ่านสายตาให้อีกคนทบทวนคำพูดตัวเองอีกครั้ง “มึงก็ไม่ได้บริสุทธิ์ใจกับกูไม่ใช่หรอวะ”
     
    จะไปต่างอะไร
    ไม่ว่าใครก็เหมือนกันทั้งหมด 
     
    เสียงอากาศคุยกันดังแผ่วเป็นคำตอบ ความจริงบีบคั้นให้ต้องนิ่งเงียบไม่มีคำตอบผ่านปล่องเสียง แรงกระชากออกตัวของรถทดแทนอารมณ์ร้าย 
    ปลายทางไม่ใช่จุดหมาย
    ทุกคนก็เอาแต่ใจแบบนี้แหละ
    ไม่มีใครสนใจความต้องการของเบญหรอก
     
    จะไปต่างอะไร
     
    ไม่ว่าใครก็เหมือนกันทั้งหมด
     




    1/2

     
     
     
     
     
     
     
     
     



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in