กฎของจอมเวทย์ชัดเจนในจุดนี้ : ถ้าคุณรักบุคคลที่มีอายุขัย ทุกอย่างนั้นเยี่ยมและดี แต่ไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะเข้าไปยุ่งกับอายุขัยของพวกเขา นาน ๆ ทีกว่ากฎนี้จะถูกนำมาใช้...จนกระทั่งคุณได้ค้นพบว่าความเป็นอมตะคือพรสวรรค์ที่ไร้ค่ายิ่งกว่าภาระใด
แม็กนัสวางกล่องยานัตถุ์ลงบนโต๊ะ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ทางลัดหาอเล็ค เมื่ออเล็ครับสาย อีกฝ่ายดูลุลี้ลุกลนและมีความหวัง “แม็กนัส? คุณเจออะไรบางไหม?”
“ไม่เจอเลย ผมขอโทษ”
“โอ” ถ้อยคำที่น่าผิดหวังทำให้เสียงของอเล็คดูเล็กไปถนัด
“แต่ผมกำลังคิดถึงการเป็นสหายศึก” แม็กนัสว่า “ในเมื่อสหายศึกใกล้ชิดกันมาก ๆ พวกเขาจะรู้สึกได้ถ้าอีกฝ่ายเสียชีวิตหรือเปลี่ยนไป หรือ—”
“ผมรู้” อเล็คกล่าว “ผมรู้ดีผมรู้สึกได้—ในช่วงเวลาที่เจซตายตอนที่อยู่อิดริส แต่นี่มันไม่ใช่แบบนั้น” แม็กนัสพอจะนึกภาพออก ดวงตาสีฟ้าบนใบหน้าขาวซีด ลากเรื่อยไปหยุดอยู่ตรงกระจุกผมของเขาอเล็คมักดูเหมือนคนที่ตกเตียงและสวมเสื้อที่สุ่มไปเรื่อยมากกว่าจะเป็นคนเลือกเสื้อผ้าให้ตัวเองใส่ และตั้งแต่เจซหายตัวไป เขาก็ดูเหมือนจะเริ่มหยุดหวีผมไปด้วย “ผมไม่รู้สึกอะไรเลย”
“เหมือนมันไม่มีอะไร? แบบว่า...ไม่มีเลย?”
“ใช่...?” อเล็คดูสับสน
“จริง ๆ แล้วนั่นทำให้ผมเกิดความคิดบางอย่าง” แม็กนัสเอ่ย“ผมจะทำทุกอย่างที่ช่วยได้ คุณก็รู้ ใช่ไหม อเล็กซานเดอร์? ไม่ใช่แค่เพราะภาคี แต่เพราะคุณด้วย”
“ผมรู้” อเล็คเงียบไปพักหนึ่ง “มันดีที่ได้ยินเสียงคุณ แม้ว่าคุณอาจจะช่วยไม่ได้ก็ตาม” อเล็คเอ่ยเพิ่มแล้ววางสายไปทันที
แม็กนัสวางโทรศัพท์ลงข้างตัวและนั่งลงอยู่พักหนึ่ง เงียบพอที่จะได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง ฉันกำลังจะสูญเสียเขา เขาคิด ฉันไม่รู้ว่าอย่างไรหรือเพราะอะไร แต่ฉันรู้เอง
อ้างอิง
บล็อกของคาสแซนดร้า แคลร์ : Deleted scene from City of Lost Souls: Magnus and Alec
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in