ร่างสูงกำลังนั่งอยู่บนพื้นไม้ ร่างทั้งร่างแข็งทื่อ และนิ่งสนิทราวกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ
ดวงตาของเขาเบิกโพลงมองภาพตรงหน้า พรมผืนเก่าบนพื้นรอบตัวต่างเปื้อนไปด้วยกองเลือด และเศษชิ้นเนื้อ
เขามองไปยังร่างของชายคนหนึ่งที่นอนคว่ำอยู่บนพื้น ศีรษะที่นิ่งสนิทแนบไปกับผืนพรมนั้นบิดเบี้ยวผิดรูป ราวกับถูกของแข็งบางอย่างกระแทกอย่างรุนแรงหลายครั้ง จนมันแตกกระจายออกมา พร้อมกับเลือดและไขสมอง ที่ไหลท่วมไปทั่วลำคอ และลาดไหล่
จากนั้นเขาจึงละสายตาไปยังร่างบางที่อยู่ข้างตนเอง -- ร่างอันขาวซีดนั้นสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เสียงลมหายใจที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบนั้นดังขาดห้วง ราวกับลมหายใจใกล้จะหมดจากร่าง
เป็นตอนนั้นเองที่เขาพบว่าความหวาดกลัวกำลังครอบงำเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เขาสัมผัสหยาดน้ำตากำลังไหลอาบแก้มของตนเอง --
ริมฝีปาก และฝ่ามือสั่นระริกไปมาอย่างควบคุมไม่อยู่ --
เขารีบขยับตัวไปตามพื้นไม้ที่ท่วมไปด้วยเลือดสีแดงฉาน ไขว่คว้าร่างบางนั้นมาไว้ในอ้อมแขนตนเอง พลันความรู้สึกราวกับกำลังจะสูญเสียหญิงตรงหน้าก็ถาโถมเข้าสู่หัวใจของเขาอย่างรุนแรง และมันทำให้เขาหวาดกลัวสุดชีวิต
แม้ว่าแสงจันทร์ที่สอดส่องผ่านเข้ามาภายในโถงทางเดินจะไม่สว่างมากนัก แต่เขาก็สังเกตเห็นสภาพของเธอได้อย่างชัดเจน เรือนผมสีแดงของเธอยุ่งเหยิง ผิวที่ซีดขาวจนราวกับจะสะท้อนแสงออกมาท่ามกลางความมืดสลัวได้นั้นเต็มไปด้วยคราบเลือดกับรอยฟกช้ำ --
ร่างสูงจ้องมองเธอนิ่ง -- ดวงตาจับจ้องไปยังมือของเธอที่กำลังถือมีดเล่มหนึ่งไว้แน่น --
ปลายคมมีดด้ามนั้นค่อยๆเคลื่อนขึ้นมาจ่ออยู่เหนือกะโหลกศีรษะของตนเองอย่างช้าๆ
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสงัด ไม่มีใครขยับ หรือพูดอะไรออกมา -- เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรอื่นอีก ไม่แม้แต้เสียงลมหายใจของตนเอง --
ในที่สุด หญิงสาวก็เป็นคนทำลายความเงียบ “เราทำสำเร็จ” เธอกระซิบอย่างแผ่วเบา
เสียงกระซิบเรียกนั่นราวกับจะทำให้โลกทั้งใบหยุดหมุน
ในที่สุดปลายมีดอันแหลมคมจ้วงกระแทกไปตามแรงของฝ่ามือนั้นอย่างรวดเร็ว และรุนแรง
จากนั้นทุกอย่างก็เงียบลงอีกครั้ง
คราวนี้เงียบไปอย่างยาวนาน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in