เคยอ่านเจอใน ยิ่งหิวยิ่งสุขภาพดี ตั้งนานละครับ บวก พักหลังมาได้ดูคลิป LOY เกี่ยวกับสุขภาพ โดยเฉพาะโรคหลักของคนยุคปัจจุบัน นั่นคือ เบาหวาน ต้นตอของอีกหลายโรค ไต ตับ และการเสื่อมของอวัยวะต่างๆ

ในเนื้อหาระบุการรักษาหลักๆไม่ใช่การให้ยาแต่คือการกิน และเอาจริงๆเป็นการหยุดกิน ด้วยครับ

โรคเบาหวานเป็นโรคของคนมีอันจะกิน ด้วยความที่ชื่อโรคมันระบุว่าเบาหวาน คนเราเลยมักคิดได้ว่า เบาหวาน คือ ทานหวาน อะไรที่ไม่หวาน ไม่เป็นไร อะไรที่มาจากธรรมชาติไม่เป็นไรเพราะออแกนิก ซึ่งท้าทายความเชื่อของคนไทยเรามาก เพราะ อาหารหลักบ้านเราคือ ข้าว

ข้าวเนี่ยไม่หวาน แต่มันเป็นแป้ง แป้งเมื่อเข้าไปแล้วในร่างกายก็จะเป็นน้ำตาล อยู่เช่นเดิมครับ ดังนั้นบางคนที่สู้ลดน้ำหวาน อะไรก็อาจกลับไปตกม้าตายที่ตรงนี้ได้
อีกเรื่อง ที่ 2 สื่อนี้พูดเหมือนกันคือการทานน้อยมื้อ ไม่ให้มีจุกจิก ซึ่งก็ไปตรงกับการฉันในพระพุทธศาสนา ที่กำหนด 1 มื้อ หรือ 2 มื้อ ซึ่งนั่นก็ขัดกับความเชื่อเราอีกแล้วคือต้อง 3 มื้อ เอาจริงถ้าไม่รู้สึกหิวให้หยุดไปเลยครับ ก็เป็นที่มาของ IF หรือ PF

แต่ก่อนคนก็ทานข้าว รุ่นพ่อรุ่นแม่ก็ทาน 3 มื้อ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย นั่นทำให้แนวคิดข้างต้นดูขวางโลกไป ซึ่งเราไม่เถียงอยู่ละครับเพราะหลักฐานคาตา รุ่นอาม่ามักไม่พบเบาหวานตอนท่านอายุ 60 70 แต่ปัจจุบันเราพบเบาหวานกันตั้งแต่ 30 40 นั่นเพราะเรากำลังทำตามวิธีเดิมในสิ่งแวดล้มใหม่ ครับ สมัยก่อนไม่มีชาไข่มุก ไม่มีกาแฟป๋อง ไม่มีเต่าบิน ไม่มีตู้เย็น ไม่มีขนมอร่อยๆ มันเลยกลายเป็นการเบิ้ลความเสี่ยงขึ้นไปครับ

แถมการทานข้าวทำให้เราทานจัดขึ้นโดยปริยายด้วยครับ เพราะเราเองก็ไม่ทานข้าวเปล่าๆ ยังไงเราก็มักทานกับ กับข้าว น้ำจิ้ม พริกน้ำปลา น้ำพริก ซึ่งมันก็จะไปส่งผลกับอวัยวะอย่างไตอีกครับ

ดังนั้นเอาจริงไม่เสียหายครับผม เราสามารถทดลองได้ คือ ลดข้าวลง ทานน้อยมื้อ (ทานน้อยมื้อไม่ใช่การ ทานน้อยนะครับ คุณทานไปเลยเต็มที่แต่ขอให้พอหยุดทานก็หยุดยาวไปเลย ) ส่วนตัวก็ยังทำไม่ได้หรอกครับ แต่เริ่มลดข้าวมานานแล้ว นอกนั้นก็ยังทานขนม ทานหวานปกติครับ คือ ของหวานมันทานเพราะกิเลสมันห้ามยากกว่า เลยไปลดข้าวแทน