“หนังหน้านับเป็นอย่างไรได้”
“คุณธรรมคือสิ่งใดเขาไม่รู้จัก”
“ยางอายนั้นยิ่งเป็นสิ่งที่ไม่ต้องกล่าวถึง”
เมื่อเอ่ยถึงสามอย่างข้างต้นแล้ว ทั่วทั้งสี่ทะเลแปดดินแดนนี้คงจะคิดถึงแต่เหล่ามารปีศาจเผ่าเดียวกระมังที่จะเหมาะกับคำอธิบายเหล่านี้ แต่ดังคำกล่าวในแดนมนุษย์ที่ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือเหล่าเทพเซียนปีศาจมารทั้งสี่ทะเลแปดดินแดนก็ยังคงมีมหาเทพตงหัว และทั้งสามอย่างข้างต้นนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่อธิบายท่านมหาเทพผู้นี้ได้ทั้งสิ้น อ้อ ยังดอก ยังไม่ทั้งสิ้น ยังมีอีกประโยคที่รวบรัดกว่า นั่นคือ “หนังหนาหน้าด้าน” อย่างไรเล่า
แม้ท่านมหาเทพผู้นี้จะอยู่มาตั้งแต่ยุคเบิกฟ้าผ่าพิภพ อายุนั้นยืนยาวตราบฟ้าดินแล้ว เหล่าเทพเซียนรุ่นใหม่ต่างได้รู้จักท่านผ่านตำราประวัติเทพบรรพกาลบ้าง ตำนานเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นบ้าง หรือผ่านรูปวาดของท่านบ้าง ทั่วทั้งสี่ทะเลแปดดินแดนนี้ หายากนักที่จะไม่มีใครไม่นับถือเคารพมหาเทพท่านนี้ ปราณเซียนสูงส่ง ดำรงคุณธรรม บรรลุทั้งหลักพุทธธรรมและหลักเต๋า ยามถือหลักธรรมสงบเยือกเย็น ยามถือกระบี่ชางเหอสูงส่งสง่างาม แต่ก็อีกน้อยคนนักที่จะได้รู้ว่า ท่าทางเย็นชาเรียบเฉยของท่านเทพเกศาขาว อาภรณ์ม่วงผู้นี้ แท้ที่จริงแล้วฝีปากกลับร้ายกาจพอๆ กับกระบวนท่ากวัดแกว่งกระบี่ เพียงเอ่ยออกมาไม่กี่คำ กลับทำคนกระอักเลือดออกมาได้ ไหนจะหนังหน้าที่นับเป็นของนอกกาย ครั้นคิดจะทำอะไรก็ไม่ได้มีคำว่ายางอายปรากฏอยู่ในมโนสำนึก เพียงแต่มีเรื่องที่เห็นว่าสนุก น่าสนใจให้ลงมือกระทำ มหาเทพตงหัวไหนเลยจะสนใจคำว่าหนังหน้า ใครจะว่าเขาหน้าด้าน หน้าไม่อายก็ช่างเถิด บอกแล้วว่า หนังหน้านับว่าเป็นอย่างใดกัน?
ทั้งหมดทั้งมวลที่สรรเสริญท่านมานั้น เพราะท่านผู้นี้คือ “พระเอก” ที่ประทับใจมาก ดูละครก็แอบชอบเขานิดๆ แล้ว พอตามอ่านหนังสือในชุด “สามชาติสามภพ” ตั้งแต่ “ป่าท้อสิบหลี่” ไปจนถึง “ลิขิตเหนือเขนย” แล้ว พบว่า เฟิ่งจิ่วน้อยช่างน่าสงสารโดยแท้ วาสนาอันใดทำให้นางประสบเคราะห์มาพบกับ “มหาเทพที่หนังหนาหน้าด้าน” ที่สุดในสี่ทะเลแปดดินแดนนี้ได้ อ่านไปได้แต่สงสารนางไป ท้อแท้ใจในโชคชะตาแทนนาง 55555555555
เราอาจจะเคยเจอพระเอกบุคลิกกวนบาทาคล้ายๆ เช่นนี้อยู่หลายคน กลับไม่มีใครที่ทั้งกวนบาทา หน้าด้าน ไร้ยางอาย ไม่ยึดถือคุณธรรมได้อย่างสง่างามและองอาจผ่าเผยเท่าเขาคนนี้ไม่ ทั้งๆ ที่เขาเองก็เป็นถึงมหาเทพเสาหลักของสี่ทะเลแปดดินแดน แต่กลับทำเรื่องที่มารปีศาจยังเห็นว่าไร้คุณธรรม สลายวิญญาณเจ็ดพันดวงให้ดับสูญไปได้ในชั่วพริบตา ไหนจะลงไปประลองกระบี่รังแกมารน้อยที่อายุอ่อนกว่าเขาเป็นแสนปี พร้อมด้วยเหตุผลแบบแถๆ ในการนับว่าเป็นรุ่นเดียวกันอย่างไม่อินังขังขอบต่อเสียงนกเสียงกาใดๆ ทั้งสิ้น อ่านไปนับถือไปว่า ช่างเป็นเทพที่มีนิสัยเป็นเอกลักษณ์โดยแท้ เรื่องใหญ่ความเป็นตายของโลกหล้าท่านก็จัดการได้เหมาะสมเด็ดขาดยิ่ง สมกับเป็นเสาหลักอันมั่นคงแห่งสวรรค์เก้าชั้นฟ้า แต่เรื่องส่วนตัวส่วนหัวใจของท่านนี้ ก็ต้องนับถือในน้ำใจที่ต่อให้วาสนาที่ถูกกำหนดมาระหว่างเฟิ่งจิ่วและท่านเทพช่างบางเบา แต่ในเมื่อเป็นมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ใยจะฝืนขืนขีดชะตาใหม่ให้เขาและนางไม่ได้กันเล่า ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้เห็นกุ๋นกุ่นน้อย ผมสีเงินกันอย่างไร ไม่เสียแรงนับถือในความหนังหนาหน้าทนของท่านมหาเทพตงหัวเลยจริงๆ
เสียแต่ว่า เหตุใดเมื่อท่านแพ้หมากกระดานหนึ่งให้กับเยี่ยหัวไท่จื่อแล้ว กลับยกกุ๋นกุ่น บุตรชายของท่านให้เป็นสะใภ้ของไท่จื่อไปเสียง่ายๆ กัน แถมบุตรของไท่จื่อนั้นยังเป็นอาหลีก้อนแป้งน้อยที่เป็นบุตรชายอีกด้วย เอ หรือนี่เป็นแผนของท่านมหาเทพร่วมมือกับไท่จื่อวางแผนกดดันให้ป๋ายเฉี่ยน ไท่จื่อเฟยเร่งมีทายาทเป็นหญิงกันแน่ หมากกระดานนี้ช่างน่าสงสัยจริงแท้
ป.ล. เนื่องจากดูละครก่อนไปอ่านหนังสือ จึงได้ติดภาพปู่ตงในละครไปแล้วอย่างห้ามใจไม่ได้ จึงขอยืมเอารูปปู่มาไว้เป็นตงหัวในใจเราไปก่อนละกันนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in