มิซากิ นาโกะซังนั้น แม้จะคอยยืนอยู่ด้วยบรรยากาศที่อ่อนนุ่ม แต่ก็เป็นคนคอยผลักดันเมมเบอร์อย่างหนักแน่น พวกเราจึงได้ถามถึงเรื่องราวต่างๆ ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้
— ดูเหมือนมิซากิซังจะเรียนเต้นมาก่อนเหมือนกับอาราชิ จิซาโตะที่มิซากิซังเป็นคนรับบทสินะคะ
เพื่อนร่วมชั้นของพี่สาวเรียนเรียนอยู่ก่อนแล้ว จากนั้นก็มาชวนเลยเริ่มเรียนพร้อมพี่สาวค่ะ เป็นช่วงอนุบาล 3 แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นฉันที่เรียนต่อมาเรื่อยๆ จนนานกว่าพี่สาวค่ะ (หัวเราะ) ตอนม.3 สตูดิโอนั้นปิดตัวลงเลยเข้าชมรมเต้นของที่โรงเรียนค่ะ ไม่ใช่ชมรมใหญ่ๆ ที่จะลงแข่งงานใหญ่ๆ หรอกนะคะ แต่ก็ได้ไปออกพวกอีเว้นท์ระดับเขต ฉันชอบการเต้นมากๆ มาตลอดและไม่เคยคิดว่าอยากเลิกเลยค่ะ
— ช่วยบอกจุดเริ่มต้นที่มิซากิซังมารู้จักกับซีรีส์ Love Live! หน่อยได้ไหมคะ?
ตอนประมาณม.3 พี่สาวเล่น “SIF (Love Live! School Idol Festival)” ฉันเลยบอกว่า “อยากเล่นบ้าง!” แล้วก็ติดกันทั้งคู่ นั่นคือจุดเริ่มต้นค่ะ จากนั้นก็เริ่มดูอนิเมะและไลฟ์ย้อนหลัง แล้วก็ตกหลุมรักมิโมริ สุซุโกะซังผู้รับบทเป็นโซโนดะ อุมิตั้งแต่แรกพบเข้าค่ะ คิดว่าอยากยืนอยู่บนเวทีเดียวกับคนคนนี้พร้อมกับใฝ่ฝันมาตลอดว่าอยากเปล่งประกายอยู่บนเวทีใหญ่ๆ พร้อมอาบเสียงเชียร์ค่ะ เลยเริ่มตั้งเป้าหมายว่าอยากเป็นเซย์ยูจากความรู้สึกที่ว่า “ฉันเองก็อยากยืนอยู่ตรงนี้! อยากอยู่ในซีรีส์ Love Live!”
— ก็คือมาเป็นเซย์ยูเพราะตั้งใจจะมาอยู่ในซีรีส์ Love Live! เลยสินะคะ
ใช่ค่ะ (หัวเราะ) ตอนที่ให้เลือกตอนม.ปลายว่าจะไปต่อทางไหนก็เคยลังเลว่าจะไปเป็นแคสท์ในสวนสนุกที่แค่เต้นอย่างเดียวก็ทำต่อไปได้ แทนที่จะเป็นเซย์ยูดีกว่าไหมด้วยค่ะ แต่ตอนนั้นมีอาจารย์จากโรงเรียนเฉพาะทางด้านเซย์ยูมางานแนะนำการเรียนต่อของโรงเรียน พอได้ฟังก็ตัดสินใจเลยค่ะว่าจะไปเข้าโรงเรียนเฉพาะทางเซย์ยู นอกจากนั้น เพราะที่โรงเรียนนั้นไม่ได้มีแค่เรื่องการแสดง แต่คนที่ทำหลายอย่างทั้งเรื่องเต้นหรือเรื่องร้องเองก็มีเลยคิดว่าถ้าเข้าไปแล้วจะได้ทำทุกอย่างที่อยากทำค่ะ แต่พอเข้าโรงเรียนเฉพาะทางไปจริงๆ ก็ได้รู้ถึงความเป็นจริงค่ะ คนรอบตัวมีแต่คนที่เคยอยู่ชมรมการแสดงหรือชมรมกระจายเสียง แถมยังมีหลายคนที่เคยเรียนในโรงเรียนเซย์ยูมาก่อนด้วย เลยเริ่มเร่งตัวเองว่า “งั้นฉันที่ไม่มีประสบการณ์ก็เริ่มช้ากว่าเขาสิ!?” เลยค่ะ เพื่อที่จะได้อยู่ในซีรีส์ Love Live! ก็ต้องแข่งขันกับคนเหล่านั้นพร้อมอัพสกิลการแสดงแล้วดึงออกมาใช้ให้มากขึ้น และทำให้ทางต้นสังกัดยอมรับให้ได้ ที่สำคัญกว่านั้นคือต้องไปเข้าร่วมออดิชั่นให้ได้ด้วย เพราะแบบนั้นเลยหันมาคิดว่าต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่อยู่ข้างหน้ามากกว่าการคิดเรื่องซีรีส์ Love Live! ค่ะ
— แต่ถึงอย่างนั้น เพราะพยายามมาตลอดเลยสามารถเข้าสังกัดเซย์ยูได้สินะคะ
ฉันผ่านเข้าสังกัดพร้อมกับตอนเรียนจบ เลยย้ายมาอยู่โตเกียวค่ะ แต่หลังจากนั้นนั่นแหละค่ะที่หนักหนามากจริงๆ ช่วง 1-2 เดือนแรกหลังย้ายมาโตเกียว ถึงจะไม่ผ่านการออดิชั่นก็จะคิดว่า “ยังเป็นมือใหม่อยู่เลยนี่นา ก็แบบนี้แหละ” ฉันโชคดีที่ได้โอกาสไปออดิชั่นอยู่ทุกเดือน แต่ก็ไม่เคยไขว่คว้าอะไรมาได้ด้วยตัวเองเลย ตลอดเวลาฉันแบกรับทั้งความเร่งตัวเองที่ว่า “เป็นอะไรไหมเนี่ย ไม่ผ่านออดิชั่นมากขนาดนี้เลยนะ” กับความไม่กล้าสู้หน้าครอบครัวที่อุตส่าห์มาส่งพร้อมบอกว่า “พยายามเข้านะ” เลยค่ะ ตระหนักได้ถึงความไร้พลังของตัวเอง แล้วความเจ็บใจก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ที่เหลือก็คือเรื่องที่ตัวเองไม่ถนัดร้องเพลง... มีหลายครั้งเลยค่ะที่ล้มเหลวเพราะเรื่องการร้องเพลง
— ช่วยเล่ารายละเอียดได้ไหมคะ?
แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่ถูกกับการยืนต่อหน้าคนมากๆ อยู่แล้วค่ะ ถ้าเป็นเรื่องเต้น ความสนุกก็จะชนะอยู่หรอก แต่ตอนประถมเป็นคนที่ตื่นเต้นง่ายมากๆ แบบที่แค่โดนอาจารย์เรียกก็จะร้องไห้แล้วค่ะ ครั้งแรกคือตอนแข่ง Vocal Contest ของทางโรงเรียนเฉพาะทางตอนอยู่ปี 1 ค่ะ ต้องแสดงการร้องและเต้นแบบกลุ่ม แล้วตอนเริ่มร้องกลับเสียงหลง วอลุ่มเสียงก็ไม่มี เสียงเลยไม่เข้าไมค์ ผลคือไม่เหลือเลยค่ะ ด้วยความโชคดีเลยผ่านการออดิชั่นในครั้งต่อมาไปถึงรอบสุดท้ายได้ แต่กลับตื่นเต้นขึ้นมาเหมือนเดิมจนเสียงสั่น เริ่มร้องก็พลาด แถมร้องออกมาไม่เป็นเพลง... หลังจากนั้นก็ไปออดิชั่นอีก ครั้งนี้เองก็ตื่นเต้นจนเสียงสั่นสุดๆ เลยค่ะ ช่วงถามตอบเองก็หัวขาวโพลน ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผ่านการออดิชั่นที่เกี่ยวข้องกับการร้องเพลงไปได้ดีเลยสักครั้งค่ะ เพราะแบบนั้นตอนออดิชั่นของซีรีส์ Love Live! ในช่วงแรกเลยไม่มั่นใจในตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ แต่ก็เพราะไม่สำเร็จมาตั้งขนาดนี้แล้วนี่แหละเลยเลือกที่จะหันมาคิดว่าในเชิงที่ว่า “ไหนๆ ก็ได้รับโอกาสให้ทำตามความฝันขนาดนี้แล้วก็แสดงความเป็นตัวเองออกไปเถอะ” แทนค่ะ ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็อยากแสดงความเป็นตัวเองออกไปค่ะ
— ตอนได้ยินเรื่องการออดิชั่นซีรีส์ใหม่ของ Love Live! รู้สึกยังไงบ้างคะ?
รู้สึกว่าตัวเองมีหน้าที่ที่ว่าต้องผ่านให้ได้ค่ะ เพื่อมาอยู่ในซีรีส์ Love Live! แล้วฉันได้เปลี่ยนเส้นทางจากสายเต้นมาเป็นเซย์ยูและพยายามมาตั้งขนาดนี้แล้ว เพราะฉะนั้นเลยตั้งใจมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาและพยายามด้วยความรู้สึกที่ว่า “จะคว้ามาให้ได้ จะชนะให้ได้เลย” ค่ะ ที่ผ่านมามีหลายครั้งที่ตื่นเต้นจนไม่ได้แสดงความสามารถจริงๆ ของตัวเองออกไป แต่ตอนออดิชั่นที่สตูดิโอ เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่สามารถผ่อนคลายตัวเองและร้องเพลงออกไปได้ ฉันเลือกออดิชั่นเป็นจี้จัง (อาราชิ จิซาโตะ) ตั้งแต่แรกอยู่แล้วค่ะ แต่เพราะทางกรรมการบอกว่า “ลองเป็นคนนี้ด้วยซิ” เลยได้ลองแสดงเป็นคนอื่นด้วย นี่เลยเป็นการออดิชั่นแรกที่ตัวเองรู้สึกว่าอาจจะผ่านค่ะ
— มีจุดไหนที่ปรับเพื่อการทดสอบการเต้นไหมคะ?
ฉันมีนิสัยติดเต้นตามต้นฉบับเป๊ะๆ อยู่ค่ะ ถ้าดูวิดีโอเต้น ปกติแล้วก็จะสามารถเต้นตามได้ทันที แต่ฉันไม่ถนัดเรื่องการปรับแต่งท่าตามแบบของตัวเองค่ะ แม้แต่ท่าที่เอาแขนออกมาแค่ท่านั้นท่าเดียวก็จะคิดว่าต้องเอาออกจังหวะไหนถึงจะรู้สึกใช่ หรือทำให้คนดูเห็นแล้วรู้สึกสนุก ต้องขยับแบบไหนถึงจะดูมีพลังมากขึ้นเป็น 2 เท่าหรือ 3 เท่า และไม่ได้ดูสวยแค่อย่างเดียว แล้วก็เพราะมีหลายท่าที่ตรงกับเนื้อเพลง เลยทำความเข้าใจเนื้อเพลงแล้วคิดว่าจะใส่อารมณ์ลงไปในการเต้นยังไงค่ะ
— ตอนวันออดิชั่นจริงๆ เป็นยังไงบ้างคะ?
ระหว่างเดินทางไปออดิชั่นรอบสุดท้าย ฉันบอกกับเมเนเจอร์ซังว่า “ถ้าไม่ผ่านก็จะกลับบ้านเกิดแล้วค่ะ” ฉันคิดแบบนั้นจริงๆ แบบที่แทบจะเตรียมเก็บของกลับแล้วเลยค่ะ แต่น่าประหลาดใจที่สักแห่งในใจกลับรู้สึกมั่นใจว่า “คงผ่านนั่นแหละ” คงรู้สึกมั่นใจเพราะการออดิชั่นที่ผ่านมาไม่เคยมีครั้งไหนที่มีรู้สึกว่าจะผ่านเลยค่ะ (หัวเราะ) ในการคัดเลือกรอบสุดท้าย หลังจากผ่านการทดสอบการแสดงที่ให้พูดบทสนทนากัน 4 คนแล้วก็มีการทดสอบการเต้นทีละคนค่ะ เต้นครั้งนั้นสนุกมากๆ เลยล่ะค่ะ! เพราะไม่ค่อยมีโอกาสที่จะได้เต้นโดยที่ทุกคนจับตามองมาเป็นสายตาเดียวกันแบบนี้เลยสนุกกับมันอย่างเต็มที่เลยค่ะ หลังถามตอบเสร็จก็ได้ช่วงโปรโมตตัวเองค่ะ นั่นเป็นครั้งแรกที่ไม่ได้ “คิดว่าจะพูดแบบนั้นแบบนี้” แต่สิ่งที่ตัวเองคิดมาตลอดมันพรั่งพรูออกมาในครั้งเดียวเลย เพราะแบบนั้นเลยจำไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวค่ะว่าพูดอะไรออกไปบ้าง ฉันล้มเลิกเส้นทางสายการเต้นไป แล้วพยายามมาจนถึงตอนนี้ด้วยเป้าหมายที่ว่าอยากอยู่ในซีรีส์ Love Live! แต่เมื่อได้มาพบกับเด็กผู้หญิงที่ชอบการเต้นมากๆ ที่ชื่อว่าจี้จัง ฉันเองถึงสามารถใส่ทุกอย่างที่มีลงไปในการเต้นได้ เพราะแบบนั้นเลยสามารถสื่อความรู้สึกที่เหลืออยู่ในตอนสุดท้ายออกไปได้ค่ะ ถึงฉันจะไม่สามารถแสดงผลของความพยายามด้านการเต้นมาตลอดออกมาให้เห็นได้อย่างจี้จัง แต่คิดว่าสำหรับตัวเองแล้ว นี่เป็นหนึ่งสิ่งที่สามารถพูดออกมาได้อย่างมั่นใจเลยค่ะว่าเห็นผลจากความพยายามแล้วจริงๆ
— TV อนิเมะก็เริ่มฉายแล้ว หลังจากได้ดูแล้วรู้สึกยังไงบ้างคะ?
รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในซีรีส์ Love Live! ที่ใฝ่ฝันมาตลอดจริงๆ ด้วย แล้วก็ตื้นตันใจมากๆ เลยค่ะที่มีชื่อตัวเองอยู่ในรายชื่อ Cast ในฐานะเซย์ยู ยิ่งไปกว่าการคิดว่าตัวเองแสดงเป็นยังไงบ้าง แต่การที่ได้มาข้องเกี่ยวในผลงานหนึ่งนั้นถือเป็นความฝันเลยจริงๆ ค่ะ ฉันอยากเลเวลอัพขึ้นไปเรื่อยๆ และเติบโตให้มากกว่าที่จี้จังเติบโตขึ้นในเรื่องค่ะ อยากจับมือกันไว้แล้วให้หัวใจเชื่อมถึงกันไปค่ะ
— สุดท้ายนี้ ช่วยฝากอะไรถึงผู้อ่านทุกคนหน่อยค่ะ
ที่ผ่านมาฉันล้มเหลวมามากมาย แต่การที่ทุกคนอุตส่าห์มารู้จักฉัน มาพบกับฉันนั้น มีแต่ความรู้สึกขอบคุณเลยค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ นะคะ! เพราะมีกำลังใจจากทุกคนอยู่ พวกเรา Liella! ถึงสามารถพยายามกันอยู่ได้ค่ะ จากนี้ก็มีเรื่องที่ยังไม่รู้อีกมากมาย และยังไม่รู้ด้วยว่าจะเปล่งประกายในแบบไหน แต่จะพยายามต่อไปเพื่อที่จะสามารถแสดงทิวทัศน์ที่แสนวิเศษให้กับทุกคนให้มากขึ้นไปอีกให้ได้เลยค่ะ ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ!
มิซากิ นาโกะ ผู้รับบทเป็นอาราชิ จิซาโตะ
มิซากิ นาโกะ
รับบทเป็นอาราชิ จิซาโตะ เกิดที่จังหวัดเฮียวโกะ อาหารที่ชอบคืออาหารประเภทเส้น โดยชอบราเมงเป็นพิเศษ ช่วงหน้าร้อนจะทานแต่อุด้งหรือโซเมง ราเมงที่ชอบที่สุดคือทงคตสึราเมงเส้นบางพิเศษ (บาริคาตะราเมง)
TV Anime『Love Live! Superstar!!』EP 6 Insert Song 「Tokonatsu☆Sunshine」
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in