ครานั้นว่ากันว่า มีผู้กล้าอยู่ผู้หนึ่ง
ผู้คนต่างพูดถึง วีรกรรมที่เขาทำ
ปราบยักษ์อสูรร้าย ไม่กลัวตายแม้เพลี่ยงพล้ำ
คว้าชัยได้ประจำ ผู้คนสรรเสริญเยินยอ
เจ้าเมืองเคยพูดไว้ "หวังสิ่งใดโปรดจงขอ"
ผู้กล้ายังรีรอ ยังไม่ขอสิ่งใด ๆ
วันหนึ่งมีปีศาจ มากอำนาจกว่าตนไหน
เผาเมืองลุกเป็นไฟ คนหนีตายนับร้อยพัน
ผู้กล้าออกมาสู้ กับศัตรูโดยไม่หวั่น
แต่พลังของเขานั้น ไม่พอสู้ปีศาจร้าย
ท่ามกลางช่วงวิกฤต เกือบชีวิตดับสลาย
มีผู้กล้าอีกหนึ่งนาย ควบม้าใหญ่ห้อเข้ามา
เงื้อดาบเข้าฟาดฟัน ขาดสะบั้นลงกับตา
ปีศาจร้ายเริ่มหมดท่า ผู้กล้าจึงปรี่เข้าไป
เงื้อหอกอันศักสิทธิ์ ปักจนมิดตรงหัวใจ
ปีศาจร้ายตายทันใด เมืองปลอดภัย คนยินดี
ผู้กล้าทั้งสองนาย เป็นขวัญใจชาวบุรี
เจ้าเมืองอยากตอบแทนที่ ทำความดีเพื่อบ้านเมือง
จึงบอก "ข้ามีสองบุตร งามพิสุทธิ์และครบเครื่อง
ลูกข้าไม่ขัดเคือง หากรับเป็นภรรยา
รับไว้เถิดพ่อเอ๋ย มาเป็นเขยแห่งพารา
สิ่งใดปรารถนา จักหามาให้สมใจ"
ผู้กล้ามองหน้ากัน ตอบโดยพลัน "ไม่เป็นไร
เราได้สิ่งหวังดั่งใจ ขอขอบใจท่านเจ้าเมือง"
เจ้าเมืองนึกสงสัย "โปรดช่วยไขให้รู้เรื่อง
คือสิ่งใด อย่าขุ่นเคือง เพียงอยากถามให้คลายใจ"
ผู้กล้าจับมือกัน "คำตอบนั้นช่างง่ายดาย
สุขใดเท่ามีสหาย ร่วมเป็น-ตายในการยุทธ์
สตรีนั้นมีค่า ต่อโลกาเป็นที่สุด
สตรีมีเพื่อบุตร แต่บุรุษมีเพื่อรัก”
เจ้าเมืองไร้กังขา ชาวประชาได้ประจักษ์
แก่ใจในความรัก ของผู้กล้าทั้งสองนาย
ต่อมาอีกหลายปี จึงเริ่มมีกฎหมายใหม่
ไม่ว่าเป็นเพศใด อยู่กินได้ฉันครอบครัว
สมบัติที่หาได้ เมื่อตายไปตกแก่ตัว
คู่สมรสที่ร่วมหัว และจมท้ายมาด้วยกัน
ผู้คนต่างจดจำ วีรกรรมในครั้งนั้น
ของผู้กล้าคนสำคัญ ที่สร้างสรรค์การเปลี่ยนแปลง
6/12/2562
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in