คำเตือน ⚠️ความเรียงนี้เป็นความรู้สึกคนผู้หญิงอายุ 23 คนหนึ่งที่เขียนขึ้นมาเพื่อช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับเเละความคิดฟุ้งซ่านไม่มีการกลั่นกรองใดๆทั้งภาษาเเละความเนื้อหา อาจจะทำให้คนที่มาอ่านงงงวยเเละไม่เข้าใจได้ ซึ่งคุณสามารถกดออกได้ทุกเมื่อไม่ต้องทนอ่านให้รำคาญใจ
.
.
นอนไม่หลับ ข้างนอกฝนตก วันนี้ครึ่งวันเช้าไปสร้างความทรงจำกับเพื่อนโดยการถ่ายรูปชุดครุยทั้งๆที่ตัวเองจบปริยญาตรีมาจะเกือบสองปีเเล้ว เเต่ด้วยความที่ยังไม่ได้รับปริญญาสักที กอปรกับยังไม่มีรูปกับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันทำให้เราได้เจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมาซักพักใหญ่
เมื่อเรามาพูดคุยกันก็ยิ่งทำให้เราหดหู่ เเละ มีเเรงบันดาลใจ เป็นความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไป เพราะเราให้ฐานะของคนจบปริญญาโทที่ยังหางานไม่ได้เลย กับเรื่องเล่าของเพื่อนๆที่ได้งานที่นั่นที่นู่น ทำให้เราได้รู้สึกว่าเราได้หยุดอยู่กับที่ในขณะที่คนอื่นกำลังเดินไปข้างหน้า เราผู้ที่เมื่อถึงเวลาที่เขาเรียกสัมภาษณ์งานจะไม่เรียกเรากลับมาอีกเลยเเม้เเต่ครั้งเดียว เราที่ส่งเรซูเม่ไปเป็นยี่สิบสามสิบที่ เเต่มีตอบกับมาเเค่สองที่ เเละสองที่นั่นเมื่อเรียกเรามาสัมภาษณ์ก็ไม่ได้อยู่ดี
มันเป็นปัญหาของคนจบใหญ่ทุกคนในช่วงโควิดหรือเปล่าก็ไม่รู้ มัวเเต่ฟุ่งซ่านจินตนาการถึง ถ้าเรารู้จักคนนี้ ถ้าพ่อเเม่รู้จักคนนั้น ถ้าเราเฟรนลี่กว่านี้หาคอนเนคชั่นตอนเรียน เข้างานสัมนานู่นนี่นั่น เราก็อาจจะหางานได้ง่ายขึ้น เเต่ความเป็นจริงเเล้วที่มันเป็นอยู่ตอนนี้เพราะทางเลือกของเราเองการกระทำ ลักษณะนิสัย จะให้เเก้ก็ไม่รู้จะเเก้อย่างไร เราเหมือนอยู่เเต่บ้านไม่มีสังคมใหม่ๆให้พัฒนา ทุกอย่างต้องอาศัยความพยายาม อยากอยู่ในสังคมเป็นคนธรรมดาก็ต้องให้คนมาvalidated
ไม่อยากเป็นภาระของพ่อเเม่ อยากมีอิสระทางการเงิน อยากมีธุรกิจที่เราชอบเเละไปได้เรื่อยๆเเต่ไม่ชอบการริเริ่มไม่มีคนช่วยทำเป็นกำลังใจ บางทีเราอาจจะเป็นผลผลิตของความผิดพลาดของสังคม ครอบครัว การศึกษาระดับมัธยมทำให้เราเป็นผู้ตามทั้งๆที่ตอนนั้นเป็นวัยที่มีอิทธิพลทางความคิดหล่อหลอมให้เราเป็นเราในปัจจุบันมากที่สุด การเลี้ยงดูของพ่อเเม่ที่ให้อิสระเราทุกอย่างไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามซึ่งเป็นเหมือนข้อดี เเต่ก็มีกรอบบางๆเหมือนพลาสติกใสครอบไว้ภายในจิตใจบอกเราว่าไม่ว่าเราจะคิดไกล อิสระ เเค่ไหนเราก็ไม่สามารถทำมันได้หรอก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in