จากกระแสการเปิดตัวคลินิกกายภาพมากมายเป็นดอกเห็ดตามในตัวเมืองและจังหวัดใหญ่ๆ คิดว่าก็คงมีคนเห็นผ่านตามาพอสมควร แต่ในฐานะที่เป็นนักกายภาพบำบัดที่ประกอบวิชาชีพถูกต้องตามกฎหมายได้มีโอกาสทำงานอยู่คลินิกเจ้านึงก็รู้สึกเลยว่าคนที่เข้าใจถูกต้องมีอยู่ไม่มาก ด้วยความคับข้องใจส่วนตัวเลยอยากจะมาเล่าถึงกายภาพบำบัดให้ฟัง เผื่อว่าใครที่หลงเข้ามาจะได้เห็นภาพได้ชัดขึ้น โดยเฉพาะน้องๆที่สนใจสายนี้
วิชาชีพกายภาพบำบัด คือ อะไร
กฎหมายนิยามว่า วิชาชีพเป็นการทำต่อมนุษย์ ทั้งการตรวจ ประเมิน วินิจฉัย และบำบัดความบกพร่องของร่างกายที่เกิดจากโรค/เคลื่อนไหวไม่ปกติ บำบัดฟื้นฟูความพิการของร่างกาย ด้วยวิธีทางกายภาพบำบัดและเครื่องมือ
ง่ายๆ ถ้ามีคนที่เคลื่อนไหวผิดปกติมาไม่ว่าด้วยอะไร เช่น ปวดคอหันคอไม่สุด ยันอัมพาตลุกนั่งเองไม่ได้ นักกายภาพสามารถตรวจ ประเมิน วินิจฉัย และบำบัดได้เอง และรักษาด้วยวิธีการทางกายภาพหรือเครื่องมือก็ได้ตามที่นักกายภาพพิจารณา
นักกายภาพบำบัด ไม่ใช่ แพทย์
นักกายภาพบำบัด ออกใบรับรองแพทย์ไม่ได้
ถ้าพอจะมีใครคุ้นเคยกับการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายก็น่าจะเคยได้ยินชื่อ กิจกรรมบำบัด อยู่ แต่ว่าเราเป็นคนละวิชาชีพกัน (แต่เอาจริงๆโดนเข้าใจผิดว่าเป็นนักกิจกรรมก็ยังรู้สึกดีกว่าถามว่ากินยาไหม มีฝังเข็มไหม)
การทำงานในฐานะนักกายภาพบำบัด
กฎหมายระบุให้ผู้ที่ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัดต้องมีใบประกอบวิชาชีพ ซึ่งสามารถเช็คได้บนเว็บไซต์ของสภาวิชาชีพได้เลย
โรงพยาบาล
แน่นอน บุคลากรทางการแพทย์จะไปอยู่ที่ไหนได้อีก
งานโรงพยาบาลแบ่งคร่าวๆ ได้ 2 ฝั่งคือ การรับผู้ป่วยนอกที่แผนกกายภาพ และขึ้นตึกผู้ป่วยใน แล้วแต่การจัดสรรของแต่ละรพ.ว่าจะ fix ไหม หรือ วนกันรับผู้ป่วยจากทั้งสองทาง
แผนกที่รับผู้ป่วยนอกน่าจะเป็นภาพคุ้นตาสำหรับหลายๆคนคือมีอุปกรณ์มากมาย เช่น ไม้เท้าช่วยเดินต่างๆ อุปกรณ์ออกกำลังกาย ที่ฝึกเดินแบบมีราวจับ ยิมบอลลูกใหญ่ และเครื่องมือทางกายภาพบำบัดอื่นๆ เช่น อัลตราซาวน์ เลเซอร์ เครื่องดึงคอ/หลัง หม้อพาราฟิน เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า PMS หรืออย่างหลายที่ก็มีหุ่นยนต์ช่วยเดิน/ช่วยทรงตัว และอีกหลายอย่างตามแต่ขนาดรพ.
และถึงจะไม่บ่อย แต่นักกายภาพบำบัดสามารกระตุ้นพัฒนาการเด็กได้นะ บางทีก็จะเห็นน้องๆที่แผนกด้วย แล้วแต่รพ.
การขึ้นตึกผู้ป่วยในน่าจะเป็นอะไรที่คนนอกวงการคิดไม่ถึงว่าต้องขึ้นด้วย มีตั้งแต่ฟื้นฟูคนไข้หลังผ่าตัดเพื่อให้คนไข้มีอาการที่ขึ้นสามารถกลับบ้านได้ ช่น ผ่าตัดข้อเข่าเสื่อม เราจะพาออกกำลังกายกันข้างเตียงเลยหลังจากคนไข้ฟื้น และ ค่อยๆปรับระดับความยากสู่การเดินรอบเตียง, ผู้ป่วยทางระบบประสาทที่มีอาการเฉียบพลันควบคุมการเคลื่อนไหวไม่ได้, ผู้ป่วยติดเตียงพาออกกำลังกายป้องกันข้อติด และก็จะมีผู้ป่วยทางระบบหายใจที่นักกายภาพบำบัดสามารถให้ฝึกออกกำลังกายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการหายใจและระบายเสมหะได้ เช่น ผู้ป่วยที่ขับเสมหะเองไม่ได้ หอบหืด ถุงลมโป่งพอง
(จริงๆนักกายภาพบำบัดกับการใส่สายระบายเสมหะค่อนข้างเป็นที่ถกเถียงพอสมควร บางรพ.ทำได้ บางรพ.ทำพร้อมพยาบาล บางรพ.ไม่ทำเลย เป็นผลจากการตีความทางกฎหมายว่านักกายภาพบำบัดสามารถระบายเสมหะได้ แต่ไม่ทำหัตถการล่วงล้ำ แต่ถามว่านิสิต/นักศึกษากายภาพบำบัดต้องได้เรียนไหม ใช่ ต้องเรียน ต้องทำเป็น)
ศูนย์ผู้สูงอายุ/ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ
ตรงๆตามตัว มีแต่ตั้งแต่คนไข้ที่ดูแลตัวเองได้ คนไข้จิตเวช และผู้ป่วยติดเตียง แล้วแต่เนเจอร์ของแต่ละศูนย์ว่ารับผู้ป่วยหนักไหม
คลินิกกายภาพบำบัด
กฎหมายให้ผู้ประกอบวิชาชีพสามารถเปิดสถานพยาบาลที่ไม่รับผู้ป่วยค้างคืน (คลินิกนั่นแหละ)ได้เอง
สิ่งนี้นี่แหละที่เยอะเป็นดอกเห็ดและทำให้สังคมมีภาพอื่นนอกจากการนวด ซึ่งเรียนนวดก็เรียนนิดเดียวเอง ทำไมกันจำเป็นอย่างนั่น
แต่หลายๆครั้งก็โดนเข้าใจผิด เช่น
รับตรวจความดันไหม (ไม่รับ ไม่ใช่แพทย์)
มียาให้กินไหม (ไม่มี ไม่ใช่แพทย์)
มีฝังเข็ม ครอบแก้วไหม (ไม่มี ไม่ใช่แพทย์แผนจีน)
หลายคลินิกที่มีเพราะ นั่นเป็นสหคลินิก พูดง่ายๆเพราะมีมากกว่า 1 อาชีพ ในคลินิก เช่น แพทย์+นักกายภาพ แพทย์แผนจีน+นักกายภาพ ขอประชาชนโปรดอ่านดีๆ เราเป็นคนละอาชีพกัน
แน่นอนว่าลักษณะคลิินิกมักจะคล้ายๆแผนกกายภาพในรพ. คือมีเครื่องมือ และ อุปกรณ์ออกกำลังกาย
ที่มักแตกต่างคือราคานี่แหละ โดยเฉพาะการโฆษณา ทำให้คนที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนนึกว่าที่รพ.ไม่มี
หากคลินิกใกล้บ้านท่าน หรือรู้สึกว่ารอคิวจากรพ.ไม่ไหวเลยมาก็ไม่เป็นไร แต่หลายๆเครื่องมือที่รพ.ก็มี และคลินิกอื่นก็มีได้โปรด อย่าโดนนักธุรกิจเหล่านี้ทำให้ท่านเข้าใจผิดเลย
คลินิกความงาม
เอาตรงๆตามกฏหมาย เลเซอร์ทั้งกำลังต่ำและสูง มีแค่แพทย์กับนักกายภาพเท่านั้นที่ใช้ได้ เพราะถือเป็นเครื่องมือกายภาพบำบัด แต่ขณะที่คลินิกความงามหลายที่ไม่สามารถระบุที่มาที่ไปของผู้ที่ทำหัตถการได้ก็ตลกดีเหมือนกัน
ยังสนับสนุนให้ทุกท่านเรียกถามชื่อ นามสกุล เลขใบประกอบวิชาชีพตามสิทธิ์ของผู้ป่วย เพราะมีการจ้างวานบัณฑิตกายภาพบำบัดที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ และ ผู้ที่ไม่ได้จบกายภาพบำบัดมาทำหัตถการเหล่านี้อยู่จริงๆ
ศูนย์การศึกษาพิเศษ/สถานคุ้มครองคนพิการ
ตรงตัวว่าบทบาทคือฟื้นฟูสมรรถภาพผู้พิการ ถ้าในศูนย์การศึกษาพิเศษก็จะเป็นผู้ป่วยเด็ก และต้องควบตำแหน่งครูไปด้วย
การรับเคสตามบ้าน
มีทั้งแบบที่นักกายภาพประกาศรับเองส่วนตัว และมีเป็นทีม มีทั้งคนไข้ที่แค่ไม่สะดวกมารพ. กับคนไข้ที่ต้องทำต่อเนื่อง
ปิดท้ายโลกของการทำงาน
แม้ว่าจะมีการประชาสัมพันธ์มากมายว่าเป็นอาชีพขาดแคลน แต่ที่ไหนกันแน่ที่ขาด รพ.รัฐหรอ หวังตำแหน่งข้าราชการรึเปล่า ถ้าใช่ อาจจะต้องเข้ามาทำในตำแหน่งลูกจ้างก่อน สักพัก (หลายปี) รพ.เอกชนถึงจะมีพอสมควรที่เปิดรับ และแน่นอนที่เยอะที่สุดก็คือคลินิก ซึ่งหลายๆจังหวัดการเปิดคลินิกก็ไม่ได้คุ้มทุนเช่นกัน เพราะว่ากันตามตรงการมีโอกาสเข้าถึงการรักษาทางกายภาพบำบัดใช้เงินพอสมควรและใช้เวลาด้วย เพราะฉะนั้นถ้าปักหมุดว่าอยากทำที่ไหน ที่ไม่ใช่ กทม. ก็อาจจะเป็นไปได้ยาก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in