Author’s Note : (. . ') มันควรจะเป็นตอนจบ... ตะแต่... อีกนิดนึงๆ ตอนหน้าจะเป็น Epilogue หรือบทส่งท้ายแล้วล่ะค่ะ แบบฟอร์มสำหรับคนที่สนใจรวมเล่มขอยกยอดไปตอนหน้านะคะ ยังประมาณราคาให้ไม่ถูกเพราะแต่งยังไม่จบนี่ล่ะ !! ฮรือออ
Pairing : Thor x Loki
Rate : 18+ Explicit
Warning : LGBT , Boy's Love , ฟิควาย , *Spoiler Alert* for Thor : Ragnarok
………………………………………………………………..
………………………………………………………………..
ริมฝีปากนุ่มฉ่ำยังคงปล่อยให้คนด้านบนตักตวงสัมผัสอย่างเร่าร้อนโหยหาจนเริ่มบวมเจ่อ... แต่ดวงตาสีเขียวใสพร่างหยาดน้ำตาเพียงมองเหม่อจับอยู่บนเสี้ยวหน้าอีกฝ่ายราวกับไม่รับรู้... ในหัวของ โลกิ ลอเฟย์ซัน ยังคงอื้ออึงอยู่กับคำพูดเมื่อครู่ของอีกฝ่าย...
‘ข้ารักเจ้า โลกิ... เกินกว่าแค่น้องชาย... รักมาตลอด...’
โลกิจดจำไม่ได้แล้วว่า ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเฝ้ารอจะฟังคำพูดประโยคนี้จากปากผู้เป็นเชษฐา... จดจำไม่ได้แล้วว่า กี่พันครั้งที่เขาถอดใจ และบอกให้ตัวเองหยุดวาดหวัง...
...ที่จดจำได้... มีเพียงการรอคอยอันยาวนานราวกับไม่มีวันสิ้นสุด...
...ที่จดจำได้... มีเพียงความเหงาและความเศร้าซึ่งถูกเก็บงำซ่อนเร้น…
...ที่จดจำได้... ยังมีรอยยิ้มโง่ๆ ของพี่ชายที่คอยฉุดรั้งเขาให้กลับมา รอคอยอยู่ที่จุดๆ เดิมอีกครั้ง... และอีกครั้ง... ในทุกๆ ครั้งที่คิดตัดใจ
...ในที่สุดการรอคอยนั้นก็มาถึงจุดสิ้นสุดเสียที...
แปลกดี... ทั้งที่รอคอยมาตลอด แต่ถ้อยคำว่า ‘รัก’ จากปากเชษฐา กลับส่งผลกระทบต่อเขาเบาหวิวจนน่าผิดหวัง...
พอได้ขบคิดถึงเพิ่งเข้าใจ… หากมองย้อนกลับไป ทุกสัมผัสและการกระทำของเชษฐา ไม่ใช่ว่าสะท้อนความรู้สึกของเจ้าตัวออกมาจนหมดสิ้นแล้วหรือ… คำบอกรักอันหนักแน่นประดุจเสียงสะท้อนไม่รู้จบยามกู่ก้องร้องตะโกนอยู่ในหุบผา... เป็นเสียงร้องตะโกนอันเงียบงัน แต่กึกก้องชัดเจนเสียยิ่งกว่าคำยืนยันในยามนี้ไม่รู้กี่ร้อยกี่ล้านเท่า ที่ผ่านมาแค่เพียงเขาเปิดใจ ย่อมต้องได้ยินมันชัดเจนเพียงพอแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย... แล้วคำยืนยันแหบพร่าจากปากเชษฐาเมื่อครู่ ยังจะเหลืออะไรให้เขาประหลาดใจได้อีก
ดวงตาของโลกิไหววูบเมื่อย้อนนึกกลับมาที่เขาเอง
...แล้วคำบอกรักจากเทพจอมเจ้าเล่ห์ ผู้มีแต่ความลวงหลอกเช่นเขาเล่า... เชษฐาต่างสายเลือดผู้ที่เขาแอบมีใจ และหลงใหลจนกลายเป็นความอิจฉาจะเคยระแคะระคายบ้างไหม... เคยเงี่ยหูสดับฟังมันบ้างหรือเปล่า... โลกิกลับไม่มีความกล้าจะคาดเดา...
“...ข้าเกลียดท่าน...”
ในจังหวะที่คนด้านบนผละริมฝีปากออกห่าง เพื่อเปลี่ยนเป้าหมายเป็นซุกไซร้ซอกคอขาวระหง คำตอบของคนใต้ร่างกลับดังขึ้นอย่างแผ่วเบาและสั่นเครือ
เทพแห่งสายฟ้าพลันชะงักหยุด แรงกดกุมข้อมือทั้งสองข้างของอนุชาคลายออกช้าๆ แล้วเลื่อนวางบนที่นอนคร่อมเหนือบ่าทั้งสองข้างของอีกฝ่ายแทน ยังไม่ทันดันกายถอยห่าง สองแขนซึ่งเพิ่งได้รับอิสระของผู้เป็นอนุชาก็ยกคล้องคอ รั้งร่างของคนด้านบนให้ทาบทับกลับลงมาสู่อ้อมกอดแนบแน่น
เทพแห่งคำลวงหลับตาลง แล้วกดปลายจมูกตรงกกหูคนในอ้อมกอด กลีบปากแดงช้ำพึมพำยืนยันคำเดิมที่ข้างหู
“ข้าเกลียดท่าน... ท่านพี่... เกลียด... มากที่สุด...”
“ข้ารู้โลกิ... ข้ารู้...”
เสียงถอนหายใจแผ่วเบาปะปนมาในคำปลอบโยน
“ข้าก็รักเจ้า... รักมากที่สุด”
โลกิ ลอเฟย์ซัน กดใบหน้าซุกเข้าหาบ่ากว้างคนด้านบน น้ำตาอุ่นยังคงไหลไม่หยุดอย่างเงียบงัน ทำเอาผ้าพันแผลบนร่างกายของอีกคนเปียกชุ่มอย่างช่วยไม่ได้ แต่ความว้าวุ่นในใจกลับค่อยๆ จางหายไป ไม่ต่างจากหมอกบางสูญสลายไปในแสงแดดอ่อนของยามเช้า ภาพเบื้องหน้าที่สุดแล้วจากเลือนรางก็ค่อยๆ ก่อเกิดเป็นรูปร่างชัดเจน...
“ข้าทำเจ้าร้องไห้อีกแล้ว...”
เสียงทุ้มต่ำยามกระซิบปลอบที่ข้างหู ฟังดูคล้ายทอดถอนใจ ความรู้สึกผิดยังทิ้งร่องรอยของมันไว้แจ่มชัดในน้ำเสียง จนคนฟังรู้สึกได้
...แค่เป็นพี่ชายที่ดีเขายังเป็นไม่ได้ นับประสาอะไรจะเป็น ‘ทุกสิ่งทุกอย่าง’ ให้อีกคน…
นั่นคือความคิดในหัวที่บุตรแห่งโอดินก้าวข้ามมันไม่ได้มาโดยตลอด
“...ข้ามันเป็นพี่ชายที่แย่มากใช่ไหม?...”
คำถามซึ่งไม่ได้คาดหวังคำตอบ... แต่ผู้ฟังกลับเลือกที่จะตอบ
“ท่านเป็นมากกว่าพี่ชาย... มาตลอด...”
โลกิแทรกขัดขึ้นด้วยเสียงอู้อี้ เพียงเพราะขณะพูดเจ้าตัวเพิ่งจะมุดหนีก้มหน้าซุกเข้าหาแผ่นอกเชษฐาราวกับหาที่กำบัง
“และใช่ พี่ข้า... ท่านมันแย่... เกือบทุกเรื่อง...”
เขินก็ส่วนเขิน แต่ไม่วายขอตบท้ายแถมให้อีกประโยค
“…..”
เทพเจ้าแห่งสายฟ้าได้แต่ก้มมองอนุชาตาปริบๆ อึ้งไปพักหนึ่ง ดวงตาสีฟ้าพลันทอแววอ่อน ใต้ไรหนวดถึงขั้นปรากฏรอยยิ้ม
“เฮ้... โลกิ...”
เรียกเสร็จก็ไม่ยอมพูดอะไรต่อ บีบให้คนถูกเรียกซึ่งเอาแต่ซ่อนใบหน้าเห่อร้อน ต้องยอมอ่อนข้อค่อยๆ โผล่หน้ากลับขึ้นมามองตอบ
“…เป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้ข้า... โลกิ... เหมือนที่เจ้าเป็นมาตลอด...”
ประโยคคำสั่งภายใต้น้ำเสียงทุ้มต่ำน่าฟัง แม้จริงจังในความหมาย แต่กลับฟังดูออดอ้อนจนคล้ายกึ่งคำถามกึ่งคำร้องขอ
เจ้าของใบหน้าขาวซึ่งเรื่อสีจัดจนแดงชัดในยามนี้ ส่งเสียงจึ๊ปากคล้ายนึกได้ว่าตนเพิ่งเสียรู้ ถูกเชษฐาหลอกให้เงยหน้าเพื่อมาเขินอายให้อีกฝ่ายได้เห็นชัดๆ ตั้งใจเตรียมจะมุดหนีกลับลงไปตั้งหลักอีกครั้ง คราวนี้กลับถูกเชษฐาช่วงชิงจังหวะ ก้มไปจูบช้อนริมฝีปากจนศีรษะเขาต้องเงยแหงนไปด้านหลัง สุดท้ายหนีไม่พ้นถูกพากลับไปกดจูบเสียจมหมอนอีกครั้ง...
ก่อนในหัวจะขาวโพลนจนไม่อาจคิดสิ่งใดได้อีก เทพแห่งคำลวงเพียงกระซิบตอบผู้ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชาย...
“...ให้ทุกสิ่งทุกอย่างของข้า... ได้เป็นของท่านที... พี่ชาย...”
--- ℑ ---
...มีหลายเรื่องทีเดียว ที่พี่ชายของเขาไม่ได้แย่… และ ‘รสจูบ’ ของธอร์ก็เป็นหนึ่งในเรื่องเหล่านั้น...
ขณะที่บุตรแห่งลอเฟย์กำลังมัวเมาอยู่กับความหวานล้ำราวเอนกายลงบนปุยเมฆ วินาทีต่อมาเขากลับถูกอีกฝ่ายฉุดลากอารมณ์ให้ลุกโหมมอดไหม้ ราวตกกลับลงไปในเปลวเพลิงแห่งเซอร์เทอร์… ความเร่าร้อนทรมานจนแทบขาดอากาศหายใจ จากนั้นค่อยถูกช้อนรับจังหวะไว้อย่างอ่อนหวานอีกครั้ง
เจ้าชายจากโยธันไฮม์หลงเคลิ้มดื่มด่ำไปกับรสจูบที่ว่า กว่าจะรู้ตัวเสื้อตัวนอกของเขาก็ถูกอีกฝ่ายปลดเปลื้องโยนลงไปกองที่พื้นแล้ว
ดูท่าว่ามือหยาบกร้านของเชษฐาซึ่งเขาเคยดูแคลน ว่า ‘ดีแต่จับดาบถือค้อน’ เอาเข้าจริงก็คล่องแคล่วแผ่วเบา และทำเวลาได้ดีไม่มีขาดตอนอยู่เหมือนกัน...
...เก่งนักนะเรื่องพรรณ์นี้น่ะ!!...
...แม้จะนึกหมั่นไส้ สุดท้ายได้แต่ยอมรับ ว่าสกิลปลดเปลื้องอาภรณ์ผู้อื่นของเชษฐา ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จัดได้ว่าไม่แย่...
นึกชมยังไม่ทันไร พอถึงเสื้อตัวใน เจ้าพี่ชายกลับเริ่มใช้สองมือฉีกกระชากมันออกจากร่างกายเขาอย่างหมดความอดทน
เห็นแบบนั้นโลกิก็อดขำพรืดออกมาไม่ได้
...สุดท้าย ธอร์ก็คือ ธอร์...
“เดี๋ยวเถอะ...”
เห็นอนุชาหลุดหัวเราะใส่ท่าทีของเขา เทพเจ้าสายฟ้าก็ขู่แกมขำไปด้วยกันกับอีกคนทันที แต่น้ำเสียงอ่อนโยนขนาดนั้นไฉนเลยจะห้ามปรามการหัวเราะสบประมาทจากอนุชาจอมแสบได้
อันที่จริง... คิดกำจัดเสื้อผ้าทั้งหมดของเขาทั้งคู่ เวทง่ายๆ แค่นี้ย่อมไม่เหลือบ่ากว่าแรงบุตรแห่งลอเฟย์ พอๆ กับตอนที่แกล้งเสกเสื้อแจ็คเก็ตเก่าจนเป็นรูให้เชษฐาใส่ในนิวยอร์คนั่นล่ะ... แต่โลกิก็ไม่คิดช่วย... เพราะยังไงซะการได้เห็นเชษฐาอึดอัดขัดใจเช่นตอนนี้ ก็ยังเป็นเรื่องสนุกเรื่องโปรดของเขาอยู่ดี...
ที่สำคัญเขาเองก็รู้ดี ว่าสาบเสื้อหนังแค่นี้ย่อมไม่ครณามือเทพเจ้าแห่งสายฟ้า
ในที่สุดเสื้อตัวในก็ถูกกระชากขาดจนแยกอ้า เผยให้เห็นแผ่นอกเนียนเรียบลื่นของคนใต้ร่างได้อย่างถนัดตา ลมหายใจร้อนของธอร์พลันชะงักขาดห้วง
ยอดอกสีหวามชูชันเด่นชัดจากอารมณ์ร้อนในกายของเขาทั้งคู่หลังนัวเนียกันมาแล้วพักใหญ่ ย่อมดึงดูดสายตาอีกฝ่ายจนน่าขัดเขิน
เจ้าของเรือนกายขาวสล้างพลันรีบพลิกกายท่อนบนตะแคงเพื่อหลบสายตา ไหล่บางห่อตัวคล้ายพยายามซุกซ่อนจุดอ่อนไหวตนให้พ้นจากสายตาโลมเลียของอีกฝ่าย
ธอร์กลับไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าอีก ร่างแกร่งโน้มกายกลับลงไปอีกครั้ง ริมฝีปากอุ่นก็ไล่ขบเม้มผิวเนื้ออ่อนตามลำคอและลาดไหล่ ทิ้งร่องรอยสีกุหลาบเรื่อยลงไปจนถึงแผ่นอกเปลือยเปล่า ท่ามกลางสัมผัสปรนเปรอเอาใจ ย่อมเรียกเสียงครางอ่อนไหวเบาหวิวได้โดยง่ายจากเจ้าของร่าง
ลิ้นสากลากวนรอบปุ่มอกของร่างบางจนชุ่มชื้น ยิ่งพอกระทบอากาศเย็นภายหลัง ก็ยิ่งตื่นตัวจนแข็งเป็นไต จากนั้นเจ้าพี่ชายก็เอาคืนเสียงหัวเราะขำเมื่อครู่ของอนุชา ด้วยการขบขยี้ปุ่มเล็กนั้นด้วยแนวฟัน เรียกเสียงหวีดสะท้านด้วยความตกใจทันที ความเสียวกระสันแล่นปราดไปจนร้อนทั่วท้องน้อยทำเอาเสียงครางดังตามมาไม่หยุด
โลกิรีบยกหลังมือตนข้างหนึ่งขึ้นกดปิดปากตัวเองไว้ มืออีกข้างกดลงบนบ่าเชษฐา เกร็งจิกจนข้อนิ้วขึ้นขาว เรือนร่างบางยังคงสะดุ้งเกือบสุดตัวอีกหลายครั้ง ในจังหวะการรุกอันช่ำชอง ที่อีกฝ่ายไม่ปล่อยโอกาสให้เขาทันได้ตั้งตัวสักนิด ร่างกายสั่นไหวระริกสลับไปกับการกระตุกเกร็งเบาๆ ตามจังหวะการหยอกเย้าอันเร่าร้อนของฝ่ายคุมเกม
เดี๋ยวก็จูบดูด เดี๋ยวก็ขบเม้ม ประเดี๋ยวถัดมายอดอกเขาก็ถูกคลึงเคล้น สลับไปมาซ้ายบ้างขวาบ้าง สับสนไปกับสัมผัสรุมเร้าแทบเป็นบ้า ในฐานะเทพจอมเจ้าเล่ห์เขายังตามไม่ทัน แล้วในฐานะมือใหม่แกล้งทำเป็นเชี่ยวก็ยิ่งรับมือไม่ไหว
ความปรารถนาในกายถูกโยนขึ้นลงราวล่องลอยบนยอดคลื่นยักษ์อันถาโถม เดี๋ยวก็ถูกม้วนลากจนจมดิ่งลงกลางมหาสมุทรกว้างใหญ่ เดี๋ยวก็ถูกโยนกลับขึ้นไปบนยอดคลื่นอีกครั้ง คิดจะพาตัวเองกลับขึ้นฝั่ง แม้ดิ้นรนจนสุดกำลัง กลับไม่เห็นแม้แต่โอกาส
โลกิกัดริมฝีปากตัวเองหนักจนลิ้มรสคาวปร่าในโพรงปาก ในหัวเริ่มว่างโล่ง และร่างกายเริ่มตอบสนองอีกฝ่ายตามสัญชาตญาณขึ้นเรื่อยๆ
“…ม..ไม่ไหว...อ๊า!”
เพิ่งจะรวบรวมสติร้องบอกอีกคนไปอย่างยากลำบาก ยอดอกข้างหนึ่งคล้ายถูกไฟช็อตจนร่างกระตุก แผ่นอกแอ่นโค้งก่อนจะทิ้งกายกลับลงไปบนที่นอนแรงๆ อย่างจงใจ เพื่อระบายความซ่านเสียว เหลือบตามองปลายนิ้วของเจ้าพี่ชายยังมีประกายแสงสีฟ้าวูบวาบเป็นสายให้เห็น หลักฐานคาตา เรียกเอาเสียงห้ามปรามประท้วงดังขึ้นแทบจะทันที
“อย่าเล่นบ้าๆ สิ!… อ๊า!!!”
ร้องห้ามไม่ทัน สัมผัสเสียวซ่านก็แล่นวาบจากจุดสัมผัสบนอกอีกข้างไปทั่วร่างอีกครั้ง จนร่างเล็กกระตุกไหวซ้ำๆ หนักขึ้น
เดิมทีโลกิก็ร้อนรุ่มจนอยู่ไม่สุขแล้ว ถูกปลุกเร้าหนักหน่วงเพียงนี้ สะโพกมนพลันกดเข้าหาหน้าขาของเชษฐาซึ่งทาบจ่อจนชิดเป้าเขาอยู่ จากนั้นก็เริ่มขยับสะโพกขึ้นลงเบียดถูหว่างขาตนกับเข่าของอีกคนเพื่อระบายความใคร่อย่างไร้ยางอายแล้ว
แม้สายฟ้าเล็กๆ นั่นจะเพิ่มความเสียวกระสันหนักขึ้น แต่ความเจ็บจี๊ดนั่นกลับกระชากรั้งโลกิไม่ให้เขาถึงจุดสูงสุดได้โดยง่ายเช่นกัน
ทุกสัมผัสอันเกินคาดเดาจากพี่ชาย คล้ายหลอกล่อพาเขาไปยืนจ่ออยู่ริมผา และพร้อมจะทิ้งเขาให้ร่วงหล่นลงมาหลายต่อหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายรู้งานเกินไปจริงๆ เมื่อไหร่เขาใกล้จะถึงจุดก็มักถูกอีกคนกลั่นแกล้งดึงรั้งให้กลับไปยืนหมิ่นเหม่บนเส้นของความอดทนอีกครั้ง... และอีกครั้ง...
…เจ้า... คนใจร้าย…
โลกิได้แต่นึกด่าอีกฝ่ายในใจ เพราะในตอนนี้เขาถึงกับหอบกระเส่าจนพูดแทบไม่เป็นคำแล้ว เทพแห่งคำลวงหันหน้าหนีพยายามกดหน้าซุกลงกับหมอน คลาดสายตาครู่เดียวร่างกายกลับถูกมือใหญ่คว้าเรียวขาจับพลิกให้นอนคว่ำหน้าลง
“!!!!”
เสื้อซึ่งยังสวมใส่อยู่อย่างหลุดลุ่ย ถูกกระชากลงไปกองแถวข้อมือ ถูกเชษฐาจับบิดหมุนไม่กี่ที เสื้อนั่นก็กลายเป็นพันธนาการมัดข้อมือทั้งสองข้างของเขาไพล่ติดกันไว้ระดับเอวด้านหลังแล้ว
มือกร้านล้วงเข้ามาช้อนยกกลางลำตัวตรงท้องน้อยร่างบางให้ชูสะโพกสูง กลับมาคุกเข่าทั้งสองข้างหันหลังให้เจ้าของมือ แต่เพราะแขนถูกล็อคไพล่ด้านหลัง ไม่มีมือยันรับน้ำหนัก โลกิจึงทำได้เพียงเบี่ยงกายใช้ไหล่ข้างหนึ่งของตนเป็นจุดรับน้ำหนักไว้
สะโพกมนพอถูกจับยกสูง เป้าหมายต่อไปย่อมเป็นกางเกงหนัง ซึ่งไม่ช้าก็ถูกกระชากพรวดเดียวหลุดพ้นสะโพกขาวลงไปกองตรงระดับเข่าทั้งสองข้าง ดึงอีกไม่กี่ครั้งก็ปลิวไปตกบนพื้นอย่างหมดความสำคัญทันที
โลกิพยายามเหลียวมองด้านหลังตน แต่อีกคนไม่อยู่ในมุมที่เขาสามารถเห็นใบหน้าได้ชัดอีก มีเพียงสัมผัสที่นาบลงมาโอบกอดจากทางด้านหลังเท่านั้นที่เขารู้สึกได้
“อื้ออ!!... ธอร์...”
ร่างเล็กเริ่มสั่นระริกอย่างหวาดหวั่นเมื่อความใหญ่โตของเชษฐาค่อยๆ ฝังเข้ามาในร่องสะโพกแม้จะแค่ถูไถไปมาเท่านั้นก็ตาม
มือหยาบใหญ่ของธอร์เริ่มอ้อมมากอบรูดปลุกเร้าส่วนอ่อนไหวของเขาจนชุ่มเยิ้ม เมือกใสจากส่วนปลายเคลือบลงบนมือจนเกิดเสียงเฉอะแฉะน่าอาย อีกคนก็ยังไม่ยอมหยุด
“ท่านพี่... ข้า... ไม่ไหว...”
เสียงพร่าร่ำร้องวิงวอน กลับได้รับการสนองตอบอย่างไร้ปรานี นิ้วมือของพี่ชายบีบขยี้ตรงส่วนปลายแกนกายเขา ใช้ความเจ็บเรียกรั้งสติไว้อีกครั้ง
“อื้ออ! ธอร์...อึ่ก! เจ็บ...”
ร่างบางในอ้อมกอดบิดเร่าหนีมือ และสั่นเทิ้มจนน่าสงสาร น้ำตาร่วงเผาะจนหมอนเริ่มเปียกชุ่ม
“ชี่ยยย... อยู่กับพี่ก่อนนะคนดี... อย่าเพิ่งถึง...”
โลกิเพิ่งได้ยินเสียงอีกคน ค่อยรู้ว่ามันสั่นและพร่าแหบไม่ต่างกับตน ในอกพลันรู้สึกอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เมื่อได้รู้ว่าธอร์เองก็กำลังอดทน เพื่อรอให้ร่างกายเขาพร้อมเช่นกัน
ปากทางลับยามนี้ถูกคนข้างหลังนวดกดจนเริ่มนิ่ม จากนั้นนิ้วยาวเคลือบด้วยของเหลวใสจากแกนกายเขาก็ถูกสอดล่วงเข้าไปด้านในอย่างช้าๆ
ด้วยความไม่เคย เพียงแค่นิ้วก็ชวนให้เจ็บเกร็งขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้โลกิกลับทำได้แค่ส่งเสียงครางฮือไม่เป็นคำไม่อาจต่อต้านได้อีก
ธอร์งอนิ้ว นวดกดผนังนุ่มด้านใน และละเลงเมือกใสหล่อลื่นให้อีกคนอย่างเบามือ แต่ความรู้สึกตอดรัดบนนิ้ว ยิ่งสัมผัสยิ่งทำให้เขาร้อนรุ่มจนแทบคลั่ง เขาขยับนิ้วเข้าออกเร็วขึ้นปลดปล่อยความปรารถนาของตนบ้าง ทดแทนความจริงที่ว่าขนาดความเป็นชายของเขาใหญ่โตเกินไป เกินกว่าจะใจร้ายฝืนยัดเยียดมันเข้าในกายอนุชา ในเมื่อช่องทางรักอีกคนแน่นคับกระทั่งนิ้วมือเขายังยากจะขยับ
ธอร์พอเดาได้เลาๆ ว่าบนดาวซาคาร์อนุชาตนกับเจ้าแก่คางฟ้าหน้าตาเจ้าเล่ห์นั่นย่อมมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา จึงไม่เคยคาดคิดว่าช่องทางรักของอนุชากลับให้ความรู้สึกราวไม่เคยถูกล่วงล้ำ ร่างกายโลกิอ่อนไหวง่ายจนน่าใจหาย เขาได้แต่เตือนตัวเองไม่ให้เผลอใจร้อน เพราะลำพังแค่นิ้วอีกคนยังจะไม่ไหว ไม่อยากนึกถึงตอนต้องรับทั้งหมดของเขาไว้ ไม่รู้อีกคนจะทุลักทุเลขนาดไหน
“ข..ข้างใน... ธอร์... ได้โปรด... ”
สะโพกเล็กที่เมื่อครู่ยังพยายามหนี บัดนี้เจ้าตัวกลับเริ่มกระแทกมันเข้าหานิ้วเขาอย่างลืมเจ็บจนมิดโคน บ่งบอกถึงความต้องการอันท่วมท้นเกินการควบคุม
บุตรแห่งโอดินกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แม้จะบอกตัวเองให้ยั้งมือ แต่ภาพยั่วยวนตรงหน้าทำเอาความเป็นชายของเขาพองขยายจนคัดแข็งมาพักใหญ่แล้ว
ในเมื่ออนุชาร้องขอเขาก็สุดจะต้านทานไหว ธอร์ตัดสินใจถอนนิ้วออกลูบของเหลวเคลือบความรุ่มร้อนของตน แล้วจรดส่วนปลายที่ปากทางรักด้านหลังของอนุชา สองมือคว้ายึดสะโพกเล็กไว้ และเริ่มแนบร่างดันส่วนเขื่องแข็งชำแรกเข้าไปในกายอีกคนทีละนิดอย่างทุลักทุเลตามคาด เสียงครางแผ่วกระเส่าเมื่อครู่พลันกลายเป็นเสียงหวีดสะท้าน...
สอดใส่เข้าไปได้แค่ส่วนหัว ร่างเล็กก็เกร็งขมึงจนไปต่อไม่ได้ ธอร์ได้แต่จูบปลอบประโลมลงบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าของอีกฝ่าย มือข้างหนึ่งอ้อมไปช่วยปรนเปรอแก่นกายร้อนของอีกคน เขาทั้งเรียกทั้งปลอบ พยายามให้อีกคนผ่อนคลายลง กระนั้นความลึกที่สอดใส่เข้าไปได้แต่ละช่วงก็ยังดูฝืดฝืนเต็มกลืนอยู่ดี
โลกิเคยสัมผัสแก่นใหญ่ของเชษฐา แต่ก็ด้วยฝ่ามือ ไม่ก็ซอกขา คนไม่เคยเช่นเขาไหนเลยล่วงรู้ความแตกต่างยามต้องรับทั้งหมดของอีกฝ่ายไว้ในกายตน ความรู้สึกที่ได้รับในตอนนี้ย่อมเกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้มากมายนัก
ร่างกายเร่าร้อนลุกไหม้ต้องการการเติมเต็ม แต่แค่ช่วงแรกเขาก็เจ็บจนหวีดร้อง จากนั้นก็จุกจนพูดไม่ได้ร้องไม่ออก มือถูกพันธนาการไว้ คิดจะไขว่คว้ายึดสิ่งใดระบายความเสียวซ่านย่อมทำไม่ได้ ที่ทำได้มีเพียงเกร็งจิกเข้าหาฝ่ามือตนเองแน่น น้ำตาไหลพราก ขาก็สั่นจนแทบยันตัวไว้ไม่อยู่ แต่ก็ไม่กล้าขยับอีก ส่วนอ่อนไหวถูกเชษฐาปรนเปรอโลมเล้า พอเริ่มผ่อนคลายได้หน่อย ทางด้านหลังก็รุกลึกขึ้นอีก จนเขาทั้งเสียวทั้งเจ็บจนต้องกลับมาเกร็งฝืนอีกครั้ง กว่าจะรับทั้งหมดของอีกคนไว้ได้ คิดดูว่าสิ้นเปลืองแรงกายแรงใจแค่ไหน ในหัวบัดนี้ขาวโพลนคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
--- ℑ ---
สะโพกกลมกลึงร่อนส่ายรับแรงกระทั้นจนโยกไหวอย่างบ้าคลั่ง เสียงเนื้ออ่อนกระทบหน้าขาอีกคนดังหนักหน่วง ทุกจังหวะร่างแกร่งเบื้องหลังจงใจสาวสะโพกถอนดุ้นเนื้อร้อนออกเกือบสุดความยาว ก่อนกระแทกมันกลับเข้าไปมิดลำซ้ำๆ จนร่างกายฝ่ายรับอ่อนยวบตามแรงถาโถม หลายครั้งที่จุดกระสันภายใน ถูกกระทั้นใส่รุนแรงจนหลุดเสียงครางกระเส่า หลังเชษฐาจับจุดได้ ครั้งต่อๆ ไปก็ไม่เคยปล่อยให้เป้าหมายเหลือรอดหลีกพ้น
โลกิส่งเสียงหวีดหวานจนคอเริ่มแหบแห้ง ทนได้ไม่นานมัดกล้ามสวยบนเรือนร่างของอนุชาก็สั่นเทิ้มและตามมาด้วยอาการเกร็งกระตุกรุนแรง ในที่สุดร่างเล็กก็ปลดปล่อยของเหลวขุ่นขาวออกมาเป็นสายเปรอะทั่วที่นอน
ความสุขจนล้นอาบไล้ไปทั่วร่าง เบื้องหลังความทรมานยังมีความอ่อนหวานอันล้ำค่ารอคอยอยู่ เทพหนุ่มหลับตาลง รู้สึกตัวเบาหวิวจนเหมือนตกอยู่ในห้วงความฝัน ไม่รู้ตัวเลยว่าคนด้านหลังยังไม่มีทีท่าว่าจะถึงจุดสุดเสียด้วยซ้ำ
ธอร์ โอดินซัน รับรู้ได้ว่าอีกคนปลดปล่อยแล้ว จากช่องทางรักของอนุชาซึ่งตอดรัดเขาจนแน่น จึงยอมถอนแก่นกายตนออก จับร่างอ่อนปวกเปียกของอีกคนพลิกกลับมานอนหงายอีกครั้ง
โลกิอ้าปากหอบหายใจจนตัวโยน ใบหน้ายังคงแดงก่ำ ยามนี้ประสานสายตากับผู้เป็นเชษฐานิ่ง เห็นใบหน้าอีกคนแดงก่ำตามอารมณ์ร้อนในกายไม่ต่างกันก็ยิ้มหวานให้อย่างอ่อนล้า
ธอร์ก้มลงไปจูบอ่อนโยนปลุกปลอบคนรักเขาอย่างเอาใจ แต่แล้วข้อพับขาทั้งสองข้างของบุตรแห่งลอเฟย์ก็ถูกสองมือของอีกฝ่ายดันกดให้ลำตัวงอพับ และแยกอ้าจนเข่าเกือบชิดไหล่ทั้งสองข้าง สะโพกถูกรั้งยกสูง ปลีน่องถูกจับมาวางพาดลงลงบ่าด้านหน้า ปลายเท้าย่อมถูกบังคับให้ชี้ขึ้นด้านบนอย่างช่วยไม่ได้
โลกิยังเข้าใจว่าตนกำลังจะได้พัก กว่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายเตรียมทำอะไร ร่างใหญ่แข็งแกร่งของเชษฐาก็ทาบทับลงมาตรงหว่างกลาง และสอดใส่ท่อนเอ็นเขื่องแข็งกลับเข้าไปในกายเขาอีกครั้งแล้ว
“อึ่ก!! อื้อออ!!!”
โลกิสะดุ้งเฮือกจนแผ่นอกสะท้อนไหว มือกำขยุ้มผ้าปูใกล้ๆ ร่างกายซึ่งเพิ่งปลดปล่อยไป อ่อนไหวยิ่งกว่าเก่าในทุกจุดสัมผัส แต่ด้วยไม่เหลือสิ่งใดให้ปลดปล่อยซ้ำได้เร็วขนาดนั้น รอบนี้เลยสมใจพี่ชายที่โรมเร้าเข้าใส่ร่างเล็กได้อย่างดุดันถึงใจไม่ต้องคอยระวังเขาถึงก่อนอีก
--- ℑ ---
...อีกครั้ง... อีกครั้ง...
...อีกครั้ง...
ห้องพักในยานอวกาศลำหนึ่ง... ย่อมไม่มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และจุดอ้างอิงใดๆ บนเส้นขอบฟ้าให้เห็น ไหนเลยจะมีสิ่งใดใช้เป็นจุดสังเกตบ่งบอกเวลาได้ แต่ต่อให้มีก็ใช่ว่าเทพแอสการ์ดทั้งสองในห้องพักยามนี้จะสนใจ
สองเทพหนุ่มต่างไม่มีใครแน่ใจ ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าใดแล้ว... ทุกสิ่งรอบกายคล้ายศูนย์รวมของความบ้าคลั่งและสับสน... ร่างกายเบาหวิวราวกับไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไป ท่วงท่าน่าอายที่ไม่เคยคิดว่าจะกล้าทำเมื่ออยู่ต่อหน้าอีกฝ่าย บัดนี้ล้วนเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ
ความทรมานปะปนมากับความสุข สลับกันถาโถมเข้าใส่จนแยกขาดจากกันไม่ออก แม้ในยามที่รู้สึกอ่อนล้า ร่างกายก็ยังรุมร้อนไม่ยอมสงบ จุดเริ่มต้นอยู่ที่ใดเขาทั้งคู่ลืมมันไปแล้ว จุดปลายสิ้นสุดลงที่ใดย่อมไม่รู้และไม่อาจตอบได้เช่นกัน
ร่างกายเปลือยเปล่าดึงดูดหากัน และแลกสัมผัสรุนแรงเร่าร้อน ครอบครอง ตีตรา แสดงความเป็นเจ้าของกันและกันจนทั่วทุกตารางนิ้ว
บัดนี้บุตรแห่งลอเฟย์กำลังขยับขึ้นนั่งคร่อมตัก หันหน้าเข้าหาผู้เป็นเชษฐา สองแขนเรียวยาวไร้ซึ่งพันธนาการคล้องคออีกคนไว้หลวมๆ ยอดอกหวามถูกดูดกลืนจนแดงช้ำ ผิวกายเป็นรอยจ้ำกระจายไปทั่วตัวตามจุดอ่อนไหว ร่างบางถูกแขนแข็งแรงเต็มไปด้วยมัดกล้ามจับยกสะโพกขึ้น แล้วปล่อยทิ้งให้ร่วงลงกระแทกร่างใส่หน้าตักคนด้านล่าง และแก่นใหญ่ร้อนที่คาอยู่ทางด้านหลัง ก็ฉวยจังหวะเสือกแทงขึ้นรับร่างอีกคนจนสุดความยาวทุกครั้ง
ทั้งคู่พยายามคุมจังหวะอยู่พักใหญ่ จากนั้นมือใหญ่ก็เปลี่ยนไปจับสะโพกอีกคนให้ยกลอยค้างไว้อยู่เหนือตักเขาเล็กน้อย จากนั้นคนด้านล่างก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายเด้งสะโพกเสือกแทงเข้าใส่ร่างอีกฝ่ายระรัวจนโยกคลอนไปทั้งร่าง เสียงร้องอันเต็มไปด้วยอารมณ์ร่วมดังก้องห้อง ร่างเล็กผวาเข้ากอดคอคนตรงหน้า หลับตาปี๋ ไม่ช้าก็เชิดหน้าเงยแหงน นัยย์ตาเหม่อลอย เมื่อสัมผัสได้ถึงของเหลวร้อนซึ่งฉีดพุ่งเต็มทางรักเบื้องหลังของตน เขาเองก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้งแทบจะพร้อมกัน
โลกิเอนฟุบลงไปอิงบ่ากว้าง เปลือกตาซีดขาวปิดสนิทลง แผ่นอกยังหอบโยน แต่ลมหายใจรวยรินแผ่วเบาอย่างไม่เหลือแรงใดๆ
ธอร์ก้มหน้าลงไปหา จูบลงบนแก้มและเปลือกตาอีกฝ่าย จากนั้นช้อนร่างคนบนตักขึ้นเพื่อถอนกายตนออก ของเหลวขุ่นขาวไหลเยิ้มเปรอะหน้าขา แต่ธอร์ไม่ได้ใส่ใจ เขาวางอีกฝ่ายอย่างเบามือลงบนเตียง เห็นอีกคนยังคงหลับตานิ่ง บุตรแห่งโอดินจึงลุกหายเข้าห้องน้ำไป กลับออกมาอีกครั้งในมือมีผ้าชุบน้ำหมาด ลูบเช็ดทำความสะอาดร่างกายให้อีกฝ่ายเสร็จ ค่อยกลับขึ้นไปนอนเคียงข้าง รั้งตัวอีกคนเข้ามากกกอดอย่างรักใคร่หวงแหน
...ว่าที่กษัตริย์แห่งแอสการ์ดรู้ดีว่า เมื่อตื่นลืมตาขึ้นอีกครั้ง ชีวิตของพวกเขาย่อมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป... และเขากำลังตื่นเต้นไปกับการเริ่มต้นใหม่อย่างมีความหมายนี้... เคียงข้างไปกับคนในอ้อมกอด... ผู้เป็นที่รัก...
==TBC.==
ทั้งร้อนแรงทั้งละมุน คนนึงเชี่ยวชาญ อีกคนทำตัวเหมือนเชี่ยวชาญ ขุ่นพี่ใช้พลังไฟฟ้าได้เป็นประโยชน์ดีมาก
หื่นจนไม่รู้จะคอมเม็นต์ยังไงดีแล้ว อ่านแล้วเห็นภาพทุกช็อต แว๊~เขินนนน.....ชอบ 55555 /////
รอต่อนะคะ >////<