Character: Adriano Fulco, Victoria Valentino
Timeline: Pre-Canon
[1]
“หล่อนเป็นผู้หญิงอันตราย มิสเตอร์อาเดรียโน” ลูกา คนสนิทของพ่อบอกเขา “พี่ชายใช้กำลังมากกว่าสมอง น้องชายก็ปวกเปียก ตัวเองที่ฉลาดที่สุดกลับมีอำนาจไม่ได้เพราะแค่เป็นผู้หญิง คิดดูสิว่าจะอัดอั้นขนาดไหน”
“สาวน้อยที่น่าสงสาร” ชายหนุ่มยิ้ม มองภาพถ่ายลูกสาวคนเดียวของตระกูลวาเลนติโน “คนแบบนี้ ถ้าดึงมาอยู่ฝั่งเราได้คงจะเป็นประโยชน์ไม่น้อย”
อีกฝ่ายส่ายศีรษะ
“คุณไม่เข้าใจ”
“ผมเข้าใจ” อาเดรียโนตอบช้าๆ เขายกภาพถ่ายขึ้นให้ต้องแดด “ทุกคำพูดที่คุณบอกมาเลยล่ะ”
ดวงตาสีอ่อนของวิคตอเรีย วาเลนติโนคมชัดกว่าส่วนใดในภาพถ่าย ผมยาวตลบเก็บเปิดใบหน้าหมดจด มุมปากยกน้อยๆ เหมือนจะหยันโลก หล่อนสวมเสื้อนอกสตรีสีเข้มตามสมัยนิยม ยืนหลังตรง จ้องมองช่างภาพราวต้องการจะส่งสารทะลุทะลวงไปให้ถึงใครก็ตามที่ครอบครองรูปถ่ายหล่อนอยู่ ชายหนุ่มมองดู แล้วก็ได้แต่ยิ้ม
“อย่าประมาทเพราะเห็นว่าหล่อนเป็นผู้หญิง หรือเป็นเบต้าเชียวล่ะ”
“ผมเคยด้วยเหรอ” อัลฟ่าหนุ่มถามย้อน ชายกลางคนจึงได้ถอนหายใจ
“มิสเตอร์อาเดรียโน”
“ครับ?”
“ไว้คุณพบหล่อนค่ำนี้แล้วจะเข้าใจที่ผมพูดเอง”
ลูกชายคนโตของดอนฟัลโคหัวเราะ
[2]
หล่อนอายุไล่เลี่ยกับน้องชายของเขา แต่ภาพถ่ายทำให้อาเดรียโนคิดว่าวิคตอเรียจะอายุมากกว่านั้น อย่างน้อยก็สักสามสี่ปี
วิคตอเรียเป็นผู้หญิงฉลาดและอันตรายดังคำคนว่า ฉลาดจนน่าเสียดาย (หรือหากเป็นพ่อ ท่านคงจะว่า น่ายินดี) ที่ถูกคนในแฟมิลี่ตนเองมองข้าม หล่อนไม่พูดมากนัก แต่เมื่อแสดงความคิดเห็น ฝีปากก็จัดจ้านจนลูซิโอผู้เป็นพ่อต้องกระแอมเตือนอยู่บ่อยๆ ครั้งหนึ่ง อาเดรียโนแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่เพราะสีหน้าเหรอหราของอัลฟงโซ่ที่ไม่เข้าใจคำกระทบกระเทียบของน้องสาว ชายหนุ่มต้องยกผ้าเช็ดปากขึ้นบัง แสร้งทำเป็นไอ เอียงตัวไปคุยกับอารัลโดที่นั่งข้างๆ แทน
ดวงตาสีเขียวอ่อนบอกชัดเจนว่ารู้ทัน
อาเดรียโนยิ้มมุมปากน้อยๆ แล้วขยิบตาให้
วิคตอเรีย วาเลนติโนเป็นอย่างที่วาดภาพไว้จริงๆ ออกจะมากกว่าที่คิดไว้สักหน่อยด้วยซ้ำ
เขาถูกชะตาหล่อน
[3]
เมื่อต้องติดตามพ่อไปเจรจากับวาเลนติโน อาเดรียโนจะพอใจมากกว่าถ้าอีกฝ่ายเลือกให้ลูกสาวเป็นผู้ติดตาม
อัลฟงโซ่ชอบขัดคอเขาอย่างโง่ๆ อวดเบ่ง พองขนใส่ ราวกับต้องการจะกลบเกลื่อนความรู้สึกต่ำกว่าของเบต้าเมื่อพบอัลฟ่า ส่วนแองเจโล่ก็ไม่ค่อยพูดจา ใครพูดด้วยก็ถามคำตอบคำ ไม่มีความคิดเห็น และค่อนไปทางหวาดกลัวพ่อตนเองและพ่อของเขา มีแต่วิคตอเรีย วิคตอเรียเท่านั้นที่น่าสนใจ
หล่อนไม่เหมือนวิคตอเรียในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่มีพี่ชาย เมื่อต้องเป็นงานเป็นงานเป็นการ สาวน้อยก็สุขุม และใช้ความคิดมากกว่าความเห็น หล่อนทำให้เขาต้องฟังอย่างรอบคอบยิ่งกว่าปกติทุกครั้งที่เปิดปากพูด และทำให้ต้องใช้สมองมากกว่าเดิมเมื่อต้องหาข้อคัดค้าน พ่อของเขาดูสนุก เขาเองก็ด้วย แต่พ่อของหล่อนไม่
นั่นทำให้เขาหงุดหงิด
ตาแก่ลูซิโออุตส่าห์มีเพชรอยู่ในมือทั้งที กลับไปให้ค่าก้อนกรวดก้อนดินไม่มีราคา
อาเดรียโนรู้ดีว่าที่ระยะหลังวิคตอเรียได้ติดตามมาประชุมระหว่างแฟมิลี่ด้วยบ่อยขึ้นก็เพราะเขามีทีท่าว่าสนใจหล่อน ลูกสาวของดอนวาเลนติโนเป็นของมีค่า -- หากพูดอย่างหยาบคายในโลกที่ความเป็นชายยิ่งใหญ่กว่า -- มีค่าเกินกว่าจะปล่อยให้ไปเป็นสมบัติของแฟมิลี่อื่น แต่ก็ไม่ได้มีค่ามากขนาดจะเก็บไว้ ไม่นำมาเป็นอาหารตา เหยื่อล่อให้คู่เจรจาไขว้เขว ไม่ได้เห็นค่ามากพอจะยกให้มีอำนาจทัดเทียมลูกชายคนโตผู้ขาดความสามารถ และข้อเท็จจริงข้อนั้นทำให้เขารู้สึกเสียดายที่หล่อนมีค่าน้อยเกินไป และมากเกินไป
เขาถูกชะตาหล่อนมากจริงๆ แม้ว่าสาวน้อยจะแสดงออกชัดทีเดียวว่าไม่ชอบพวกอัลฟ่า และไม่ต้องการเป็นผู้ตามของใคร
บางที นั่นอาจเป็นส่วนที่เขาชอบมากที่สุดของวิคตอเรีย วาเลนติโนก็ได้
[4]
ลูกาคิดว่านั่นเป็นการตอบรับคำท้าทาย
ไม่ใช่หรอก อาเดรียโนไม่ใช่อัลฟ่าพรรค์นั้น เขาก็แค่รู้สึกว่ามันสมองของวิคตอเรียมีค่าเกินกว่าจะปล่อยไว้เฉยๆ และวิคตอเรียควรค่าจะได้คนที่เห็นความสำคัญกับหล่อนมากกว่านั้น
เขาไม่ได้รักหล่อน แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าต้องการครอบครอง
เพื่อถนอมรักษา
คนแบบนี้ ถ้าได้เป็นภรรยาก็คงจะดี ถ้าได้เป็นมิตรสหายที่ไม่มีเรื่องของแฟมิลี่มาเกี่ยวข้องกันก็คงจะดี ผลประโยชน์เปลี่ยนคนได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะธุรกิจเปื้อนเลือดที่ทำเงินมหาศาล อาเดรียโนรู้ว่าพ่อวางใจลูซิโอ วาเลนติโน และรู้ว่าลูซิโอ วาเลนติโนเองก็ไม่คิดทรยศความเชื่อใจของฟัลโค ตราบเท่าที่ต่างฝ่ายต่างมีสิ่งที่ตนต้องการมาให้ แต่ที่พาให้เขาระแวงคือคาโปบางคนในนั้น กับตัวลูกชายคนโตต่างหาก
ความดุดัน ความรุนแรง ความแข็งกร้าว เป็นสิ่งจำเป็นต่อโลกฝั่งนี้ก็จริง แต่สิ่งที่คนพวกนั้นไม่ควรลืมคือสติกับมันสมอง เขาเห็นมามากแล้ว กับพวกที่ใช้ความรุนแรงเป็นใหญ่ ใช้อารมณ์เป็นเจ้าเรือน มุทะลุดุดัน ใช้ความใจใหญ่ใจกล้าซื้อใจคนรอบตัวไปได้ แต่ท้ายสุดก็พ่ายแพ้ให้กับพวกที่ใช้หัว
ห่วงวาเลนติโนอย่างนั้นหรือ?
ไม่หรอก ไม่ใช่เลย
เขาแค่ไม่อยากเห็นลูกสาวคนเดียวของบ้านนั้นโดนฉุดกระชากลงไปด้วยความไม่ยั้งคิดของพี่ชาย
หล่อนมีค่ามากกว่านั้น ควรถูกเห็นค่ามากกว่านั้น เสียงของหล่อนควรมีคนฟัง
ผู้หญิงคนนั้นควรได้เป็นดอนนา ไม่ใช่แค่เงาร่างหลังม่าน ที่จะโดนบังคับให้แต่งงานกับคาโปหรือผู้เอื้อประโยชน์ทางธุรกิจสักคนหนึ่งเพื่อเสถียรภาพของแฟมิลี่ที่ไม่ได้ให้ค่าตัวเอง
[5]
หล่อนไม่ได้เกลียดอัลฟ่าเสียทีเดียว เพียงแต่ต้องการคนที่รับฟังสิ่งหล่อนคิดอย่างผู้ที่เสมอกัน และเมื่อเขาฟัง หล่อนก็เปิดใจ
วิคตอเรียเป็นผู้หญิงน่ารัก
แน่ล่ะ ทั้งเขาทั้งหล่อนต่างก็ระวังตัวในการคบหาเช่นเพื่อน แต่อาเดรียโนก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าหล่อนเป็นน่ารัก น่ารักเสียจนน่าเสียดายที่เขาจะไม่มีโอกาสได้หล่อนเป็นของตัว
เขาชอบคนฉลาด มีความคิด กล้าโต้แย้งกันซึ่งหน้า แต่ไม่ใช่พวกชอบจะเอาชนะระรานกันเสียจนไม่พิจารณาเหตุผลอื่น และวิคตอเรียก็เป็นคนแบบนั้น หล่อนตลก หล่อนฉลาด หัวไว ที่สำคัญคือฝีปากคมคาย
เขาไม่เคยรู้ว่าตัวเองชอบผู้หญิงปากร้าย
หรือบางทีเขาอาจจะแค่ชอบเพราะเป็นส่วนประกอบหนึ่งของวิคตอเรียก็ได้
หล่อนชอบงานศิลปะเหมือนกัน มันตลกดีที่พวกเขาคุยกันได้เป็นวันๆ ถึงงานภาพพิมพ์ไม้ญี่ปุ่น งานศิลปะลัทธิใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในฝั่งยุโรป ราคางานศิลปะ พิพิธภัณฑ์ที่ทยอยเปิด
“ถ้าไม่ใช่ว่ามีหน้าที่รับผิดชอบตรงนี้ ผมอาจจะเผ่นไปปารีส เป็นนายหน้าขายงานศิลปะไปแล้วก็ได้” เขาว่าติดตลก
“ถ้าไม่ใช่ว่ามีหน้าที่รับผิดชอบตรงนี้ ฉันอาจยอมเป็นเมียคุณ แล้วเผ่นไปปารีสด้วยกันแล้วก็ได้” หล่อนหัวเราะ
แล้วหยุดขำ
จูบแรกระหว่างกันตามมาไม่นานหลังจากนั้น บนเรือเล็กๆ ที่ล่องกลางอ่าวอัพเปอร์เบย์
[6]
เขาตั้งใจว่าจะไม่เป็นอย่างอัลฟ่าคนอื่นๆ ประเภทที่มีบ้านเล็กบ้านน้อย เลี้ยงอีหนู เอาผู้หญิงกับโอเมก้าเป็นการประกาศศักดาตัวเอง สาบานไว้ว่าจะไม่มีลูกนอกสมรส จะไม่ทำให้เด็กที่ไหนลำบากจากความมักมากของตัวเอง ถ้าจะมี ก็ต้องมีกับคนที่เป็นคู่สมรสตามกฎหมาย
แต่ท้ายสุดแล้ว เขาก็มีสัมพันธ์กับวิคตอเรีย หลายต่อหลายครั้ง แต่จะกี่ครั้ง วิคตอเรียก็ยังเป็นของวิคตอเรีย ไม่ใช่ของตัวเขา มันเป็นความสัมพันธ์ที่เกิดจากการตรึกตรองดีแล้ว ต่างฝ่ายต่างพอใจ และได้ประโยชน์สมดังประสงค์ อย่างน้อยที่สุด ต่างคนต่างก็ได้อิ่มเอมจากการหลุดจากพันธนาการชั่วครั้งคราว
อาเดรียโนรักเวลานั้น
เขาชอบน้ำหนักตัวที่กำลังพอดีของวิคตอเรียในอ้อมแขน ชอบความนุ่มลื่นของผิวหล่อน ชอบกลิ่นหอมจางๆ ที่ติดมา ชอบที่หล่อนยอมให้เขากอดและกอดเขาไว้
พวกเขาไม่เคยบอกรักกัน แต่เมื่อถึงวันหนึ่ง อาเดรียโนก็รู้ว่ามันไม่จำเป็นอีกแล้ว
[7]
“ฉันกำลังจะแต่งงาน”
วันหนึ่ง ระหว่างกินมื้อดึกด้วยกัน หล่อนก็โพล่งบอกเขา อาเดรียโนพยักหน้า เขารู้อยู่แล้ว
“ผมต้องบอกยินดีด้วยใช่ไหม”
“ถ้าไม่รู้สึกอย่างนั้น ก็ไม่ต้องพูดก็ได้”
“แค่ตามมารยาท” เขาว่า แล้วลุกขึ้น มันเป็นอึดใจหนึ่งที่ลังเล ก่อนก้มลงกอดหล่อนไว้
“ไม่คิดจะพูดอะไรทำนองว่า จะพาฉันหนีไปที่ไกลๆ หน่อยเหรอ” วิคตอเรียถาม “อย่าง ปารีส?”
“วิคตอเรีย”
“หรือบอกว่า จะพาตัวฉันไปอยู่ในเซฟเฮาส์ เลี้ยงเป็นเมียเก็บ อะไรทำนองนั้น” หล่อนเงยหน้าขึ้น เอียงคอ ดึงศีรษะเขาให้ซบลงบนบ่า ริมฝีปากและไรเคราสากๆ ครูดผิวหล่อน
“คุณมีเกียรติกว่านั้น”
“แล้วทำไมไม่เคยขอฉันแต่งงาน บอกอยู่ตั้งหลายครั้งว่าฉันยอมเป็นเมียคุณก็ได้”
“ขอไปคุณก็ปฏิเสธอยู่ดี” เขาจูบเบาๆ ที่เนินคอ
“ขอให้ฉันได้ยินสักครั้งไม่ได้หรือไง”
“คุณไม่เคยทำอะไรที่ไม่มีประโยชน์ ไม่เคยอยากได้อะไรที่ไม่มีประโยชน์ไม่ใช่เหรอ” อาเดรียโนจูบอีกครั้ง
“การนอนกับคุณเป็นเรื่องไม่มีประโยชน์ที่สุดเลย” วิคตอเรียตอบ “แล้วยังจะบอกว่าไม่เคยทำอยู่ไหม”
เขาไม่ตอบ เขาแค่กอดหล่อนไว้หลวมๆ แล้วจูบอีก ซ้ำๆ ไล่จากลำคอขึ้นไปถึงมุมปาก ลูกสาวคนเดียวของวาเลนติโนหันมาจูบตอบ เธออ้อยอิ้งอยู่นาน
“ถ้าเป็นคุณก็คงจะดี”
อาเดรียโนไม่ตอบอะไร
“หรือได้สักครึ่งหนึ่งของคุณก็คงจะดี”
“ถ้าเขาเป็นได้แบบนั้น คุณจะรักเขาหรือเปล่า”
วิคตอเรียไม่ตอบอะไร
“มีเซ็กส์กับฉันได้ไหม”
[8]
หลังจากนั้นไม่นาน อัลฟงโซ่ก็ถูกลอบสังหาร ฟัลโคกับวาเลนติโนแตกหักกัน
แล้ววิคตอเรียก็คลอดลูก ทารกเพศชายที่ยังไม่แสดงเพศรอง ดวงตาสีฟ้า กับผมสีน้ำตาลอ่อน
แต่เด็กเกิดใหม่ที่ไหนก็ตาสีฟ้า ผมสีอ่อนกันอยู่แล้ว
อาเดรียโนจึงหวังสุดใจ ขออย่าให้เมื่อโต เด็กนั่นกลายเป็นอัลฟ่า
(To be continue in commu #ABO1920s)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in