Read & Review: วิชาเดินทางหลังเลิกเรียน
Writer: พลอยไพลิน ตั้งประภาพร
Publisher: BUNBOOKS
.
.
“คุณต้องเชื่อและภูมิใจในตัวเอง สิ่งที่คุณควรทำในตอนนี้คือ be proud of yourself”
.
.
‘วิชาเดินทางหลังเลิกเรียน’ คือเรื่องราวของพลอยบัณฑิตหน้าใหม่ที่กำลังลังเลเส้นทางต่อจากนี้ของตนระหว่างเส้นทางที่ตัวเองรักแต่อีกใจก็กลัวที่จะนำสิ่งที่ตัวเองรักมาเป็นงานเพราะกลัวจะเบื่อไปกับอีกเส้นทางคือทางซึ่งเต็มไปด้วยโอกาส (รวมถึงรายได้) มากมายรอแค่ให้พลอยตัดสินใจเดินไป ความลังเลนี้ไปจบด้วยการเลือกที่จะเรียนต่อเพราะดูเป็นทางเลือกที่พลอยคิดว่าปลอดภัยที่สุด จนกระทั่งพลอยได้ปรึกษาเรื่องนี้กับผู้ใหญ่ที่เธอเคารพท่านหนึ่งและได้คำตอบ (ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคำพูดที่เราชอบมากก) กลับมาว่า “ตั้งแต่คุณเริ่มเข้าโรงเรียน คุณเรียนต่อเนื่องมาตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย คุณได้ความรู้จากการเรียนเหล่านั้น แต่คุณเคยหยุดใช้เวลากับการเรียน แล้วหันมามองดูสิ่งต่างๆรอบตัวอย่างที่มันเป็นไหมครับ ที่ไม่ใช่แค่รู้หรือเข้าใจ แต่เป็นระดับที่รู้สึกกับมันอย่างจริงจัง สรุปคือการเรียนต่อไม่ใช่เรื่องผิด เด็กรุ่นคุณก็ทำกันเป็นเรื่องปกติมันไม่ผิด ไม่เสียเวลา และยังมีประโยชน์อย่างมากถ้าคุณจะปล่อยให้โลกนี้ได้มีโอกาสสอนคุณบ้าง ซึ่งวิธีเดียวที่จะเรียนรู้จากโลกนี้ได้ก็คือ ออกมาจากหห้องเรียนแล้วให้เวลากับการอยู่ในโลกจริงๆ ใบนี้ให้มากขึ้น” สิ่งนี้เองจึงกลายเป็นที่มาของการเดินทางด้วยตัวคนเดียวกับ 8 ประเทศ 37 วัน ผ่านต่างสถานที่และบทสนทนาจากคนแปลกหน้ามากมายเพื่อหาคำตอบของเส้นทางต่อไปในชีวิตต่อจากนี้
.
ต้องขอเกริ่นก่อนว่าตอนที่เราซื้อหนังสือเล่มนี้เราไม่รู้ว่าคุณพลอยเป็นดาราหรือทำเพจ ‘พลอยเรียนจบแล้วทำไรต่อ’ เราซื้อตั้งแต่ปีที่แล้วเพื่อตั้งใจจะมาอ่านตอนที่ตัวเราเองเรียนจบ และหลังเราอ่านจบเราพูดได้เต็มปากเลยว่าไม่ผิดหวังเลยจริงๆที่รอมาอ่านตอนเรียนจบ ดังนั้นเราแนะนำหนังสือเล่มนี้มากๆกับเพื่อนๆว่าบัณฑิตทุกคนหรือคนที่กำลังลังเลกับทางเลือกในชีวิตโดยเฉพาะเมื่อต้องเลือกระหว่างงานที่รักกับงานที่เงินดีหรือเหตุผลอื่นๆ ส่วนเหตุผลน่ะหรอ อ่านได้ที่ย่อหน้าถัดไปเลยย
.
สำหรับเราแล้วสิ่งที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ไม่เหมือนหนังสือบันทึกกประสบการณ์การเดินทางเล่มอื่นคงจะเป็นบทสนทนากับคนแปลกหน้าระหว่างทางของคุณพลอย เพราะแต่ละคนมาจากคนละประเทศ คนละวัฒนธรรม และมีประสบการณ์ที่ต่างกันทำให้การอ่านหนังสือเล่มนี้เหมือนได้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่างกลับไปทั้งจากคนแปลกหน้าที่คุณพลอยได้เจอและจากตัวคุณพลอยเอง เราคิดว่าอาจจะเพราะคุณพลอยมีจุดประสงค์ในการเดินทางที่ชัดเจนด้วยละมั้งแทบทุกบทสนทนาที่เกิดขึ้นในหนังสือเล่มนี้เลยได้ข้อคิดดีๆกลับมาเพียบบนอกจากข้อคิดที่ได้เล่มอีกสิ่งที่ได้แน่นอนคือความตลก! กับความเปิ่นของคุณพลอยที่ชวนให้อมยิ้มและขำไปตามๆกัน นอกจากนี้ต้องบอกว่าเลยว่ารูปจากการเดินทางครั้งนี้คือสวยมากก เราใช้เวลาดูรูปแต่ละรูปนานประหนึ่งอ่าน photobook 555 และก็เราชอบโปรเจคถ่ายรูปโพลารอยด์ให้ครบ 199 ใบ ของคุณพลอยมาก ขอแอบใบ้ว่าใครชอบการถ่ายรูปโพลารอยด์เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำพออ่านถึงหน้าสุดท้ายต้องมีหลุดยิ้มกว้างๆกันแน่นอน
.
อีกสิ่งที่เราได้เห็นจากหนังสือเล่มนี้คือการเดินทางจะออกมาอารมณ์ไหนนั้น ผู้ร่วมทางที่เจอคือตัวแปรสำคัญมากๆเพราะอย่างที่ได้บอกไป การเดินทางในหนังสือเล่มนี้คุณพลอยได้เจอคนมากหน้าหลายตามาก แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะให้ความทรงจำดีๆกลับมาอย่างเช่นคุณพลอยที่ได้เจอตั้งแต่หนุ่มแปลกหน้าชาวจีนที่นั่งแคะขี้มูกแล้วดีดใส่คุณพลอยตลอดการนั่งรถเที่ยวชมเกาะโอลคอน ประเทศรัสเซียไปจนถึงคุณป้ารัสเซียที่ช่วยคุณพลอยในวันแดงเดือดขณะอยู่บนเส้นทางรถไฟทรานส์-มองโกเลีย ทำให้เราลุ้นไปตลอดการอ่านว่าคนแปลกหน้าคนต่อไปที่คุณพลอยจะได้เจอเป็นยังไงบ้าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพราะคนแปลกหน้ามากมายเหล่านี้ที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางของคุณพลอยคือเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งในหนังสือเล่มนี้
.
[ :x เนื้อหาต่อจากนี้มีสปอยล์นะครับ สามารถข้ามไปอ่านย่อหน้าถัดไปได้เลย x: ]
อย่างที่รู้กันว่าตลอดการเดินทางในหนังสือเล่มนี้จะเป็นการเดินทางเพื่อหาคำตอบของคุณพลอยว่าควรเลือกเส้นทางไหนดีระหว่างเส้นทางงานแสดงที่ตัวเองไม่ได้รักขนาดนั้นแต่ได้รับโอกาสที่น้อยคนจะได้และค่าตอบแทนก็ดีเช่นกัน หรือจะเลือกทางไปทำงานที่ตัวเองชอบนั้นคือการท่องเที่ยวและถ่ายรูป แต่อย่างไปเที่ยวทริปนี้คุณพลอยก็ใช้เงินที่ได้จากการแสดงมาเช่นกัน สุดท้ายแล้วคำตอบที่คุณพลอยได้ก็คือไม่มีคำตอบ เพราะไม่มีใครสามารถการันตีว่าคนที่ได้ทำงานที่ชอบจะมีความสุขตลอด และถ้าทำงานที่ไม่ชอบก็ใช่ว่าจะไม่มีความสุข เช่นเดียวกับงานแสดงที่คุณพลอยก็ไม่ได้เกลียดก็ทำไปได้เรื่อยๆ และยังสามารถนำผลตอบแทนที่ได้นี้มาต่อยอดในสื่งที่ชอบเช่นกัน เพราะปัจจัยในการมีความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ฉะนั้นแล้วเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและทำสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันให้ดีที่สุด ถ้าระหว่างทางเจอสิ่งอื่นที่ชอบอีกก็ออกมาทำมัน เพราะสำหรับสิ่งที่ชอบต่อให้ไม่ได้ทำเป็นอาชีพ สุดท้ายแล้วเราก็จะหาทางทำมันออกทางใดทางหนึ่งอยู่ดีนั้นแหละ
.
จริงๆแล้วที่เรารู้สึกชอบและอินกับหนังสือเล่มนี้มากๆจนยกให้เป็นหนึ่งในหนังสือบันทึกประสบการณ์การเดินทางที่ชอบที่สุดเล่มหนึ่งเลย อาจจะเป็นเพราะเราอยู่ในสถานะเดียวกับคุณพลอยตอนที่เริ่มออกเดินทาง เราไม่ได้รู้สึกลังเลกับเส้นทางต่อจากนี้ของเราแต่ก็ไม่ได้รู้สึกมั่นใจขนาดนั้น รวมถึงความรู้สึกที่โหวงๆ (ที่เชื่อว่าใครที่เรียนจบแล้วก็ต้องมีกันบ้างแหละ) ของคนที่เรียนติดต่อกันมา 19 ปี แล้วอยู่ๆมันก็จบลง ปิดเทอมที่ปกติจะมีแค่ 3 เดือน กลายเป็นปิดเทอมยาวไม่มีกำหนดเปิดเทอมซะแล้ว การได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็เลยเหมือนได้นั่งฟังเรื่องราวของเพื่อนรุ่นเดียวกันที่กำลังจะเผชิญหน้าสิ่งที่คล้ายๆกันนั้นคือ การเติบโตไปอีกขั้น แต่ต่างตรงที่ว่า ณ ตอนนี้คุณพลอยได้สร้างเส้นทางที่เหมาะกับตัวเองและเดินไปแล้ว แต่เรากำลังยืนอยู่ที่จุดเริ่มของเส้นทางและกำลังจะก้าวขาออกไป และเราเชื่อว่ามีหลายคนอาจกำลังยืนอยู่ที่จุดเริ่มต้นหรือทางแยกแบบเรา เพราะช่วงเวลาในชีวิตที่เป็นทางแยกสำคัญซึ่งหลายๆคนต้องตัดสินใจเลือก ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาที่เราพึ่งเรียนจบ ดังนั้นแล้วใครที่กำลังกังวลกับทางเลือกของตัวเองหรืออยากได้กำลังใจดีๆ เราหวังและเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยได้นะครับ แล้วก็อย่าลืมที่จะเชื่อและภูมิใจในตัวเองกันนะครับ :)
.
.
ฝากติดตามร้านหนังสือมือสองที่ไม่ได้มีแค่ขายหนังสือแต่ยังมี content ต่างๆในโลกหนังสือที่ @feelandread.store (ทั้ง Instagram และ Facebook) ด้วยนะครับผม
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in