pairing; satan x crowley (good omens)
ในตอนเย็นของวันนั้นฝนดันตกลงอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด หรือแม้แต่พยากรณ์อากาศก็ไม่ได้กล่าวถึงเลยว่าวันนี้ฝนจะตก แต่ใครจะรู้ว่ามันใกล้ถึงเวลาอวสานของโลกแล้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังดีที่ว่าฝนที่ไหลรินลงมาไม่ได้หนักหนาเท่ากับในยุคสมัยเมโสโปเตเมีย ในตอนที่พระเจ้าทรงตัดสินพระทัยจะทำลายมวลมนุษยชาติที่ได้ทำชั่วโดยการทำให้ฝนเทลงมาราวกับฟ้ารั่วเป็นเวลาหลายวันหลายคืน จนเกิดเป็นน้ำท่วมใหญ่และผู้คนทั่วแผ่นดินก็จมอยู่ใต้น้ำ จากนั้นท่านก็สัญญาว่าจะไม่ทำลายสิ่งมีชีวิตด้วยน้ำท่วมแบบนี้อีก โดยท่านให้สายรุ้งเป็นเครื่องเตือนใจ
แต่โครวลีย์ไม่เหมือนผู้คนเหล่านั้น เขาเป็นปีศาจ ไม่จำเป็นต้องกางร่มหรือหลบฝนก็ได้ถ้าเขาจะดีดนิ้วใช้พลังให้ตัวแห้งทีหลังเหมือนไปเป่าลมมา เขากำลังรู้สึกใจสลาย อาซิราเฟลไม่ได้อยู่ในร้านหนังสือจะใช้คำว่า 'ไม่ได้อยู่' ก็ไม่ได้เพราะโครวลีย์ไม่ได้รู้สึกถึงอาซิราเฟลเลย เหมือนกับเทวทูตได้หายไปเฉยๆโดยฝีมือใครบางคนที่เขาก็ไม่สามารถรับรู้ได้ ร้านหนังสือก็ไฟไหม้ไปเรียบร้อยแล้ว อาซิราเฟลก็สูญหาย เหลือเพียงโครวลีย์ที่ยืนกลางสายฝน เขาทิ้งแว่นตาดำที่ใส่อยู่ก่อนหน้านี้ เพราะมันแตกจนไม่น่าใช้อีกต่อไปก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งในรถเบนท์ลี่ย์คันโปรดของตัวเอง
สีอำพันภายในดวงตาของอสรพิษดูเข้มข้นกว่าปกติ บ่งบอกถึงความไม่มั่นคงในอารมณ์ โครวลีย์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องทำอย่างไรต่อในเมื่อทูตสวรรค์ไม่ได้อยู่ด้วยกับเขาตรงนี้ แค่จัดการอารมณ์แบบมนุษย์เขายังทำไม่ค่อยได้เลย เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้คนถึงเศร้าแล้วมักจะทำอะไรโง่ๆ ตอนแรกเขาวางแผนที่จะปล่อยทุกอย่างไปแล้วหนีไปที่อัลฟ่า เซนทอไรกับอาซิราเฟลด้วยซ้ำ แม้ว่าเทวดาจะดูไม่ยินยอมก็ตาม จริงๆเจ้าอสรพิษจะหนีไปเพียงผู้เดียวก็ได้ แต่จะทำยังไงในเมื่ออีกฝ่ายเป็นถึงคนที่เขาไว้ใจที่สุด แต่ตอนนี้โครวลีย์คงย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว มีคนสังหารเทวดาและเขาได้แต่โทษตัวเองที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปโดยที่ไม่มีสหายเคียงข้าง
โครวลีย์เอาหน้าผากชนไปที่พวงมาลัยหลายๆทีและสบถเหมือนคนบ้าภายในรถ เขารู้สึกหนาวไปทั่วตัวจากการที่ตากฝนจนแฉะมาเมื่อครู่ ใครๆก็รู้ว่าพวกงูไม่ชอบในที่หนาวเย็น แต่สำหรับโครวลีย์ไม่ได้แค่รู้สึกหนาวบนผิวหนังอย่างเดียว แม้ว่าเขาจะเป็นปีศาจก็ยังรู้สึกหนาวไปจนขั้วหัวใจ เหมือนยืนอยู่บนภูเขาอย่างโดดเดี่ยว เขากำลังอ่อนแอและไม่มีใครช่วยได้นอกจากเทวดา อย่าหวังจะให้ไปช่วยโลกตอนนี้เลยถ้าไม่มีอาซิราเฟล
ก่อนที่จะออกรถออกไปจากละแวกร้านหนังสือ โครวลีย์ก็หยิบแว่นตากันแดดสีดำอันใหม่ออกมาจากลิ้นชักรถยนต์เพื่อมาสวมใส่ด้วยความเคยชิน เงยหน้าขึ้นปรับกระจกรถที่อยู่ด้านบนแต่ก็ต้องชะงักไป สูดลมหายใจเข้าลึกๆเมื่อเห็นใครบางคนที่นั่งอยู่ด้านหลัง รอยยิ้มมุมปากที่เขาคุ้นเคยและทำให้เขาเสียวสันหลังวาบได้ทุกที แววตาสีดำทมิฬคู่นั้นดูเย็นชาแต่สามารถทำให้ใครก็ตามนั้นหลงใหลได้ในระยะเวลาอันสั้น หลายพันปีก่อนเขาคงจะรู้สึกแบบนั้น ไม่ใช่ในแววตาแต่หลงใหลในความทะเยอทะยาน จนตกหลุมพรางและเขาก็ได้ร่วงหล่นลงใต้ผืนดิน
"เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกใช้แว่นนั่นซะที ไหนๆก็จะถึงเวลาของอาร์มาเกดอนแล้ว ยังไงพวกมนุษย์ก็จะถูกทำลายให้สิ้นซากและก็จะได้ไม่มีใครมาสอดรู้ในดวงตาของเจ้า โครวลีย์"
นายเหนือหัวเอ่ยปากถามคนข้างหน้าด้วยน้ำเสียงทุ้มหนัก โครวลีย์ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป อีกอย่างเขาก็ตอบไม่ได้ด้วยว่าเมื่อไหร่ มันเป็นระยะเวลานานแล้วที่เขาสวมใส่แว่นเลนส์สีดำจนเคยชิน จะให้ไม่ใส่เลยก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง
"เดี๋ยวนี้เจ้าห่างเหินนะ เป็นเพราะเทวดานั่นล่ะสิ?"
"ท่านมีอะไรจะให้ข้าทำหรือเปล่า?"
คำตอบที่ได้รับมาทำให้จอมนรกเผยยิ้มขึ้นอีกครั้ง ซาตานรู้สึกพอใจที่ได้เย้าแหย่ปีศาจคนโปรด ยิ่งเป็นเรื่องของอาซิราเฟลในตอนนี้ที่อีกฝ่ายกำลังรู้สึกไม่มั่นคงอย่างที่สุด ใช่ เขารู้แทบจะทุกอย่างที่โครวลีย์ทำ รู้ว่าเจ้าอสรพิษไปพบปะกับเทวทูตอยู่บ่อยครั้ง อย่างน้อยก็แอบฟังผ่านวิทยุในรถยนต์ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาซะทีเดียวซาตานหวงของและอยากจะเก็บโครวลีย์ไว้คนเดียวก็จริง แต่คงอยากเห็นอีกฝ่ายในสภาพจิตใจที่แตกสลายมากกว่าสภาพที่หวาดกลัวและไร้ที่พึ่งพิงดังเช่นในเวลานี้
"ข้าไม่มีอะไรให้เจ้าทำ เพราะเจ้าได้ทำไปหมดแล้ว ที่รัก"
จอมปีศาจเลื่อนตัวและโน้มหน้าออกมายังข้างหน้าให้ชิดใกล้กับคู่สนทนา มือก็ดึงแว่นตากันแดดออกไป มันเกะกะและซาตานก็ต้องการเห็นนัยน์ตาสีเหลืองทองคู่นั้นที่เคยมอบให้ แล้วค่อยปรับพำนักพิงให้เอนลงมา คราวนี้ก็ได้เห็นหน้ากันชัดๆเสียที โครวลีย์หยุดนิ่งไปชั่วขณะ ยังไงก็ขัดการกระทำนายเหนือหัวไม่ได้อยู่แล้ว ต่อให้เป็นงูที่สามารถลื่นไหลหนีสถานการณ์ได้ก็ตาม ยิ่งตอนนี้ที่เขาอ่อนแอและเปราะบางเกินกว่าจะสู้กับใครไหว
"ไหนๆก็จะถึงเวลากัลปาวสานของโลกแล้ว"
ระหว่างที่ซาตานกล่าวไป มือของเจ้าตัวก็เลื่อนลงต่ำ จากใบหน้าลงสู่ซอกคอไปจนถึงลำตัวของเจ้าของผมแดงส้มสีเข้ม จอมปีศาจโน้มหน้าลงมาอีกครั้งและจุมพิตบนหน้าผากคนที่อยู่ภายใต้อาณัติของตน
"เจ้าอยากทำอะไรมากที่สุด?"
โครวลีย์ไม่ได้ตอบอะไรออกไป ถ้าบ้งคับตอบ เขาก็คงตอบไม่ได้ มีหลายอย่างที่เขาอยากทำแต่คงต้องเลือกเองในใจในเมื่อแผนที่จะไปอัลฟา เซนเทอไรมันล่มไปแล้ว เทวทูตจากสวรรค์ก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้จากที่สัมผัสได้ แล้วเขาก็เศร้าเกินไปถ้ายังจะอยู่คนเดียว จ้าวนรกรู้ดีเกินไปว่าปีศาจตนนี้กำลังหนาวและสามารถมอบความอบอุ่นให้ได้ แม้ว่าโลกจะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการอวสานก็ตาม
ทางเลือกของเขามีแค่คนที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in