เริ่มแรกเราส่วนตัวเราได้ยินชื่อฮยอกโอมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้จักวงฮยอกโอซะทีเดียว แต่ก็ฟังเพลง k-pop ตามประสาคนเป็นติ่งบ้าง เริ่มจากเมื่อปลายปีที่แล้วได้ฟังเพลง home is far away - tablo ft. oh ohyuk ของเฮียทาโบล epik high รู้สึกว่าเสียงคนนี้เพราะดีนะ จนเพลง can't love you anymore - iu ft. oh hyuk ก็ได้รันมา ฟังครั้งเพลงก็ได้เพิ่มลง playlist ทันที จนฟังบ่อยเข้าก็เลยลองเสริชยูทูปดู live ของเพลงนี้ก็เริ่มเห็นหน้าค่าตาแล้ว ดูเป็นคนนิ่งๆที่ร้องเพลงเพราะดี จนหลังจากนั้น บางทีที่เราฟังเพลงในยูทูป เพลง love ya ของวงฮยอกโอและ isn't she lovely ที่โอฮยอกเคย cover ไว้ก็เริ่มรันมาบ่อยขึ้น จนเราก็เริ่มสนใจในนักร้องคนนี้

เริ่มแรกได้ทำการเสริชใน spotify ว่า ohhyuk ก่อน ทำให้เราเจอ artist ทั้งในชื่อ ohhyuk และ hyukoh ตอนนั้นก็งง ทั้งสอง artist นี้ก็เป็นเสียงร้องของโอฮยอกทั้งคู่นี่นา เลยเสริชกูเกิ้ลก็ถึงกับอ๋อทันที! เป็นนักร้องที่ชื่อโอฮยอกที่อยู่วงฮยอกโอกับเพื่อนๆอีกสามคนนี่เอง เลยได้ฟังเพลงของวงนี้มาเรื่อยๆ เราชอบเสียงโอฮยอกในหลายๆเพลงที่ร้องได้ในหลายๆแบบ และดนตรีของวงนี้ที่เหมือนจะมีทุกอารมณ์ให้เราได้เลือกฟังตาม mood ของเราได้ในแต่ละวัน

จนในที่สุดเราก็ได้เพิ่มเพลงของศิลปินที่ชื่อ HYUKOH ลงไปใน playlist ทีละเพลง สองเพลง สามเพลง จนรู้ตัวอีกที ก็จะครบทุกเพลงในทั้งสี่อัลบั้มแล้วนะเนี่ย! แล้วก็ได้ทำความรู้จักกับวงนี้มากขึ้น ตามไปดูคลิปตอนมาไทยเมื่อปีที่แล้ว ส่องแฮชแท็กในทวิตเตอร์เห็นคนเรียกหลวงพี่ น่าเอ็นดูจัง555555 แล้วก็ ตามไปดู live ในยูทูป ส่องไอจี หรือดูตามโซเชี่ยลต่างๆ เออ ก็ตลกดีนะ ทั้งสี่คนเลย55555555 อีกอย่างเราชอบในความเป็น art เป็น aesthetic ของวงนี้เหมือนกัน 

 

จนเมื่อเพจ seen scene spcace ได้ประกาศออกมาแล้วก็ไม่รอช้า เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมตังไว้ให้พร้อม วันกดบัตรก็ได้ตื่นมาเข้าคิวรอกดบัตรแต่เช้า ไปฟังเพลงวงที่เรารักกัน!

________________________________________________

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 วันศุกร์ที่ขึ้นชื่อว่ารถติดมหาโหดนั้น เราก็ได้มาถึงสถานที่จัดคอนตั้งแต่บ่ายสี่โมงได้ ไปแลกริชแบนแล้วไปนั่งรอในแถว คนเยอะพอสมควร เพราะบัตรก็ได้ขายไปจนเกือบหมดเลย ได้มีการปล่อยให้ไปซื้อ merchandises จนเมื่อคนเยอะขึ้นพื้นที่นั่งรอก็คงจะไม่พอ ผู้จัดเลยได้ปล่อยให้ไปนั่งรอภายในฮอลก่อนเวลาประตูเปิดจริงครึ่งชั่วโมง ตอนที่เราเข้าไป บางคนถึงแม้จะได้เข้าก่อนแต่ก็ไปจับจองที่นั่งข้างหลัง ไม่เบียดใครพร้อมกับเบียร์ในมือคนละกระป๋องบ้าง เออก็ดีเหมือนกันแฮะ

จนเมื่อเวลา สองทุ่ม ตรงเป๊ะ เหล่าสมาชิกวงฮยอกโอทั้งสี่คนก็เดินออกมาจากด้านหลังเวที เดินไปจับเครื่องดนตรีคู่ใจของแต่ละคน ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรให้ยืดเยื้อ เล่นเปิดด้วยเพลงสั้นๆอย่าง skyworld โอฮยอกได้พาทุกคนปรบมือแปะๆไปพร้อมกัน สารภาพว่าตอนนั้นเราตั้งหลักไม่ถูกเลย หะ อะไรนะ เริ่มแล้วเหรอ เพลงแรกจบแล้ว อ๋อ จนเพลงที่สองเริ่มมีสติมากขึ้น โอเค คอนเริ่มแล้วนะ55555555555555

เราเอ็นจอยมากกกกกกกกกกกกกกกก ฮยอกพูดน้อยแต่ใส่ยับเลย หลังจากช่วงทอล์ครอบแรกแล้วจัดมาประมาณ 18 เพลงรวดทีเดียว กะเอาให้ตายกันไปข้าง จัดจ้านย่านลาดพร้ามากตอนนั้น เอาให้จุกกันไปเลย เพลงที่เล่นในช่วงแรกๆอย่าเพลง wi ing wi ing ที่ฮยอกปล่อยให้ทุกคนช่วยกันร้องเสียงหวี่ๆของแมลง , tell me  tell me please don't tell ก็ดีมาก หรือจะช่วงเพลง wan li เนื้อเพลงภาษาจีนที่มีเพียงสี่บรรทัด กับสเตจสีแดงร้อนเป็นไฟ ผู้คนต่างพากันตะโกนร้อง เอ้ เอ้ เอ้ พร้อมกับโยกหัวไปตามจังหวะเพลง โคตรสุดยอดเลย หรือจะกับเพลง gang gang shciele ที่เป็นเพลงที่เรารักมากกกก มาจากฮยอกเห็นความสัมพันธ์ของเกาหลีเหนือและใต้ จนมาเป็นเพลงนี้ เราชอบในการเล่นคำของฮยอกที่เขียนเนื้อเพลงเป็นภาษาอังกฤษทั้งเพลง แต่มีภาษาเกาหลีโผล่มาอยู่สองคำ แต่เป็นคำที่มีความหมายเดียวกันว่า 'ขอโทษ' กับเพลง love ya ที่ทุกคนก็พร้อมในกันร้องในท่อนฮุกว่า I love ya ก็ดีไม่แพ้กัน หรือกับเพลง goodbye seoul กับท่อน i'll miss you ที่ฮยอกได้เคาะไมค์เรียกเสียงกรี๊ดได้ดีเลย หรือแม้กับเพลง ohio ที่หลายๆคนตั้งตารอคอยจากปีที่แล้วที่ฮยอกได้สัญญาไว้ว่าจะกลับมาร้องให้ฟังในปีนี้ ก็ดีไม่แพ้กัน และอีกช่วงที่เราประทับใจเป็นช่วงที่สายกีตาร์ฮยอกขาดสองเส้น แต่ก็เล่นต่อจนช่วงสุดท้ายของเพลงให้ฮยอนเจเล่นคลอไปก่อน ฮยอก ปากคาบปิ๊กกีตาร์ มือเปลี่ยนสายไปเป็นกีตาร์อีกตัวจนเมื่อเปลี่ยนเสร็จหันไปส่งสัญญาณให้อินวูมือกลองขึ้นดนตรีอีกครั้ง สุดแสนจะเท่ห์เลย! 

และจนเมื่อทุกคนได้กลับขึ้นมาเล่นช่วง encore อีกครั้งกับเพลง gondry ที่ทำดนตรีกันใหม่ยาวถึงสิบกว่านาที เราตั้งใจมาฟังเพลงนี้เหมือนกันเพราะไปดู live เพลงนี้ของประเทศอื่นมาก่อนแล้ว แฮะ รู้สึกว่าโคตรดีเลย ช่วง5-6นาทีสุดท้ายที่เป็นซาวด์ดนตรีเพียวๆ (พร้อมกับโอฮยอกที่ดื่มเบียร์แบบคนคูลๆ) เรารู้สึกว่า เออ นี่แหละ ดนตรีสดที่เราต้องการ ได้มาฟังอะไรที่อยากฟัง มันรู้สึกดีมากเลย จบชั่วโมงครึ่งด้วยความเต็มอิ่ม ตอนเดินออกจากฮอล เราได้แต่หันไปพูดกับเพื่อนว่า 'โคตรดี โคตรดีเลย!' เรามีความสุขมากกกกกกกกกกก ถึงแม้ซาวน์อาจจะไม่ดีเท่าที่ควรจนโอฮยอกก็ได้เอ่ยปากขอโทษขอโพยกันไป อาจเพราะผู้จัดไม่เคยจัดสเกลงานใหญ่ขนาดนี้ แต่สำหรับเราที่ได้ไปฟังฮยอกโอครั้งแรก ก็แฮปปี้สุดๆแล้วแหละ ทุกคนเอ็นจอยมาก บางคนถือเบียร์คนละป๋องโยกไปตามดนตรี ไม่ค่อยยกโทรศัพท์ขึ้นมากันเท่าไหร่  ทุกคนมาฟังดนตรีกันจริงๆ ตะโกนร้องเพลงไปด้วยกัน <3

และด้วยความที่เราไม่รีบกลับเท่าไหร่ ฮ่า ก็เลยได้ยืนส่งทั้งสี่คนออกจากเซนลาด อินวูช่วยทีมงานแบกกล่องเครื่องดนตรีออกมาคนแรก เดินยิ้มออกมาจากลิฟท์เลย ยิ้มเก่งมาก ดูเป็นคนอารมณ์ดีมากๆ ตามด้วยดงกอนเดินนิ่งๆออกมา แต่พอขึ้นรถตู้เห็นอินวูโบกมือให้ทุกคน ตัวเองก็โบกมือด้วยพร้อมกับเอาแขนไปหยอกรัดคออินวู 5555555555555 และตามด้วยโอฮยอกและฮยอนเจเดินออกมาจากลิฟท์อีกรอบ เราคิดว่าฮยอกอาจจะเฟลเรื่อง sound หน่อยๆ อาจจะไม่ค่อบสบอารมณ์เท่าไหร่ แต่ไม่เลย เดินยิ้มพร้อมโค้งให้ทุกคนตั้งแต่เดินออกมาจากลิฟท์ พร้อมกับชูสองนิ้ว ขึ้นรถตู้ไปแล้วโดนทีมงานที่กำลังขนของบังอยู่ก็พยายาม หามุมซ้ายขวา ยุกยิกๆ พร้อมกับชูสองนิ้วให้เหมือนเดิม น่ารักมากกกก แล้วฮยอนเจก็ขึ้นรถตู้ตามไป น่ารักกันมากๆ ทุกคนดูเป็นธรรมชาติ ยิ้ม หัวเราะกันได้ง่ายๆเลย

กลับมาถึงห้องด้วยความรู้สึกดีมาก อิ่มเอมหัวใจเป็นที่สุด! จนเราคิดว่าถ้าปีนี้จัดสองวันแบบปีที่แล้วเราก็คงห้ามตัวเองให้ไปดูแค่วันเดียวไม่ได้ มีสองวันก็คงต้องได้ไปทั้งสองวันแน่ๆเลยแหละ!

แล้วจนถึงตอนนี้เราก็ยังฟังเพลงของฮยอกโอทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ไม่ได้ฟังเลยจริงๆ ขอบคุณมากๆที่ทำเพลงดีๆออกมาให้ได้ฟังนะคะ เหมือนที่เคยได้อ่านทวีตนึงว่า เพลงของวงฮยอกโอเป็นเพลงที่สามารถผลักไสเราได้ แต่ก็สามารถโอบกอดเราได้ในเวลาเดียวกัน อะไรประมาณนั้นเลย เวลาเหน่ื่อยหรือเบื่ออะไรก็ตาม แค่เราเสริชยูทูปว่า HYUKOH ไม่ว่าจะเป็นคลิปดนตรีหรือคลิปอื่นๆก็ตาม ฮีลเราได้มากจริงๆ สุดท้ายนี้อยากบอกว่า อย่าเลิกทำเพลงนะ! (เราจะขาดใจ) อยู่ทำเพลงด้วยกันให้เราได้ฟังไปนานๆเลย♡