มหาวิทยาลัยเป็นศูนย์รวมของความแตกต่างทางด้านชนชั้น ครอบครัว สภาพแวดล้อม สถานะ ความนึกคิด นิสัย และจิตใจ เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนบนโลกนี้จะมีจิตใจที่ดีงาม แล้วก็เป็นไปไม่ได้อีกเช่นกันที่ทุกคนจะมีจิตใจโหดร้ายรุนแรง โดยรวมแล้วเรามักจะเจอกับคนที่เป็นเหมือนก้อนหินเสียมากกว่า ไม่ยินดีกับใครไม่ยินร้ายกับเรา สังคมมันก็อย่างนี้ใครจะอยากเดือดร้อนกับเรื่องของคนอื่น จะมีใครที่ไหนบ้าไปแส่เรื่องของคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อน ทุกครั้งที่ฉันมองกระจก ฉันไม่เคยมองว่าตัวเองขี้เหล่ น่าเกลียด อ้วน ดำ เตี้ย หรือมองว่าตัวเองสวยเลย ฉันคิดแค่ว่าฉันก็เหมือนคนทั่วไป ที่หู มีตา มีปาก มีอวัยวะร่างกายครบ 32 แต่ฉันมักจะถูกเพื่อนๆเรียกว่า โอ่งมังกร ตุ้น เตี้ย และชื่อเรียกอื่นๆอีกมากมาย จนสาธยายไม่หมดเชียวล่ะ ถึงแม้จะบอกกับตัวเองเสอมว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเพื่อนๆรักเรา ให้ความสนใจเรา แต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้ ถึงจะเป็นอย่างนั้นฉันก็ไม่ได้โกรธเคืองเพื่อนๆเลยสักนิด จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมาก ดูดีมาก มากจนคิดว่าอาจจะเป็นไอดอลที่ปลอมตัวมาพักร้อนแถวนี้ล่ะมั้ง แต่นั่นมันเป็นแค่ความคิดนิยายหรือในละครเท่านั้นแหล่ะ เขาช่วยฉันไว้จากความซุ่มซ่ามอันเป็นนิสัยประจำตัว ลองนึกภาพยายอ้วนหน้ากลมกำลังจะลื่นล้มแล้วมีพระเอกหน้าตาดีมาช่วยประคองไว้ ท่ามกลางเสียงร้องตกใจของเพื่อนๆว่า
"เฮ้ยโอ่งลื่นๆ"
"โอ่งจะแตกไหมวะ"
และอีกสารพัด มันเกือบจะเหมือนในละครที่นางเอกจะล้มแต่พระเอกรับไว้ได้ทันอยู่แล้วหากไม่ติดว่าฉันไม่ใช่นางเอกแต่เป็นนางโอ่ง เหนือสิ่งอื่นใดคือความเขินอายขั้นสูงสุดเมื่อคนหล่อที่ประคองฉันอยู่พูดว่า "ไม่เป็นไรแล้วนะ โอ่งน้อย"
จากตอนแรกที่ไม่เป็นอะไร ฉันคิดว่าอาจจะตายได้เพราะหัวใจที่มันเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอกอยู่แล้ว ในตอนนั้นฉันไม่มีแม้แต่เสียงที่จะเอ่ยขอบคุณ ทุกอย่างมันอื้ออึงไปหมด หลังจากวันนั้นฉันก็สนิทกับเขามากขึ้น ฉันมารู้ทีหลังว่าเขาชื่อบิน และถึงแม้บินจะรู้ว่าฉันชื่อะไรแต่เขาพอใจที่จะเรียกเรียกฉันว่าโอ่งน้อยอยู่ เวลาผ่านไปเร็วมาจนเรารู้จักกันได้สามเดือน บินก็ถามฉันว่า
"เป็นแฟนกันไหมโอ่น้อย"
"บินชองโอ่งเหรอ"
"อืม ชอบมาก"
"ชอบตรงไหน เราไม่เห็นมีอะไรน่าชอบ"
"ก็ชอบทุกอย่างแหล่ะที่เป็นโอ่งน้อย"
"ชอบที่เราอ้วนเป็นโอ่งเหรอ"
"ไม่ใช่"
"ชอบที่โอ่งน้อยชอบช่วยคนอื่น แคร์คนอื่น ไม่โกรธเวลาคนอื่นว่า กินเก่งแล้วก็ซุ่มซ่ามต่างหาก"
ถุงแม้ว่าบางเหตุผลมันจะดูเหมือนถูกหลอกด่าก็เถอะ แต่ฉันก็เขินจนอยากเดินหนีไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด วินาทีนั้นฉันเกือบจะคิดว่าฉันฝันไปแล้วหากว่าฉันไม่เดินสะดุดกิ่งไม้เสียก่อน ดีที่บินรับฉันไว้ทันไม่อย่างนั้นคงได้เจ็บกว่านี้
"เป็นนะบินจะได้คอยรับโอ่งน้อยเวลาโอ่งน้อยลื่นล้มหรือสะดุดแบบนี้อีกไง"
"ไม่"
"ทำไมอ่ะ"
"ฟังให้จบก่อน ไม่ปล่อยให้เราล้มจริงๆนะ"
"จริง"
"อือ"
"เป็นก็ได้"
"ขอบคุณครับโอ่งน้อย"
ฉันคงมีความสุขมากๆหากว่าฉันไม่ตื่นขึ้นมาเสียก่อน ขอหลับต่ออีกสักนิดได้ไหมถึงแม้จะเป็นแค่ความฝันแต่ฉันก็มีความสุข แต่ในวินาทีที่ตาของฉันกำลังจะปิดลงกลับมีเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาเสียก่อน
"ตื่นได้แล้วครับโอ่งน้อย เดี๋ยวลูกไปโรงเรียนสายนะ"
จบบริบูรณ์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in