จะไม่ได้รับคำว่า “ก็เพิ่งครั้งแรกนี่นา” จากทุกคนอีกต่อไป

— หลังจบ 1st Live ไป ตอนนี้ 2nd Live กำลังรออยู่ตรงหน้าแล้ว ความรู้สึกตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ?

ดาเตะ　คิดว่าถ้ามองในแง่บวกเข้าไว้ก็จะดูเท่ดีอยู่หรอกค่ะ แต่เอาจริงๆ ความกังวลมีมากกว่าเยอะเลย ตัวเองก็คิดเหมือนกันค่ะว่าทำไมถึงได้กังวลกันนะ ทัวร์ก็ผ่านมาได้ด้วยดี สายสัมพันธ์ของเมมเบอร์ก็แน่นแฟ้นขึ้น เพราะฉะนั้นการจะคิดว่า “ไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัวเลย” นั้นควรเป็นเรื่องปกติมากกว่าซะอีก แต่ถึงอย่างนั้น…

— ไม่คิดว่าจะตอบแบบนี้จริงๆ ค่ะ

ดาเตะ　ทุกสิ่งที่ได้ทำมาในฐานะ Liella! มีแต่อะไรที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนทั้งนั้นเลยค่ะ เพราะฉะนั้นถึงจะทำพลาดก็จะมีคนบอกมาว่า “ก็เพิ่งครั้งแรกนี่นา” คนที่คอยเป็นกำลังให้ก็มีแต่คนที่อ่อนโยนทั้งนั้น แต่พอถึงครั้งต่อไปก็จะไม่สามารถใช้คำพูดนั้นได้อีกต่อไป  เพราะระหว่างทัวร์ก็ยกเอาประโยคที่ว่า “อยากพัฒนามากกว่านี้” มาเป็นคีย์เวิร์ดของตัวเองตลอดมา เลยเหมือนกับกลายมาเป็นไล่ต้อนตัวเองว่าต้องทำให้ได้อย่างที่พูด แต่ถึงจะมานั่งคิดว่า แล้วต้องทำยังไงล่ะถึงจะพัฒนาขึ้น ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะต้องทำยังไง แล้วตัวเองก็ไม่ได้คิดว่าการกลัดกลุ้มเป็นอะไรที่ไม่ดีอยู่แล้ว พยายามคิดว่านี่เป็นสิ่งจำเป็นต่ออนาคตของตัวเองเข้าไว้อยู่ด้วย แต่ก็เผลอคิดขึ้นมาอีกว่า มันโอเคเหรอที่จะคิดแบบนั้น แน่นอนว่าก็มีความรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่จะมาถึง แต่ตอนนี้ความกลัวก็มีมากกว่าอยู่ดีค่ะ

— ในอนิเมะภาค 1 ตอนที่ 12 มีตอนที่คาน่อนรู้ตัวขึ้นมาว่า “กิจกรรมสคูลไอดอลที่ตัวเองทำอยู่ไม่ได้เป็นเรื่องของตัวเองเท่านั้นอีกต่อไป” ด้วยสินะคะ รู้สึกเหมือนกับสถานการณ์เชื่อมกันอยู่เลยค่ะ

ดาเตะ　นั่นสินะคะ หลังจากผ่านทัวร์มา การได้เห็นหน้าทุกคนที่คอยเป็นกำลังใจให้ก็ทำให้รู้ตัวขึ้นมาว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่นั้นยิ่งใหญ่กว่าที่ตัวเองคิดเสียอีกค่ะ แล้วก็รับรู้ถึงความรับผิดชอบในเรื่องนั้นด้วยค่ะ

รู้ดีว่าการจะชอบสิ่งหนึ่งต่อไปเรื่อยๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ 

— เพลง「Aozora wo Matteru」เพลงโซโล่ของคาน่อนในอัลบั้มเป็นเพลง Acoustic เบาๆ แต่มีเนื้อเพลงหลายท่อนเลยค่ะที่ทำเอาใจเต้นขึ้นมา

ดาเตะ　ในทัวร์เองก็ได้เซอร์ไพรส์ร้องเพลงพร้อมดีดกีต้าร์โปร่งเป็นครั้งแรก ตอนได้เพลงมาเลยคิดว่า “เพลง Acoustic มาอีกแล้วเหรอ!?” เลยค่ะ ตอนได้เนื้อเพลงมา ฉันชอบนั่งจินตนาการแบบต่างๆ ดูว่า “สามารถมองแบบนี้ได้ด้วย” หรือ “สามารถมองในรูปแบบนี้ก็ได้เช่นกัน” แต่สำหรับเพลงนี้ พออ่านเนื้อเพลงแล้วก็ได้คำตอบของตัวเองในทันทีเลยค่ะว่า “เธอ” ในเพลงนี้ไม่ได้หมายถึงใคร แต่หมายถึง “การร้องเพลง” หรือเปล่านะ อาจจะมีคนที่คิดไม่ถึงว่าจะมีท่อน “เกลียดที่สุดเลย เกลียดแล้วนะ” อยู่ด้วย แต่ตอนที่อัดเพลงนี้เป็นช่วงที่กำลังคิดมากเรื่องการร้องเพลงพอดีเลยคิดว่าดีแล้วที่เข้ากันพอดีเลยค่ะ

— คนที่ทุ่มเทใส่ใจไปกับสิ่งที่ชอบจะต้องเคยทรมานกับความรู้สึกที่มีต่อสิ่งนั้นอย่างแน่นอนสินะคะ

ดาเตะ　รู้ดีเลยค่ะว่าการจะชอบสิ่งหนึ่งต่อไปเรื่อยๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ช่วงนั้นฟังเพลงไม่ได้ไประยะหนึ่งเลยค่ะ ทุกครั้งที่ฟังจะเผลอคิดว่า “ตรงจุดนี้ในการร้องเพลงของคนนี้ดีจัง แต่ตัวเองทำไม่ได้นี่สิ…” ตอนที่นอนไม่หลับเองก็มีค่ะ ถ้าถามว่าแล้วจัดการกับเรื่องนี้ได้หรือยังก็คงต้องตอบว่ายังค่ะ แต่สำหรับเพลงนี้ ฉันเข้าใจความรู้สึกของคาน่อนจังจากใจแบบที่ตั้งเป้าหมายว่า “จะไม่ร้องไห้ตอนอัด” เลยค่ะ เนื้อเพลงนั้นเข้ากับฉันมากๆ จนตกใจเลย คิดว่าตอน 2nd Live ก็คงได้ร้องเพลงนี้ เหมือนกับที่ตอนท้ายของเพลงเปลี่ยนเป็นคำว่า “ชอบที่สุดเลย” ฉันเองก็อยากแสดงเพลงนี้ออกไปโดยใส่การที่ตัวเองหันมามองในแง่บวกมากขึ้นกว่าตอนอัดเสียงเข้าไปด้วยค่ะ

รู้สึกถึงความสุดยอดของพลังในการทำให้คนอื่นมองโลกในแง่บวกของคาน่อน

— ในอนิเมะตอนที่ 11 เป็นเรื่องราวตอนที่คาน่อนจังพยายามก้าวข้ามกำแพงด้วยตัวเองสินะคะ พอลองย้อนกลับไปมองแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างคะ?

ดาเตะ　คิดแค่ว่า คาน่อนจังสุดยอดเลยที่เอาชนะสถานการณ์นั้นไปได้ ค่ะ หลังจากนั้นฉันเองก็เจอกับกำแพงเหมือนกัน เลยเข้าใจดีเลยค่ะว่ามันเป็นเรื่องที่ทรมานแต่ไหน ทำให้รู้สึกนับถือและอยากเป็นแบบนั้นได้บ้างขึ้นมาอีกครั้งเลยค่ะ แต่จะมาปรบมือบอก “สุดยอดๆ!” อยู่เฉยๆ ก็คงไม่ได้ พอเข้าช่วงทัวร์ คำว่า “สุดยอด” ก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็น “เจ็บใจ” ว่า “ทำไมคาน่อนจังทำได้ แต่ตัวเองทำไม่ได้กันนะ” เลยมีตอนที่คิดมากเรื่องนั้นด้วยค่ะ พอคิดว่าอยากเข้าใจคาน่อนจังได้มากกว่านี้แล้วไล่ตามไปก็จะรู้สึกขึ้นมาเองว่าตัวเองก็อาจจะทำได้เหมือนกันก็ได้ถึงแม้จะไม่มีหลักประกันอะไรก็ตาม จะไม่ยอมให้จบลงแค่ที่ “เจ็บใจ” เด็ดขาด รู้สึกถึงความสุดยอดของพลังในการทำให้คนอื่นมองโลกในแง่บวกของคาน่อนจังเลยค่ะ หลังทัวร์จบลงความรู้สึกก็เปลี่ยนไปเป็นแบบนั้นค่ะ

— ถ้าพูดง่ายๆ ก็คือ ”สั่นคลอนหัวใจของผู้อื่น” สินะคะ แต่เอาจริงๆ แล้วเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มากๆ เลยค่ะ คิดว่าดาเตะซังคงรู้สึกกดดันอยู่เสมอในการรับบทเป็นคาน่อนเลยสินะคะ

ดาเตะ　แต่ความกดดันนั้นเป็นความกดดันที่ถึงแม้ตัวเองจะสามารถร้องเพลงได้อย่างที่หวัง มันก็คงตามติดไปเรื่อยๆ อยู่ดีค่ะ เพราะฉันมาจากการออดิชั่นบุคคลทั่วไป เลยอยากยืนอยู่ต่อไปโดยแบกความรู้สึกของคนอื่นที่มาออดิชั่นเหมือนกันเอาไว้ด้วยค่ะ

อยากจดจำแต่ละวินาทีที่อยู่บนสเตจไว้ไม่ลืม

— ในอนิเมะภาค 2 อยากแสดงคาน่อนจังในแบบไหนให้ทุกคนเห็นเหรอคะ?

ดาเตะ　คิดว่าทุกคนคงเติบโตขึ้นไปอีกกันค่ะ เพราะในภาค 1 ถึงแม้ว่าจะผ่านอะไรต่างๆ มามากมายขนาดนั้นแต่ก็แพ้การแข่งขันอยู่ดี ตอนนี้เลยเต็มไปด้วยความตื่นเต้นว่า “แล้วต่อไปจะไปถึงไหนกันนะ?” เลยค่ะ แต่ฉันพยายามไม่คิดเยอะว่าคาน่อนจังควรเป็นแบบไหน หรือคาน่อนจังเป็นเด็กแบบนี้ค่ะ เพราะรู้ว่าถึงคิดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา (หัวเราะ) หลังคิดวนไปก็กลับมาที่เดิมว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสนุกไปกับมันค่ะ ฉันอยากจะรู้ไปพร้อมๆ กับทุกคนผ่านอนิเมะภาค 2 น่ะค่ะว่า “คาน่อนจังเป็นเด็กแบบนี้นี่เอง” 

— แล้ว 2nd Live ที่กำลังรออยู่ก่อนหน้านั้น ดาเตะซังอยากให้มาถึงด้วยความรู้สึกแบบไหนเหรอคะ?

ดาเตะ　ถึงแม้จะผ่านมาพร้อมกับกลัดกลุ้มเรื่องต่างๆ ไปด้วยแต่ความรู้สึกที่ว่าไม่อาจลืมแต่ละวินาทีที่สนุกสนานไปกับทุกคนใน 1st Live Tour ได้เลยนั้นไม่เปลี่ยนไปเลยค่ะ แน่นอนว่าอยากให้ช่วยดูความเติบโตของพวกเรากัน แต่ยิ่งไปกว่านั้นเป้าหมายคืออยากสร้างสเตจที่น่าประทับใจไปด้วยกันและอยากจดจำช่วงเวลานั้นไว้ไม่ให้ลืมไปค่ะ

--------------------------------------------------------------------

บทสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 11/03/2022

บทสัมภาษณ์นี้แปลมาจากบทสัมภาษณ์ต้นฉบับของทาง Febri ซึ่งมีทั้งหมด 7 ครั้งค่ะ 

สำหรับครั้งที่ 5 เป็นบทสัมภาษณ์ซายุริน หรือดาเตะ ซายุริซัง ผู้รับบทเป็นชิบุยะ คาน่อน สมาชิก Liella! จาก『LoveLive! Superstar!!』ค่ะ

ในบทสัมภาษณ์มีรูปซายุรินที่ถ่ายใหม่โดยทาง Febri ด้วยค่ะเข้าไปดูกันให้ได้เลยนะคะ?✨

• 【Music Video】Liella!「What a Wonderful Dream!!」