เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ เติมเต็มขมับตอบให้ใบหน้าสมดุล ปรับหน้าหวานละมุนarticle_beauty
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ เติมเต็มขมับตอบให้ใบหน้าสมดุล ปรับหน้าหวานละมุน
  • ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ปรับหน้าสมดุล หวานละมุน

    ขมับตอบทำให้ใบหน้าดูโทรม แข็ง หรือดูไม่สมดุล การฉีดฟิลเลอร์ขมับจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมที่ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าดูตอบให้กลับมาดูอิ่มฟู อ่อนเยาว์ขึ้นได้ทันที โดยไม่ต้องผ่าตัด ในบทความนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจว่า ฟิลเลอร์ขมับคืออะไร ? เหมาะกับใคร ? และต้องดูแลตัวเองอย่างไรหลังฉีด

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับคืออะไร ? ช่วยให้ใบหน้าสมดุลได้อย่างไร ?

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับ คือ การใช้สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) ฉีดเข้าไปบริเวณขมับที่ตอบหรือยุบตัว เพื่อเติมเต็มพื้นที่ให้เรียบเสมอกัน ปรับรูปหน้าให้ดูสมดุล โดยเฉพาะผู้ที่มีขมับตอบจากอายุที่เพิ่มขึ้น 

    เมื่อบริเวณขมับได้รับการเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ จะช่วยให้แนวโครงหน้าด้านบนรับกับโหนกแก้มและกรอบหน้าโดยรวม ทำให้หน้าดูมีมิติ นุ่มนวล และละมุนขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความแข็งของใบหน้า และทำให้ภาพรวมใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับเหมาะกับใครบ้าง ? เช็กได้ตามนี้

    ผู้ที่เหมาะกับการ ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ได้แก่

    ✓ ผู้ที่มีขมับตอบ ขมับยุบตามวัย ทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส

    ✓ ผู้ที่มีโหนกแก้มเด่นชัดเกินไปจากการที่ขมับเว้า ทำให้หน้าดูแข็งหรือดูดุ

    ✓ ผู้ที่จัดฟันแล้วกล้ามเนื้อขมับไม่ได้ใช้งาน ทำให้เนื้อยุบตัว ขมับดูตอบ

    ✓ ผู้ที่ลดน้ำหนักเร็วหรือออกกำลังกายหนักส่งผลให้ขมับตอบ หน้าดูโทรม

    ✓ ผู้ที่อยากปรับใบหน้าให้สมดุล หวานละมุนขึ้น

    ✓ ผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งขมับ ตามศาสตร์โหงวเฮ้ง เชื่อว่าช่วยเสริมวาสนา การงาน ความรัก

    ทั้งนี้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดทุกครั้ง เพื่อประเมินสภาพใบหน้าอย่างละเอียดและเลือกปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม

    ฟิลเลอร์ขมับอยู่ได้นานแค่ไหน ? ต้องเติมบ่อยไหม ?

    ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ โดยเฉลี่ยจะอยู่ได้นานประมาณ 8-24 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ ปริมาณ CC พฤติกรรมการใช้ชีวิต และระบบเผาผลาญของแต่ละคน ทั้งนี้เพื่อคงผลลัพธ์ควรเติมฟิลเลอร์เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลาย แนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินใบหน้าค่ะ 

    ฉีดฟิลเลอร์ขมับแล้วปวดหัว ควรพบแพทย์หรือไม่ ?

    อาการปวดหัวหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับสามารถพบได้ในบางราย เนื่องจากบริเวณขมับเป็นจุดรวมของเส้นประสาทหลายเส้น และไวต่อความรู้สึก ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปอาจเกิดแรงดันต่อเนื้อเยื่อหรือกล้ามเนื้อในบริเวณนั้น ทำให้รู้สึกตึงหรือปวดได้ในช่วงแรก

    โดยทั่วไปอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1-3 วัน และสามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ หากอาการไม่รุนแรง ไม่จำเป็นต้องพบแพทย์ แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที

    ⦁ ปวดศีรษะมากผิดปกติ

    ⦁ คลื่นไส้ อาเจียน

    ⦁ ปวดตา มองเห็นไม่ชัด

    ⦁ มีผื่นแดงหรือบวมรุนแรงบริเวณฉีด

    หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับควรดูแลตัวเองอย่างไร ?

    หลังการฉีดฟิลเลอร์ขมับ การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และยังช่วยให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวได้ดี ผลลัพธ์อยู่ได้นานยิ่งขึ้น

    คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ

    ⦁ หลีกเลี่ยงการนวด กด หรือจับบริเวณที่ฉีด

    ⦁ นอนหงาย ยกศีรษะสูงในช่วง 3 คืนแรก หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง

    ⦁ ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ ช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้มน้ำและเซ็ตตัวได้ดี

    ⦁ งดออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่มีแรงกระแทก 3-7 วัน

    ⦁ หลีกเลี่ยงการทำหน้า การนวดหน้า เลเซอร์ RF หรือทรีตเมนต์ร้อนทุกชนิด

    ⦁ งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก

    สรุปเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ขมับ หัตถการช่วยหน้าเด็ก

    การฉีดฟิลเลอร์ขมับ เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ปัญหาขมับตอบ ขมับยุบได้อย่างตรงจุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วน อ่อนเยาว์ เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที โดยไม่ต้องผ่าตัด หรือพักฟื้นนาน 

    แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีทีมแพทย์ประสบการณ์สูง ใช้ฟิลเลอร์แท้ มีเทคนิคการฉีดที่แม่นยำ และมีการติดตามผลที่ช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์หลังทำค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in