มือหนาที่ถือรีโมทอยู่ลดลงต่ำทันทีที่กดปิดมันเสร็จเรียบร้อย ธอร์วางมันลงที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟาที่เขานั่งอยู่ สิ่งประดิษฐ์ที่ชาวมิดการ์ดเรียกว่า
แผดเสียงรายงานเกี่ยวกับสภาพอากาศในช่วงสัปดาห์นี้ เทพแห่งสายฟ้าสาบานได้ว่าอากาศแปรปรวนพวกนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากเขา
แต่เชื่อเถอะ ว่าบางคนข้างนอกนั่นอาจคิดว่าเป็นฝีมือเขาอย่างแน่นอน เขาอาจจะทำให้มันเกิดขึ้น เพียงเพราะว่ากำลังไม่พอใจกับอะไรบางอย่าง
ตอนนี้เขามีความสุขมาก ธอร์เหลือบมองขึ้นไปยังชั้นสองของเพนท์เฮ้าส์ ที่ๆชายาของเขายังคงนอนหลับอุตุอยู่ในห้อง
ชายาแสนพยศที่จดจำสวามีตนเองไม่ได้
นึกแล้วก็อยากจะรวบหัวรวบหางเอาซะตอนที่ยังไม่รู้สึกตัวแบบนี้ซะเลย เขาเบื่อเต็มทีกับการที่ต้องอยู่ในที่ๆไม่คุ้นเคยแบบนี้ ธอร์อาจจะพอรู้จักการสื่อสารในแบบภาษาของชาวมิดการ์ดบ้าง แต่ธอร์ไม่ชอบการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่สักเท่าไหร่
ที่นี่ทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง
#MANHATTAN♡
ที่ชั้นสองของตัวบ้าน เปลือกตาบางของคนที่หลับไหลไปทั้งคืนเริ่มขยับเล็กน้อย ก่อนที่ทอมจะค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ราวกับว่าเขายังปรับโฟกัสได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก
ทอมกระพริบตาถี่ๆอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะยกมือเรียวของตัวเองขึ้นมาช่วยขยี้ ด้วยความที่เขาเข้าใจว่ามันอาจจะทำให้อาการมัวขี้ตาที่เป็นอยู่ ดีขึ้น
แต่ทว่าเขาดันคิดผิด
"โอ้! ให้ตาย เจ็บตาชะมัด" เขาบ่นพลางหยุดขยี้มัน
ทอมฉุกคิดขึ้นได้ว่าเขาควรที่จะสำรวจดูรอบๆห้องที่เขานอนอยู่นี้ เขาได้ค้นพบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนของเขาที่เขาเคยนอนอยู่ทุกคืน
แต่แล้วที่นี่มันคือที่ไหนกันล่ะ ?
คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของทอม
"หรือว่า?"
โดยที่ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ สัญชาตญาณของทอมบอกกับเขาว่าให้สำรวจดูร่างกายตัวเองที่อยู่ภายใต้ผ้านวมผืนหนานี้ก่อนเป็นอันดับแรก เขาเลิกผ้าห่มขึ้นก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ขอบคุณพระเจ้า เขายังใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้น ทอมไม่อยากจะรู้สึกสมเพชตัวเองไปมากกว่านี้ ที่ทำเหมือนกับเด็กสาวแรกรุ่นที่ตื่นขึ้นมาในบ้านเพื่อนชายและสงสัยว่าอาจเผลอมีอะไรกัน
และในวินาทีต่อมาทอมก็เกิดมีคำถามใหม่ผุดขึ้นมาในหัว นี่มันไม่ใช่ชุดนอนของเขานี่! ใช่มั้ย?!
สมองประมวณผลอย่างรวดเร็วที่สุด เท่าที่คนฉลาดเป็นอันดับต้นๆของชั้นเรียนตอนสมัยอยู่ไฮสคูลจะทำได้
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!" ทอมสบถก่อนจะรีบลุกออกจากเตียง เขารีบวิ่งไปยังประตูไม้สีขาวสีเดียวกันกับผนังรอบห้อง ก่อนที่มือเรียวจะหมุนลูกบิดประตูและเหวี่ยงมันออกอย่างไม่ลังเล
แต่เขาดันจะมาลังเลก็ตรงที่
ถ้าเขาลงไป เขาจะได้เจอกับใคร...
คริส เฮมส์เวิร์ธ , หมอนั่นเหรอ?
!!!!
"หวัดดี , คุณดูดีขึ้นกว่าเมื่อคืนเยอะเลยนะ" คำทักทายโง่ๆประโยคแรกหลุดออกจากปากธอร์ ในคราบของคริส เฮมส์เวิร์ธ ทันทีที่ทอมก้าวเท้าลงมายังบันไดขั้นสุดท้าย
ทอมยังคงดูตื่นๆที่เจอเขานั่งอยู่ที่โซฟา คริสส่งยิ้มกว้างให้ร่างบาง สาบานได้ว่าไม่ได้จะกวนประสาทอีกคน เขาเพียงแค่ยิ้มทักทายในยามเช้าเท่านั้น อย่างตอนที่เขากับชายายังอยู่ที่แอสการ์ด เราทำกันแบบนี้อยู่บ่อยๆ ส่งรอยยิ้มโง่ๆของเขาให้กับโลกิ และได้รับรอยยิ้มสวยหวานของชายากลับมาเป็นรางวัลชีวิตของวันนั้นๆ
"คุณ!" พอเริ่มตั้งสติได้ทอมจึงตะโกนเสียงดังก่อนจะยืนตัวแข็งทื่อ
ทอมตัวสั่นเพราะความโมโห เขามองมาที่ชายหนุ่มที่ชื่อว่า คริส เฮมส์เวิร์ธ
ทอมชี้หน้าเขา
"บอกผมสิ ว่าคุณไม่ได้ทำอะไรบ้าๆกับร่างกายของผม!? และชุดนี่คุณก็เปลี่ยนมันด้วยใช่มั้ย! คุณมายุ่งวุ่นวายอะไรกับผม!"
"โอ้ว , ใจเย็นนะคุณ ทีละคำถามก็ได้" คริสยกมือขึ้นกึ่งห้ามกึ่งปลอบให้คนตัวเล็กเย็นลง
"สาบานได้ว่าผมแค่เปลี่ยนชุดให้คุณ ผมไม่ได้ทำอะไรคุณมากกว่านั้นเลย , จริงๆ" เขาว่า
ทอมมองอย่างชั่งใจว่าควรเชื่อคนตรงหน้าดีมั้ย
"เชื่อเถอะน่า , ผมไม่ชอบทำอะไรกับคนที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่หรอกนะ เพราะว่ามันไม่ค่อยจะได้อารมณ์เท่าไหร่" คริสพูด พร้อมกับให้เหตุผล
ทอมมีท่าทีแหยงๆกับคำพูดของเขา
"แล้วคำถามที่ว่าผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงล่ะ?! และที่นี่คือบ้านของคุณใช่มั้ย?"
ทอมลืมสังเกตรอบๆบ้านหลังนี้
ที่ชั้นล่างมีการตกแต่งสไตล์เรียบง่าย เน้นเรียบหรูและดูกว้างขวาง เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในการตกแต่งดูมีราคาและมีโทนสีที่เข้ากันเหมือนกันกับชั้นสอง นั่นแปลว่าหมอนี่ไม่ใช่เล่นๆ ที่แท้ก็บ้านรวย
"เงียบแบบนี้ แปลว่ากำลังคิดอยู่ใช่มั้ยครับ ว่าผมหล่อและรวยมากๆ , ผมไม่ปฎิเสธหรอกนะถ้าหากว่าเป็นเรื่องนั้น ว่าแต่คุณ... ชอบบ้านหลังนี้หรือเปล่า?"
พูดเองเออเองตามสไตล์ของธอร์ ซึ่งไม่ใช่สไตล์ของคริส เขาเผลอหลุดความเด๋อออกไปซะจนทอมจับสังเกตได้
"คุณดูแปลกๆนะครับ , ตกลงแล้วคุณมีกี่บุคคลิกกันแน่คุณคริส เฮมส์เวิร์ธ เมื่อคืนคุณดูพูดน้อย แต่วันนี้คุณคุยเยอะแปลกๆ" ทอมเลิกคิ้ว
อารมณ์หงุดหงิดก่อนหน้านี้ของทอมหายไปแทนที่ด้วยความสงสัยในตัวตนของผู้ชายคนนี้
"ผมก็แค่ไม่อยากให้คนที่เริ่มสนิทกันแล้วรู้สึกอึดอัด คุณมาพักบ้านผม ผมควรอัธยาศัยดีสักหน่อย , จริงมั้ยล่ะครับ?" เขาพูดพร้อมกับขยิบตาให้ร่างบาง
"เริ่มสนิทเหรอ?" ทอมทวนคำพลางกรอกตาไปมา "ช่างเถอะ , เมื่อคืนผมเป็นอะไรครับ จำได้ว่าผมถามว่าคุณเป็นใครกันแน่ คุณยังไม่ตอบผม แล้วจากนั้นก็..."
"เกือบลงไปกองรวมกับขยะที่พื้น ในตรอกนั้น" คริสว่า "คุณอาจจะพักผ่อนน้อยเพราะทำงานหนัก"
เขาให้เหตุผลสมมติฐาน ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟาที่เขานั่งมานานจนมันยวบ
"ก็ถ้านั่น คือเรื่องจริงล่ะก็ ผมก็ขอบคุณมากนะครับ" ทอมโค้งให้กับคริสก่อนจะพูดประโยคต่อมาที่ทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกไม่พอใจ
"งั้นผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ คุณท่านฮิดเดิลสตันคงกังวลแน่ๆเรื่องที่ผมไม่กลับบ้าน" เขาว่าก่อนจะหันหลังเดินไปทางประตูใหญ่
หมับ
"เฮ้ เฮ้!!"
ทอมร้องเสียงดังทันทีที่เอวเล็กของตัวเองถูกแขนแกร่งเกี่ยวรัดไว้
ท่าทางล่อแหลมแบบนี้ ทอมคิดว่ามันไม่ต่างอะไรกับการที่เขากำลังถูกอีกคนสวมกอดจากทางด้านหลัง
"คุณมากอดผมทำไมเนี่ย!" ร่างเล็กว่าพลางดิ้นขลุกขลักให้พ้นจากพันธนาการของชายหนุ่มร่างยักษ์
"โทษที , ผมแค่จะรั้งคุณเอาไว้ ผมจะปล่อยคุณก็ได้แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าเราจะคุยกันจบ ไม่สิ... จนกว่าผมจะพูดจบ"
คริสปล่อยเอวเล็กให้เป็นอิสระ ก่อนจะจับร่างบอบบางให้หมุนมาเผชิญหน้ากับตัวเอง
ทอมไม่ได้ขัดขืน
"ไม่ดิ้นแล้วเหรอ?" คริสถาม เขามีสีหน้าแปลกใจที่อีกคนยอมให้เขาจับหมุน หันหน้ามาคุยกันง่ายๆ ดูแล้วไม่เหมือนทอม ฮิดเดิลสตันที่เขารู้จักเลย
"ไม่ครับ , รีบว่าธุระของคุณมาเถอะ ผมจะได้รีบกลับบ้านสักที" ทอมตอบพลางยักไหล่เล็กน้อย
'อยากไปจากข้ามากขนาดนั้นเชียวหรือ? โลกิ'
ทอมดูออกว่าคริสกำลังสับสนต่อตัวเขา เหมือนกันกับที่เขาก็สับสนในบุคคลิคของคนตรงหน้า
เขาไม่ได้อยากจะยอมให้อีกคนง่ายๆหรอก เขาแค่รู้สึกเหนื่อยที่จะต้องดิ้นให้หลุดพ้นจากชายคนนี้ คนที่เรี่ยวแรงอย่างกับโคถึก! เขาจะรอให้คริสพูดให้จบแล้วจากนั้นจะขอตัวกลับบ้านทันที เขานึกเป็นห่วงคุณฮิดเดิลสตันทั้งสอง ตอนนี้เมื่อไม่มีเขาพวกท่านจึงต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง
ปกติแล้วคนทั่วไปอาจไม่มีใครรู้ ว่าทำไมเขาถึงต้องเลือกทำงานตอนกลางคืน แทนที่จะไปหางานอื่นที่เป็นตอนกลางวันทำ
ทอมแค่อยากใช้เวลาว่างในช่วงกลางวันดูแลสองสามีภรรยาฮิดเดิลสตันเท่านั้น เขาจะมีเวลาดูแลทั้งสองได้อย่างเต็มที่จนกระทั่งถึงตอนค่ำ ส่งพวกท่านเข้านอน เขาถึงจะออกไปทำงานของเขาที่ไนท์คลับได้อย่างสบายใจ
ใครกันจะอยากทำงานที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อการถูกหิ้วไปเป็นคู่นอนของเหล่านักท่องราตรีพวกนั้นกัน ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะเหตุผลสำคัญจริงๆ
"จากการที่ผมตามดูคุณมากสักระยะ (เขาโกหก เขาตามดูทอมมาทั้งชีวิตต่างหาก) คุณดูเป็นห่วงพ่อกับแม่บุญธรรมของคุณมาก" คริสเริ่มเปิดประเด็น
"ใช่ พวกเขาสำคัญต่อผม"
"แล้วถ้าหากว่า ผมมีวิธีทำให้บริษัทของตระกูลคุณกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง , คุณจะว่ายังไงครับ?"
"คุณพูดเหมือนว่าโอกาสแบบนั้นมันมีกันได้ง่ายๆ" ทอมว่า
ดูเหมือนว่าคำถามของร่างสูงตรงหน้าจะดูไร้สาระในสายตาของเขา
"ผมลองมันมาแล้วเกือบจะทุกวิธี มันไม่มีทางที่จะหาเงินมากมายขนาดนั้นมาได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว หุ้นพวกนั้นถูกจับจองโดยคนอื่นหมดแล้วมันถูกกระจายไป"
"นั่นไง! แต่คุณทำมันไม่ได้ครบทุกวิธีนี่จริงมั้ย? แค่เกือบ" คริสยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยที่ประโยคของร่างบางเข้าทางเขาเต็มๆ ก่อนที่เขาจะเก็บความพอใจนั้นพับใส่กระเป๋าเสื้อเชิ้ตตัวเองไว้และว่าต่อไป
"ยังเหลืออีกวิธีนึง นั่นก็คือวิธีของผม"
"ยังไง?" ทอมถามพร้อมกับที่ดวงตาสีเขียวมรกตจับจ้องไปยังใบหน้าหล่อเหลาของคริส
ที่ตอนนี้...
ฉายชัดไปด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขานั่นมันคืออะไร!
ทอมได้แต่ตะโกนถามคนเดียวในใจ
"ผมจะใช้เงินส่วนตัวของผม ซื้อหุ้นบริษัทของคุณกลับมาให้ทั้งหมด" มันคือเงินที่ฟริกก้าจัดเตรียมไว้ให้กับเขา ทรัพย์สมบัติที่ผู้เป็นมารดารู้ว่าวันหนึ่งเขาต้องใช้มัน เพื่อพาตัวโลกิกลับแอสการ์ด
นิสัยของโลกิในร่างของทอม ฮิดเดิลตัน คนนี้ธอน์รู้ดี เขาเป็นห่วงคนอุปถัมถ์ของเขามาก เขาไม่มีทางไปจากมิดการ์ดหากว่าสองสามีภรรยาฮิดเดิลสตันยังคงได้รับความยากลำบากอยู่
"ทำไมคุณถึงได้ยอมใช้เงินของคุณ เพื่อช่วยผม?" ทอมมีท่าทีแปลกใจและไม่ไว้ใจคริสในเวลาเดียวกัน
ชายคนนี้ต้องการอะไรจากเขา?
"วางใจเถอะ ผมไม่ได้จะให้คุณฟรีๆหรอกทอม ผมรู้ว่าคุณไม่รับมันแน่ ผมจึงต้องการสิ่งแลกเปลี่ยนจากคุณ"
เขาชี้ไปที่หน้าอกบางของทอม ร่างเล็กขยับหนีสัมผัสนั้นทันที ถึงมันจะแค่เพียงเล็กน้อย
"แลกเปลี่ยนเหรอ แลกเปลี่ยนอะไร?"
คริสหัวเราะหึ แต่ยังไม่ตอบคำถาม
ทอมยอมรับ ว่าเขากลัวคนตรงหน้ามากในตอนนี้ คริส เฮมส์เวิร์ธ อยู่ดีๆทำไมเขาถึงได้อยากจะยื่นมือเข้ามาช่วยนัก
ถึงแม้ว่าทอมจะได้ยินเต็มสองรูหูแล้วว่าเขาต้องการสิ่งแลกเปลี่ยน แต่อะไรกันล่ะ? ที่เขาต้องการมันใช้แลกกับเงินเป็นร้อยล้านดอลลาร์แบบนั้น ถ้าหากว่าไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการมันอย่างถึงที่สุด
"คุณต้องตั้งท้องลูกของผม"
!!!
"ผมขอปฎิเสธ อ๊ะ! ปล่อยนะคุณ!!" ยังไม่ทันที่คนพูดจะหันหลังก้าวไปได้ถึงสามก้าวก็ถูกกระชากกลับมาให้เผชิญหน้ากันอีก
"จะไปไหน!" คริสถามเสียงดัง
"ผมจะกลับ!! ผมทนฟังเรื่องไร้สาระของคุณมามากพอละ ผมจะไม่แลกอะไรกับคุณทั้งนั้น ถ้าสิ่งที่คุณต้องการจะคุยกับผมมีแค่เรื่องนี้ ผมขอตอบเลยว่าไม่! ครอบครัวของผม ผมดูแลเองได้!"
'เจ้าช่างดื้อรั้นนักโลกิ ดื้อรั้นเสียจนข้าอยากจะทำโทษเจ้า ไม่ให้ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน'
"ดูแลเหรอ? ดูแลตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ จะถูกไอ้พวกลูกค้าบ้ากามพวกนั้นจับไปทำแม่ของลูกวันไหนยังไม่รู้ตัวเลย!" คริสหงุดหงิดขึ้นมาทันทีที่นึกถึงเรื่องพวกนี้
ตลอดเวลาที่ลงมามิดการ์ด เขาเฝ้ามองคนรักตัวเองถูกสายตาหยาบคายของพวกบุรุษมิดการ์ดแทะโลมอยู่บ่อยครั้ง แถมหลายครั้งพวกนั้น ยังทำหน้าราวกับว่าต้องการสำเร็จความใคร่เมื่อยามนึกถึงใบหน้าสวยนี้ 'เจ้าช่างไม่รู้ตัว โลกิ'
"ทำตามที่ผมบอกซะโลกิ! มีลูกกับผมแล้วคุณจะไม่ต้องลำบากไปทำงานที่นั่นอีก พ่อแม่คุณก็จะได้กลับมามีชีวิตที่ดี" ร่างหนาจ้องมองทอมอย่างไม่วางตา มือหนาเผลอบีบต้นแขนที่ยังคงไม่ปล่อยจากการจับกระชากเมื่อกี้ ทอมนิ่วหน้าเพราะความเจ็บแต่ทว่าไม่ยอมร้องออกมาเพราะความหยิ่งทะนง เขาจะไม่ยอมร้องออกมาให้ผู้ชายเผด็จการคนนี้ได้ยินเด็ดขาด
"อย่าได้เอาเรื่องของคุณท่านมาอ้าง! ผมไม่มีทางมีลูกกับคุณหรอก ผมจะไม่มีวันท้องโตให้คนในแมนฮัตตันมองผมเป็นตัวประหลาด!"
"โลกิ..."
"เลิกเรียกผมด้วยชื่อนี้สักทีคุณคริส เฮมส์เวิร์ธ และกรุณาอย่ามายุ่งกับผม!"
ในขณะที่ร่างหนาเริ่มรู้สึกเป็นห่วงคนรักจากประโยคที่ทอมบอกว่า เขาไม่อยากท้องโตให้คนมองว่าเป็นตัวประหลาด เลยพาลทำให้แรงที่ตอนแรกมีอยู่มากลดลง มือที่จับแขนของอีกคนไว้ถูกสะบัดหลุดออกจนได้
ทอมวิ่งไปที่ประตูอย่างไม่รีรอ
แต่ทว่าก่อนที่เขาจะได้ก้าวออกจากธรณีประตูกลับมีเสียงๆหนึ่งที่หยุดเขาไว้ ...
เสียงที่ไม่ใช่เสียงของคริส เฮมส์เวิร์ธที่มัวแต่ยืนตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง แต่กลับเป็นเสียงของหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้าน
เธอยืนขวางทางออกของทอมอยู่ทำให้ทอมไม่กล้าที่จะก้าวไปไหน
เธอยิ้มก่อนจะพูดกับเขา
"สวัสดีจ้ะที่รัก , ทะเลาะกับลูกชายของฉันมาเหรอ ให้ฉันช่วยจัดการกับเจ้าลูกชายตัวดีให้ดีมั้ย?
"แม่..."
"แม่เหรอ?"
"ไงจ้ะ ลูกชายตัวดี"
ทอมหันหลังกลับไปมองคริสที่เรียกผู้หญิงตรงหน้าว่าแม่ คริสดูมีสีหน้าสับสนไม่ต่างกันกับเขาในการปรากฎตัวของเธอ เดาว่าเขาคงไม่รู้ล่วงหน้าว่าเธอจะมา
To be continue...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in