The Grudge : เรื่องบางอย่างไม่ควรถูกรุกล้ำ - Sanook Review 2020

The Grudge : เรื่องบางอย่างไม่ควรถูกรุกล้ำ
.
นี่อาจเป็นการรีวิวหนังที่เรียบง่ายและจบไวที่สุดเท่าที่แมวดำตัวนี้เคยรีวิว เพราะว่าตัวหนังมีความยาวเพียงแค่ 95 นาที แต่กลับเหมือนเวลานั้นได้ผ่านไปเกือบ 2ชั่วโมง (ถึงกับต้องหยิบนาฬิกามาดูเลยที่เดียว)
.
หลังจากผ่านการ รีเมกมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปี 2004 โดย ผกก.ทาเคชิ ชิมิสุ มาครั้งนี้ ฮอลลีวู้ดได้ปลุกผีคายาโกะ และ ผีโทชิโอะ อีกครั้ง โดยเรื่องราวจะไม่ใช่การรีเมก แต่จะเป็น ช่วงเวลา ระหว่างเรื่องราว ของหนังในปี 2004 ฉะนั้นควรจะเรียกว่า ภาคต่อน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้ว แต่ ...
.
ถ้านี่เป็นภาคต่อ มันก็แทบจะไม่มีความต่อเนื่องหรือเชื่อมต่อกับเนื้อหาในภาคแรกเลยแม้แต่น้อย มีเพียงจุดเชื่อมโยงเล็กๆที่สื่อว่า นี่เป็นเรื่องราวช่วงไหนแค่นั้นเอง
.
การนำมาทำใหม่ของฮอลลีวู้ดมักจะมีผลลัพธ์อยู่ 3 แบบ ถ้าไม่ดีมาก อย่าง The Departed (2006) หรือ Star Trek (2009) ก็กลาง ๆ เหมือน The Ring (2002) ไม่ก็จะแย่ไปเลย Old Boy (2003)
ซึ่งถ้ามองอย่างกว้าง ๆ The Grudge ฉบับนี้ คืออย่างหลังสุด เพราะมันไม่มีอะไรที่เทียบเท่ากับผลงานฉบับก่อน ๆ ได้เลย
จากหนังผีที่มีผีที่หลอน กลับกลายเป็น ผีนรกแตกแบบ Evil Dead แทน (จะว่าไปเรื่องหลังก็อยากให้มีภาคต่อนะ ตั้งหลายปีแล้วเนี่ย)
.
แต่หากเรามองที่แกนหลักของเรื่องราว ก็คือ ความเกรี้ยวกราดของวิญญาณที่ทุกข์ทรมาน ก็อาจทำให้เรามองหนังเรื่องนี้ ดีขึ้นนิดนึง จะเรียกว่าหาข้ออ้างก็ได้ เพราะหากมองแค่สิ่งที่หนังพยายามยึดไว้ หนังก็ทำได้ดี แต่ต่อให้มีเหตุผลมากมาย งานสร้างตัวผีร้ายในหนังก็ไม่อาจนำพาเราไปได้ไกลมากนัก
อาจเพราะ ทั้งการออกแบบของตัวผีร้ายบอกไว้ว่า ประหนึ่งผีอมตะ การออกแบบฉากหลอก ก็เล่นมุกซ้ำไม่ต่างจากหนังผีที่มีให้ดูเกลื่อนตลาด (ใครอยากรู้ว่า ฉากหลอกแบบไหนที่แมวดำชอบ ให้ไปดู "คอนจูริ่งภาคแรก" นั่นไงล่ะครับ)
.
ส่วนที่ดีที่สุดของหนัง คือ งานแสงสี ที่ถือว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตของหนังเรื่องนี้เลยที่เดียว เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยสร้างบรรยากาศความหลอนให้สมจริงได้
.
ทางด้าน ผกก. Nicolas Pesce เคยกำกับหนังสยองขวัญอย่าง Eyes of My Mother (2016) ซึ่งจุดเด่นของหนังเรื่องนั้นคือ ความขาวดำที่ลดทอนความโหดของหนัง กับเรื่องราวชวนหลอน
พอมากำกับหนังเรื่องนี้ ความรู้สึกคือ ถ้าเขากำกับหนังไม่คม ก็ต้องเป็นตัวบทนี่แหล่ะที่เป็นผู้ร้ายตัวจริงของหนัง ที่ทำให้หนังผีสยองขวัญกลายเป็นหนังผีอเมริกันจ๋าไปเลยเสียนี่
.
สรุปโดยรวมแล้ว นี่อาจเป็นหนังที่เหมาะกับการนั่งดูใน Netflix หรือถ้าจะให้มองแง่ดี ก็ชวนคนที่แอบชอบไปดูเผื่อจะมีโมเม้นท์ตกใจในโรงแล้วเอามือของเขามาจับมือเรา ก็น่าจะไหว ….. มั้งนะ
.
.
คะแนนรวม 6/10
.
.
Ad : Cat on the crossroad.

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น