เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกน้อยๆNarut Sirithip
ยอมรับ
  • การยอมรับใครสักคนเป็นเรื่องยากมากเลยครับสำหรับผมในตอนนั้น เพราะมักไปตีความเอาว่าการยอมรับคนอื่น ชื่นชมคนอื่นก็เพราะคนๆนั้นเก่งกว่าเรา เรากลายเป็นคนแพ้ที่ด้อยกว่า

    พอคิดแบบนั้นการยอมรับหรือชื่นชมใครสักคนถึงเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะคนที่เด็กกว่า คนที่ไม่ชอบหน้า คนที่มาทีหลัง คนที่เคยด้อยกว่า เวลาเห็นพวกเขาได้ดี ประสบความสำเร็จลึกๆก็จะแอบโกรธ อิจฉา และไม่เป็นสุขใจ
    จนหลังๆมานี้ได้รู้จักผู้คนมากขึ้น ได้มีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น ลองทำอะไรใหม่ๆ มีสิ่งต่างๆมากมายที่ใหญ่เกินกว่าเรา และใหญ่กว่าพวกเราทุกคนเสียอีก ถึงได้รู้ว่า ตรรกะแต่ก่อนของตัวเองวิบัติมาก ที่เที่ยวเอาตัวเองไปเปรียบไปวัดกับใครๆ การจะยอมรับใคร หรือชื่นชมใคร ไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรมากมายแบบนั้น

    เรายินดีไปกับเขาได้ เราเห็นรุ่นน้องดีขึ้นได้ เราเห็นคนที่เคยแย่กว่าเราประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ โดยทั้งหมดนั้นไม่ได้ทำให้เราด้อยค่าลงเลย เราไม่รู้สึกทุกข์ใจ แถมยังร่วมยินดีไปด้วยได้ ( แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบหน้า อันนี้จริงๆก็กำลังฝึกครับ )
    มันทำให้มีความสุขง่ายยิ่งขึ้น เขาก็ดีในแบบของเขาในส่วนของเขา เราก็เป็นในแบบของเรา ไม่จำเป็นว่าเมื่อมีคนหนึ่งได้ต้องมีใครสักคนเสีย เคยอ่านเจอในหนังสือเล่มหนึ่งกล่าวไว้ว่า “หากคุณอยากได้ความสุข คุณก็จะได้มันอย่างง่ายดาย แต่หากหวังจะมีความสุขมากกว่าคนอื่น มันก็ยากที่จะบรรลุผล
    การชื่นชมกันเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายถึงการเยินยอ แต่มาจากการยอมรับจากใจริง ในศาสนาพุทธบอกไว้ว่า เพียงร่วมอนุโมทนาบุญ เราก็ได้รับผลบุญนั้นแล้ว ซึ่งได้บุญในที่นี้สิ่งที่เห็นได้แน่นอนก็คือความรู้สึกสุขใจที่เกิดขึ้นในทันทีไม่ต้องรอวันหน้า หรือชาติไหน
    ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงระหว่างฝึกครับ ถามว่ายังมีมั้ยก็มีครับคนที่เราไม่ชอบ ยิ่งเห็นเขาได้ดีเราก็ยิ่งทุกข์ใจ แต่ที่แน่ๆเรายินดีไปกับหลายๆคนรอบตัวได้มากยิ่งขึ้นทำให้มีช่องทางของความสุขได้เพิ่มขึ้น
    จิตใต้สำนึกเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีผลในเรื่องนี้นะครับ ว่ากันว่าจิตใต้สำนึกคอยฟัง และดูเราอยู่เสมอ ฟังในที่นี้ไม่ใช่ฟังสิ่งที่เราพูด แต่ฟังความคิดของเราที่ออกมา เวลาเห็นใครรวย หากคุณคิดอิจฉา คิดโกรธ โกงมาชัวร์ ไม่เห็นสมควรเลย นั่นคือเราทุกข์ใจ จิตใต้สำนึกก็จะผูกโยงเป็นว่า อ้อ รวยแล้วเราทุกข์ ประสบความสำเร็จแล้วเราหงุดหงิด งั้นอย่ารวยอย่าประสบความสำเร็จเลยดีกว่า ที่ว่าจิตใจไม่ดีก็ยิ่งตกต่ำไปอาจเพราะแบบนี้ กลับกันหากเราร่วมยินดี(จากใจจริง) เวลาเห็นผู้อื่นทำดี ได้ดี ประสบความสำเร็จ จิตใต้สำนึกก็จะทำงานในแบบเดียวกัน
    ทีนี้การยอมรับใครสักคน อาจไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่หรือเก่งๆเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปเพียงอย่างเดียว บางครั้งมันก็เป็นการบ้านเราที่ต้องมองหาข้อดีเหล่านั้นออกมาให้ได้ ซึ่งเชื่อเถอะว่าทุกคนต้องมี เพียงแต่เรารู้จักเขาดีแค่ไหนเท่านั้นเอง
    สีทุกสีมีคุณสมบัติและหน้าที่ในตัวมันเองถ้าระบายลงไปได้ถูกที่ สีฟ้าไม่จำเป็นต้องไปเปรียบเทียบกับสีแดง แม้กระทั่งสีฟ้าหรือสีฟ้าอ่อนก็มีที่ให้ระบายที่ต่างกันออกไป บางครั้งเราก็อยากลงสีฟ้าเข้มเพราะเรากำลังระบายสีน้ำในตอนค่ำ บางครั้งเราก็ต้องการลงสีฟ้าอ่อนเพราะระบายสีน้ำในตอนเช้า
    เราเองก็เป็นสีๆหนึ่งบนโลก เราไม่จำเป็นต้องไปเปรียบเทียบสีเรากับสีของใคร เพียงแต่เหลาตัวเองให้แหลมเพื่อให้พร้อมเมื่อถูกใช้ก็พอ และหากยังไม่ถึงเวลาที่เราจะถูกหยิบใช้ เราก็ยังร่วมยินดีไปกับสีต่างๆบนโลกนี้ได้ .
    และถ้าถามว่าใครหล่ะที่เราควรยอมรับมากที่สุด ผมว่าน่าจะเป็น ตัวเราเอง ครับ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in