……….
ห้องเสื้อพิชชา...
รถชะลอก่อนจะค่อยๆ หยุดจอดที่หน้าร้านของพิชชา พิชชาปลดเข็มขัดออกและหันหน้าไปพูดกับเมธาวิน แต่เมธาวินจึงเอ่ยปากขึ้นมาเสียก่อน
“ผมขอเข้าไปดื่มน้ำสักหน่อยได้ไหมครับ”
“ได้สิค่ะ ฉันกำลังจะชวนคุณอยู่พอดี งั้นเชิญค่ะ”
เมธาวินกับพืชชาก้าวลงจากรถและเดินตรงเข้าไปข้างในร้านพร้อมกัน
“คุณวินเชิญนั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้”
“ครับ”
พิชชาเดินเข้าไปในห้องครัว เมธาวินก็นั่งลงบนโซฟาและมองไปทั่วๆ จนเห็นสูทผู้ชายที่ใส่อยู่กับหุ่นตั้งไว้ในห้องตัดเย็บระหว่างนั้นพิชชาก็เดินมาพร้อมแก้วน้ำที่เธอถืออยู่ ยกมาวางไว้บนโต๊ะแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้ามกับเขา
“น้ำค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
เมธาวินยกแก้วน้ำดื่มพอสดชื่นเขาก็วางแก้วน้ำลงที่โต๊ะเบาๆ แล้วเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ผมเห็นสูทผู้ชายตั้งอยู่ในห้อง คุณตัดเสื้อผ้าของผู้ชายด้วยเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ แต่ฉันไม่ค่อยได้ทำ เพราะลูกค้าที่มาใช้บริการจะเป็นผู้หญิงซะมากกว่า ที่คุณเห็นในห้องฉันตัดให้ว่าที่เจ้าบ่าวของฉันนะคะ”
เมธาวินได้ยินที่พิชชาบอกหัวใจของเขาแทบจะหลอมละลายด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียวของเธอ
“แล้วเจ้าบ่าวของคุณเป็นชื่ออะไรเหรอครับ”
“ทิวากร เหมนันต์ค่ะ”
“นามสกุลนี้ผมเคยได้ยินนะครับ”
เมธาวินยิ้มให้พิชชา แล้วสักพักยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูและขอตัวกลับก่อน
“ผมลืมไปว่ามีธุระต่อ ถ้างั้นขอตัวกลับก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
เมธาวินลุกขึ้นและยืนมองหน้าพิชชาสักพัก สายตาอาลัยอาวรณ์ของเขาค้างอยู่บนใบหน้าเธอชั่วครู่ แล้วค่อยหันหลังเดินจากไป
…
เมธาวินก้าวขึ้นมานั่งอยู่บนรถแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาจากสูท กดหาเบอร์ธีร์ (บอดี้การ์ด) กดโทรออกแล้วยกโทรศัพท์มาแนบหู
ตู๊ด...ตู๊ด...*ฮัลโหล ธีร์...ฉันอยากให้นายไปหาข้อมูลของ ทิวากร เหมนันต์ ด่วน*
*ได้ครับบอส*
เมธาวินวางสายไปและหันมามองพิชชาที่ยืนอยู่ในร้านพลางเอ่ยพูด
“ผมจะเผยธาตุแท้ของผู้ชายคนนี้ให้คุณรู้ ว่าเขาไม่คู่ควรกับคุณ”
ในขณะเดียวกันก็มีเสียงข้อความดังขึ้น เมธาวินยกโทรศัพท์ขึ้นมาและกดข้อความเปิดอ่าน [ฉันมาถึงแล้ว…คิมหันต์] อ่านข้อความนี้เมธาวินก็ขับรถออกไปทันที
…
บาร์ในโรงแรม...
หลังจากที่ไปรับเพื่อนสนิทมาจากสนามบิน เมธาวินก็พาคิมหันต์มานั่งดื่มที่บาร์เหล้าของโรงแรม
“คิม ช่วงนี้โรงแรมที่สงขลาเป็นอย่างไรบ้าง”
“ก็ดี เฮ้อ!” คิมหันต์ถอนหายใจแล้วพิงพนักเก้าอี้
“แกเป็นไร” เมธาวินลอบสังเกตด้วยความสงสัย
“คืออย่างนี้ ปุยฝ้ายน่ะ…เธอกลับมาแล้ว และอีกไม่กี่วันเขาจะมาหาแก”
เมธาวินมองหน้าคิมหันต์อย่างละเหี่ยใจและนึกย้อนกลับไปตอนที่เขาเรียนอยู่ที่อเมริกา
[ในวันที่ทั้งสองคนเรียนจบ เมธาวินกะจะมาฉลองวันเรียนจบกับปุยฝ้ายก่อนที่จะบินกลับเมืองไทย
~ก๊อกก๊อกก๊อก~ เมธาวินเคาะประตูห้องของปุยฝ้าย แต่ก็ไม่เปิดสักที เลยล้วงกุญแจสำรองที่เธอให้เอาไว้มาไขแล้วเข้ามาในห้องและวางของที่จะนำมาทำอาหารเพื่อฉลองกัน พร้อมเรียกปุยฝ้ายตั้งหลายครั้งไม่ตอบก็เลยเดินมาดูที่ห้องนอน พอเปิดประตูห้องนอนเข้าไปก็พบว่าเธอกำลังนอนกอดอยู่กับชายหนุ่มตาน้ำข้าว
เธอได้ยินเสียงเปิดประตูก็ตื่นขึ้นมาทันที แล้วเห็นเมธาวินยืนอยู่ปลายเตียงเธอตกใจและทำอะไรไม่ถูก เมธาวินเลยเดินออกมาจากห้องนอน ปุยฝ้ายหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่มานุ้งกระโจมอกและเดินตามมาเพื่อจะอธิบายให้เมธาวินเข้าใจ
“วิน ฟังเราก่อนนะ” เธอกอดรัดเอวจากด้านหลังแล้วเอาหน้าซบหลังเขา
“มันจบแล้วฝ้าย” เขาแกะมือที่เธอออกแล้วเดินจากไป]
เมธาวินเอื้อมมือไปยกแก้วเหล้ามาถือเล่นก่อนจะกระดกหมดแก้ว
“ฉันกับเขาจบไปตั้งนานแล้ว และจะไม่มีทางกลับไปเพราะฉันเป็นคนเจ็บแล้วจำ”
“ดีแล้วเพื่อน”
คิมหันต์ยกแก้วเหล้าและยื่นไปกลางวงเพื่อชนแก้วกับเมธาวินแล้วดื่มหมดแก้ว
…
คอนโดมิเนียม…
ทิิวากรกำลังยืนคิดเรื่องในวันนี้ ถ้าพิชชาเห็นเขาอยู่กับซาบีน่ามันต้องเป็นเรื่องแน่ๆ เลยตัดสินใจว่าจะเลิกสานสัมพันธ์กับซาบีน่า เพื่อไม่ให้พิชชาเสียใจในการกระทำของเขา
ซาบีน่าตื่นขึ้นมาก็เห็นทิวากรกำลังยืนอยู่ตรงระเบียงห้อง เธอลุกขึ้นและเรียกทิวากร
“ทิมค่ะ ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะค่ะ”
ทิวากรหมุนตัวเดินกลับเข้ามาในห้องนอนและนั่งลงบนเตียงข้างๆ เธอ
“คือ ! ผมกำลังคิดว่า…เราสองคนไม่ควรเจอกันอีก ผมกลัวว่าพิ้งค์เสียใจ”
“แล้วคุณไม่คิดว่าฉันจะเสียใจบ้างเหรอ” เธอเมินหน้าด้วยความน้อยใจและเสียใจ
ทิวากรเห็นเธอเศร้าใจที่เขาจะขอเลิกก็ทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าซาบีน่าจะชอบเขามากขนาดนี้ เขากระเถิบเข้าไปใกล้แล้วดึงเธอมากอด
…….
นิยายเรื่องนี้สร้างเพื่อความบันเทิง ตัวละคร พฤติกรรมและเหตุการณ์ในนิยาย เป็นเหตุการณ์สมมุติ
ปล. นักเขียนอาจจะเขียนผิดหรือเขียนไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ......แล้วถ้าจะให้มีอรรถรสมากขึ้นก็ต้องอ่านและใช้จินตนาการไปด้วยนะคะคุณผู้อ่าน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in