XIYAO [mdzs]
จินหลินไถยามนี้คล้ายว่ากำลังวุ่นวายนัก
ด้วยงานเลี้ยงเฉลิมฉลองการมาถึงของเหมันตฤดู ผู้รับผิดชอบอย่างจินกวงเหยาจึงมิอาจนิ่งนอนใจให้บ่าวทำงานแต่เพียงลำพังได้ หากออกมาไม่สมบูรณ์แบบย่อมทำให้สกุลจินต้องเสียชื่อโดยน้ำมือของตนแล้ว
แต่เช้าจรดค่ำจำต้องทำงานแลวางแผนอยู่ไม่ได้ขาด แม้เหนื่อยยากสักเพียงใดแต่เพื่อความพึงพอใจของบิดา มีแต่จำต้องอดทนไว้เท่านั้น
หากแม้นในยามที่ทดท้อใจก็ยังมีบุคคลหนึ่งคอยปลอบโยนอยู่มิได้ขาด
ประมุขสกุลหลาน หลานซีเฉิน คือบุคคลผู้นั้น
เมื่อวันงานดำเนินมาถึง จินกวงเหยาแย้มรอยยิ้มดังเช่นที่ผ่านมาให้แขกทุกคนที่ส่งเทียบเชิญมาร่วมงาน
ก้มหัวรับคำทัักทายหลบสายตาดูแคลน ด้วยสาเหตุเพียงเพราะตนเป็นลูกของนางโลม
รอยยิ้มนั้นจึงเรียกใดว่ามิได้ทำด้วยความจริงใจสักเท่าใด
แต่ยิ้มนั้นไม่ใช่กับหลานซีเฉิน คนผู้เดียวที่ไม่เคยมองจินกวงเหยาต่ำต้อยกว่าคนผู้อื่น
รอยยิ้มนั้นจึงเรียกได้ว่าเปี่ยมล้มไปความดีใจจริงยิ่งนัก
แต่ละสกุลเมื่อมาเข้าร่วมงานเลี้ยงของจินกวงซ่าน ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเซียนตูในปัจจุบัน ย่อมต้องมีของติดไม้ติดมือมาเสียหน่อย ของเหล่านั้นล้วนแจกจ่ายไปสู่คนภายในสกุลจินภายหลัง
จินกวงเหยามิได้คาดหวังสิ่งได้ แค่เพียงผ้าแพรสักพับพอให้เขาตัดเย็บเสื้อคลุมใส่กันลมหนาวครานี้ เขาก็พอใจแล้ว
“อาเหยา ข้ามีของสิ่งหนึ่งอยากมอบให้เจ้า”
“ของสิ่งใดหรือ พี่รอง”
เมื่องานเลี้ยงจบลง แต่ละสกุลล้วนแยกย้ายไปพักผ่อน หากประมุขสกุลหลานกลับหลบมาชมจันทร์กับจินกวงเหยาเพียงสองคน
“หลับตาเสีย”
จินกวงเหยาหลับตาลงตามคำบอกของคนตรงหน้า พลันรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งคลุมลงมาร่าง จากที่เคยเหน็บหนาวเพราะไอเย็นเสมอกลับอบอุ่นขึ้นมาในตอนนั้น
ลืมตาขึ้นจึงพบกับเสื้อคลุมสีเหลืองทองงาม ถักทอจากขนสัตว์ชนิดพิเศษอันประเมินค่ามิได้เป็นลวดลาย อันวิจิตร
หลานซีเฉินย้ายตนเองมาอยู่ข้างกายจินกวงเหยาพลางสอดมือประสานคล้ายว่าตั้งใจจะขับไล่ความหนาวเย็นออกไปจากมือข้างนั้น
“เจ้าไม่สามารถโคจรลมปราณเพื่อป้องกันความหนาวได้อย่างเต็มที่ ข้าจึงเพียงหวังว่าเสื้อคลุมตัวนี้จะช่วยเจ้าได้บ้าง”
“พี่รอง… ท่านต้องจัดหาสิ่งล้ำค่าเช่นนี้… ลำบากท่านแล้ว…”
“อย่าได้ถือว่านี่เป็นความลำบากใด… ขอเพียงเจ้าพีงพอใจ ความลำบากนั้นนับว่าเป็นสิ่งใดได้”
ฟังคำประมุขสกุลหลานเช่นนี้ จินกวงเหยาพลันรู้สึกอุ่นวาบขึ้นมาในหัวใจของตน คนผู้นี้ก็ยังคงเป็นเช่นนี้ เป็นแสงจันทร์ที่อบอุ่นหัวใจของเขาอยู่เสมอ
“ขอบคุณพี่รอง ข้าจะเก็บรักษาเสื้อคลุมนี้เป็นอย่างดี”
แม้อยากประสานมือขอบคุณ แต่หลานซีเฉินกลับไม่ยอมปล่อยมือที่กุมเขาอยู่เอาไว้
“เมื่อเจ้ามิได้ต้องทรมานจากความหนาวเย็นแล้ว เพียงหวังเจ้าจะให้เกียรติเดินชมสวนกับข้าสักหน่อย เป็นอย่างไร?”
จินกวงเหยามิได้ตอบรับสิ่งใด แต่ก็มิได้ปฏิเสธหลานซีเฉินเช่นเดียวกัน เพียงก้มหัวเล็กน้อยเป็นเชิงว่ายอมรับคำเชิญนั้น
สองร่างเดินเคียงคู่กันภายใต้แสงจันทราที่ส่องลงมาคล้ายจะชะล้างความเหน็บหนาว สองมือกุมประสานมิได้แยกห่างแม้เพียงสักนาที
จินกวงเหยารำพึงภายในใจ
คล้ายว่าเหมันต์นี้ก็มิได้หนาวเหน็บถึงเพียงนั้น
end.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in