"ประชาธิปไตย คือความต้องการ หมายความว่า มันไม่ใช่สิ่งที่อยู่ๆจะได้มา แต่มันเป็นจุดหมายที่เราต้องขวนขวายถึงจะได้รับ (Fahrenheit 11/9)"
ขณะที่ผมกำลังยืนอยู่บนรถไฟฟ้าที่คนแน่นซะยิ่งกว่าปลากระป๋องแม้ว่ามันจะเป็นเวลากว่า 4 ทุ่มแล้ว ผมไถไทม์ไลน์อัพเดทข่าวสารไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอเข้ากับข่าวอันหนึ่ง "กก.ยุทธศาสตร์ชาติ ไม่ต้องโชว์บัญชีทรัพย์สิน หลังจ่อลาออกเพียบ" ผมอ่านหัวข้อข่าวซ้ำอีกครั้งและคิดในใจ ไอเxี้ย เดี้ยวนี้ข่าวปลอมมันเยอะจริงๆ คนอะไรจะหน้าด้านหน้าทนขนาดแหกกฎที่พวกตัวเองเขียนได้วะ... ใช่ครับ... พวกนี้แหละครับ...
ช่วงนี้ผมได้มีโอกาสได้ดูหนังสารคดีเกี่ยวกับความ Surreal ของประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา นั่นคือ "13TH" และ "Fahrenheit 11/9" ซึ่งทำให้เราเห็นอีกมุมหนึ่งของประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบของเสรีภาพและประชาธิปไตยของโลก
13TH เป็นสารคดีเกี่ยวกับมาตราที่ 13 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐที่ให้อิสรภาพกับประชาชนชาวสหรัฐ หลังจากสงครามการเมืองสหรัฐที่รบกันระหว่างฝ่ายเหนือที่สนับสนุนการเลิกทาสและฝ่ายใต้ที่ต้องพึ่งพาแรงงานทาส สหรัฐได้ออกกฎหมายที่ให้อิสรภาพแต่ประชาชนชาวสหรัฐทุกคน แต่มีข้อยกเว้นคือเหล่านักโทษ (Criminal) ทำให้กลุ่มอำนาจเก่าทางฝั่งใต้เห็นช่องทางในการใช้แรงงานทาสอีกครั้ง แม้ว่าชาวผิวดำจะได้รับอิสรภาพแต่กลับต้องเผชิญกับการสร้างข่าวและการใส่ร้ายป้ายสีว่า เป็นอาชญากรรม เป็นนักข่มขืน จนภาพจำของคนผิวสีกลายเป็นที่น่ารังเกียจและถูกคุกคามอย่างหนัก ถูกจับไปเป็นนักโทษผ่านทั้งการใส่ร้าย การตัดสินที่ไม่เป็นธรรม และถูกใช้แรงงานอีกครั้ง
13TH มิได้เล่าเพียงแค่จุดกำเนิดของความขัดแย้งทางเชื้อชาติของสหรัฐแต่เล่าถึงพัฒนาการของการกดขี่ทางเชื้อชาติได้อย่างน่าขนลุก ทั้งนโยบาย War on Drug, Three Strike Out, ระบบการออกกฎหมาย การเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มนายทุน จนไปถึงความท้าทายใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับระบบยุติธรรมในสหรัฐ
Fahrenheit 11/9 สารคดีเรื่องล่าสุดของผู้กำกับที่เผ็ชและเด็ดที่สุดในดวงใจ Michael Moore จากที่เค้าได้ทำนายไว้ใน One Man Show : Michael Moore in TrumpLand ว่านายทรัมป์คือตัวเกร็งประธานาธิบดีของสหรัฐ และมันก็เกิดขึ้นจริง... วันที่ 11 เดือนตุลาคม วันเลือกตั้งประธานาธิบดี
ผลของการเลือกตั้งคือนาย Donald J. Trump เป็นประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐ...
'Hopeless, Ignorance and Silence. Those all are what they want'
หนังสารคดีเรื่องนี้ได้เล่าเกี่ยวกับการเมืองสหรัฐที่เกิดความผิดเพี้ยนขั้นรุนแรง ร่ายตั้งแต่ระบบ Primary Vote ที่ทำให้คนที่ได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่ของประเทศไม่ได้เป็นประธานาธิบดี ความเลยเถิดจากการสร้างกระแสสู่การได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์ จนไปถึงการคอร์รัปชั่นทั้งทางอำนาจและทางนโยบายของผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ค่าแรงของบุคลากรทางการศึกษาที่ต่ำยิ่งกว่าค่าแรงขั้นต่ำ และกฎหมายพกพาอาวุธปืนสุดเรื่องลือ
ตัวหนังได้ผสมผสานเรื่องราวความผิดเพี้ยนของการเมืองสหรัฐ อันเป็นเสมือนกองดินปืนที่พร้อมจะปะทุ การรอดตัวของเหล่านักการเมืองที่กอบโกยผลประโยชน์จากประชาชน สร้างความอัดอั้นให้กับประชาชน และกลายเป็นแรงผลักให้เหล่าผู้ไม่พอใจออกมาตามท้องถนน ตัวหนังเป็นแรงกระแทกชั้นดีที่จะสร้างแรงใจให้กับผู้ที่ถูกกดขี่ และ Moore ไม่ได้แอบซ่อนความต้องการที่จะปลุกทุกคนลุกขึ้นมา และสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น เพราะโลกใบนี้ไม่ใช่โลกของคนรุ่นเก่าอย่างเขาอีกต่อไป แต่เป็นโลกที่คนรุ่นใหม่ที่ต้องทนอยู่กับความผิดพลาดในอดีต
ถ้ามีโอกาสได้ดูสารคดีสองเรื่องนี้ แล้วย้อนกลับมามองการเมืองไทยอีกครั้ง แท้จริงแล้วเราก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นะครับ แค่ยังไม่มีผู้กำกับอย่าง Moore ซักคนเท่านั้นเอง...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in