2016 Years Review
ว่าด้วยชีวิตในปี 2559 (ยาวมากๆ)
เนื่องจากเห็นว่าเพื่อนของเรา คุณพกชนิม พิมพ์ชนก ผู้ฝึกงานคอยเทนต์แห่งมินิมอร์ เขียนเกี่ยวกับตัวเองในปี 2016 เราก็อยากเขียนเล่าเรื่องของตัวเองบ้าง
นั่นแหละ คือเรามีพี่ที่อยู่ชั้น 5 ชั้นเดียวกันในที่ฝึกงานเขียนเป็นย่อยๆ แต่เราขี้เกียจแยกเลยขอเขียนก้อนๆเลยละกัน 5555 สำหรับปีนี้เป็นปีที่สนุก อโลน และ Change My Mind มาก
เรื่องการเรียน
----------------
ในปี 2016 ต้นปีคือช่วงของปี 3 เทอม 2 เป็นวัยที่เตรียมตัวขึ้นปี 4 เป็นปีแรกของชีวิตที่เจอตัวคิตตี้ (น้องเหี้ย) มากที่สุดในชีวิต คือเจอ 16 ตัวคือมีความเชื่อของ มหาลัยคือ ถ้าเห็นอีตัวนี้แล้วเราจะได้เกรด A ไง /มองคะแนนที่ Reg
ปีนี้ก็ยังเป็นปีที่เรายังถามตัวเองอยู่ ว่าเราทำไมไม่ย้ายไปสาย Multimedia นะ เพราะเห็นงานธีสิส หัวข้อของเพื่อนแต่ละอันคือชอบมาก โดยเฉพาะเว็บเที่ยวพิจิตของอนิรุท และ การค้นพบ Adobe Muse นี่โห มันเจ๋งมากๆ แต่เราก็ถลำชีวิตอยู่ Graphic มาได้ จะ 2 ปีแล้ว จะกลับไปก็กลับไม่ได้อ่ะ 5555
สิ่งที่พีคที่สุดของเราในชีวิตปีนีคือ วิชา Signage Design ของอาจารย์ต๋อม คือเป็นวิชาที่เรา Hate ที่สุดตั้งแต่เรียนกราฟฟิกเลยไม่รู้ทำไมเหมือนกัน 555
ในวันนั้น Final Project มีงานที่จะต้องให้เราไปที่ไกลๆ คือให้ไป วังจันทน์ในเมือง คือเป็นคนขับรถไม่แข็ง คือขับไปโดนชนแน่ๆ ล้มแน่ๆ เลยจะซ้อนรถเพื่อนอีกคนไป แต่เพื่อนมันมีคนไม่ไปด้วยแล้ว แล้วรถของมันคือไม่รับซ้อนสาม เราเลยรอมันไปกับเพื่อนอีกคนนึงก่อนแล้วเราไปด้วยทีหลัง งานก็เสร็จช้ากว่าคนอื่น ด้วยความงี่เง่าของตัวเองด้วยแหละ ที่จะกับมันให้ได้
วันสุดท้ายก่อนวันส่ง Final Project อีกวันต้องไป Present ละเออวันนั้นตื่นสาย อีก 7 นาทีเข้าห้อง ตื่นมาปุ๊ปเราก็รีบบึ่งมาคณะเลย พอมาถึงสายไป 3 นาที แล้วคืออาจารย์ล็อคห้องแล้ว สิ้นหวังมาก แล้วเราก็แชทไปหาเพื่อนให้เปิดประตูให้หน่อย แต่เพื่อนไม่ตอบ เพื่อนทิ้งเราแน่ๆ ทีนี่ก็โทรหาเพื่อนก็ไม่รับสาย หลังจากนั้นมารู้ทีหลังว่าอาจารย์บอกพวกเพื่อนว่าไม่ให้ช่วย นั่งรอหน้าห้อง Present (อาภัพมาก)ได้ 2 ชั่วโมง อาจารย์ก็ออกมาแล้วบอกว่า เธอไม่ได้คะแนน Pre นะ หลังจากตอนนั้นก็ ดาวน์มาก นัดเพื่อนกินเหล้ายอมใจ อกหักยังไม่เสียใจเท่านี้อ่ะ
บทเรียนชีวิตมากๆ
---- I hate Signage ---
ปิดเทอม (ช่วงฝึกงาน)
--------------------------
ก่อนหน้านั้นเราไม่รู้จักนิตยสาร Giraffe มาก่อน เรารู้จักได้เพราะตอนนั้นอาจารย์คุยให้ฟังว่าพี่พีช ได้สมัครของยีราฟแล้วไม่ได้รับการตอนรับจาก ยีราฟ แล้วไปสมัครของ Smallroom แล้วได้ แล้วทีนี่ ยีราฟ มาตอบรับทีหลังแต่ไม่ทันแล้ว หลังจากนั้นเราก็ไปหาว่า ยีราฟคืออะไร แล้วโดนมาก เป็นแหนคลับนิตยสารตั้งแต่ตอนนั้น
หลังจากปิดเทอมช่วงนั้นก็เป็นตอนฝึกงาน ตอนแรกเราสมัครของ ยีราฟ ไป แต่ส่งช้าไป 3 วัน มีคนได้ก่อนหน้าเราไปแล้ว เกินโควต้ารับเด็กฝึกงาน ตอนนั้นเศร้าเหมือนกัน เพราะเล็งไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เลยจะสมัครของแซลมอน แต่เหมือนเขายังไม่เปิดรับ จึงไปสมัครของ Minimore เพราะเคยเข้าเว็บนี้เพื่ออ่านคอนเทนต์ฆ่าเวลา และเห็นบ่อยๆตรงหลังปกหนังสือของ Salmon book เราก็เลยลองสมัครดู สมัครไปได้วันนึง วันต่อมาตอบรับเลย //เห้ย ไวมากๆ
หลังจากเข้าไปบริษัทคือ Change My Mind มากๆ เพราะเราไม่เคยอยู่ในสังคมของคนที่มีความคิดขนาดนี้มาก่อน คือคุยเรืองกระแสสังคม เรื่องความคิด การเมือง เคป๊อปอย่างเปิดเผย แล้วเราได้พูดคุยจนทัศนะของเราก็ค่อยๆเปลี่ยนไป คือเราก็เป็นคนคุยเรื่องพวกนี้กับเพื่อนนะ แต่เพื่อนไม่ค่อยมันส์ไปกับเรา อีกกลุ่มก็ฮาร์ดคอร์ไปเลย เลยไม่พูดไปเลยดีกว่า พอมาเจอสังคมที่มัน Fit มันพอดีกับเรา เราก็เลยมีความรู้สึกดีไปเลย ไม่มีความกดดันในการทำงานเลย ได้เขียนคอนเทนต์ของตัวเอง ได้มีอิสระในการทำเรื่องใหม่ๆ (เขียนในนี้ minimore.com/author/kikkoythekoyและ ในนี้ minimore.com/author/minimoretrainee)ได้เจอพี่ๆที่ฝึกงานที่ปัจจุบันก็ยังติดต่อกันอยู่ในทวิตเตอร์บ้าง ไลน์บ้าง และมันมีความสุขดี ก็อยากขอบคุณตอนนั้นที่ยีราฟไม่รับเราเหมือนกันนะ 5555 ที่ทำให้เจอสังคมดีๆใน มินิมอร์ แล้วก็ยินดีกับพี่กิ๊ฟด้วยนะครับที่จะได้เป็นฝั่งเป็นฝากับสามีแล้ว
สำหรับบทความที่เพื่อนเขียนใน minimore ปีนี้ก็ชอบของ พลอย มากที่สุดทั้งเรื่องฝึกงานและเรื่องระทึกตอนไปดูหนังตอนกลางคืน (และเราแนะนำบทความของพลอยให้พี่ตาล ลองเอาไปลงใน weekly maker และก็ได้ลงจริงๆด้วย)
เรื่องความสัมพันธ์
----------------------
กับเพื่อน ปีนี้เป็นปีที่น้อยใจเพื่อนน้อยที่สุด และโดนเพื่อนน้อยใจน้อยมากที่สุดเช่นกัน และเจอคอมเม้นคำว่า "น้อย" มากที่สุดในทุกโพสของปันปัน ปีนี้ยังคงเป็นปีที่เราอยู่กับ สิ กอล์ฟ ปันปัน เปา และอีฟมากที่สุดเหมือนเดิม มีน้อยใจเรื่องไม่ยอมไปเที่ยวด้วยบ้าง แต่เราก็ไม่ได้อะไรมาก ยังคงยึดถือคำพูดที่ Change my mind ของปีที่แล้วของสิอยู่คือคำว่า "บางเรื่องก็ไม่ต้องใส่ใจมันมากก็ได้" ก็ยังคงยึดถือคำนี้และมีความสุขมากขึ้นในปีนี้ เพื่อนคนอื่นๆก็ยังชอบเหมือนเดิม คนไม่ชอบก็ยังคงเหมือนเดิม คือยังไม่มีอะไรที่ทำให้ชอบมันอยู่ดี 5555 เจอกันบ่อยมากขึ้น เพราะไม่มีวิชาแยกกันเรียนแล้ว โดยรวมทุกอย่างก็เหมือนเดิม เริ่มอยู่กับตัวเองมากขึ้น ไม่เรียกร้องบังคับให้ใครไปกินด้วย ถ้ามันขี้เกียจไป ก็ไม่ได้รั้นเหมือนเมื่อปีก่อนๆแล้ว
ความสัมพันธ์กับคนอื่น ปีนี้ได้คนจากแอปพริเคชั่นมี 2 คน คนแรกเป็นคนคุยดี เรียนดีมากๆ เก่งมาก และมีลิมิตในการเจอกันคือต้องคุยกัน 2 เดือนขึ้นไป สุดท้ายก็ไม่รอด คนต่อมาทุกอย่างดีไปหมดเลย สุดท้ายพอเจอและอยู่ด้วยกัน 1 วัน มันก็ไม่รอด ด้วย Personal ที่แตกต่างกันเกินไป สุดท้ายปีนี้ก็เป็นอีกปีที่ไม่มีคู่เค้าดาวน์
ความสัมพันธ์อื่นๆ
---------------------
ปีนี้ได้เจอคนมากหน้าหลายตามากๆ เป็นปีที่ได้พบเจอคนใหม่ๆและดีกันมาก ได้เจอมิว ที่เจอครั้งแรกก็พูดเยอะใส่กันเลย คุยกันเยอะมาก ทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ไม่ว่าเจอกันกี่ครั้งก็พูดมากใส่กันเหมือนเดิม โดยเฉพาะปรัชญาความรัก พูดคุยกันบ่อยมาก คนต่อมาก็ป๊อป คนนี้เจอกันก็พูดจ้อกันไม่หยุด คือเจอกันครั้งแรกเหมือนรู้จักกันมาก่อนอ่ะ เป็นคนที่ตลกมากเช่นกัน
คุณพิมพ์ชนกสาวอักษร ได้เจอกันตอนฝึกงาน ตอนแรกเราไหว้ด้วยเพราะนึกว่าเป็นพี่ฝึกงาน เนื่องจากพี่หนึ่งยังดูหน้าเด็กมาก ก็นึกว่าอายุจะพอๆกับพี่หนึ่ง สรุปคืออายุเท่าๆกัน มาคุยกันเยอะมากขึ้นคือตั้งแต่เล่นบอร์ดเกม แล้วเราเป็นคนชอบแกล้งก็เลยเล่นแล้วแกล้งจนได้คุยกัน แล้ววันท้ายๆของการฝึกงานคือคุยกันมันส์ไม่หยุด จนต้องย้ายที่มานั่งใกล้ๆกันเพื่อคุยเลยอ่ะ 55555
เป็นปีที่มีความสุขที่ตัวเองได้ให้คำปรึกษากับน้องๆ ทั้งน้องทอฝัน น้องโรลี่ จนเรารู้สึกได้ทำหย้าที่ของคำว่า รุ่นพี่ได้ดีที่สุดแล้วในปีนี้
ตอนนี้น้องทอฝันก็ำด้มินิมอร์แล้ว ซึ่งเราดีใจไปกับน้องด้วยเหมือนกันนะ ส่วนเจ้าโรลี่ก็สู้ๆล่ะ เป็นกำลังใจให้นะน้องรัก
ความสัมพันธ์อื่นๆอีก ในเรื่อง Love Love
--------------------------------------------------
ปีนี้เป็นปีที่เราเคลียกับรุ่นน้องคนนึงที่เราใช้ความชอบ ความเห็นแก่ตัวของเรากับน้อง จนมันพังไปหมด สุดท้ายตอนงานเลี้ยงเราก็อยากเคลียสิ่งที่มันค้างคาในใจของเรา สุดท้ายมันก็จบลงด้วยดี ซึ่งเป็นสิ่งที่โล่งใจเรามาก และตอนนี้เราไม่คิดอะไรเกินเลยกับน้องคนนั้นเลยนอกจากคำว่า พี่น้องเท่านั้น (มารู้ทีหลังว่ามันมีแฟนแล้วด้วยนะ )
และปีนี้เป็นปีที่มีคนเข้าหาเรามากที่สุดในชีวิต มีคนนึงจากทีฝึกงาน ซึ่งเรามารู้เองเพราะบังเอิญเจอทวิตของเขา ว่าเขาชอบเรา แต่เราก็เฉยๆ และสุภาพกับเขาเหมือนเดิม จนสุดท้ายเขาก็ตัดใจ รู้เพราะไปอ่านในทวิต(ไอคนขี้เสือก) แล้วตอนนี้เขาก็มีแฟนใหม่ไปละตอนนี้ ยินดีด้วยนา
แล้วก็มีคนอื่นๆอีก ที่ทักแชทเรามา แต่เราก็เลือกที่จะไม่ตอบบ้าง ถ้าไม่มีอะไร หรืออ่านเฉยๆ เพราะเราคุยกับคนอื่นผ่านโลกออนไลน์ไม่เก่ง คือต้องเจอกันก่อนและคุยกันได้ระดับนึงแล้ว เราถึงจะคุยและต่อประโยคสนธนาได้
คนที่เราชอบปีนี้ก็มี เป็นรุ่นพี่ 2 คน รุ่นเดียวกัน 1 คน แต่ตอนนี้คือเราชอบเฉยๆมากกว่า ซึ่งตอนนี้ก็ยังชอบอยู่ ด้วย ทัศนะคติและสไตล์ที่เราคิดว่าอยู่ด้วยแล้ว มันมีความสุขแหละ แต่ปีนี้ก็มีความคิดจากบทเรียนที่เคยทำพังไปมากขึ้น เลยเลือกที่จะให้มันเป็นไปเองมากกว่า ต้องแน่ใจว่าเขาก็ชอบเราด้วยเหมือนกันเราถึงจะเข้าหา และไม่ใส่ใจกับการกดไลท์มาเค้าจะชอบเราเหมือนกัน เราคิดว่ามันเป็นเพียงมารยาทเท่านั้น ไม่ได้อะไร (แต่ยังแคปไปคุยกับเพื่อนให้กลุ่มครึกครื้นอยู่บ้างนะ เราชอบมากๆเวลาเพื่อนสนุกและตลกกัน)
ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว
----------------------------------------
ปีนี้เป็นปีที่เราเข้าหาพ่อมากที่สุดในทุกๆปี เราไม่สนิทกับพ่อเลย แต่ปีนี้เป็นปีที่เขาหา และกวนตีนพ่อบ่อยมากๆ เราเคยพูดกับคนอื่นว่ารักแม่มากกว่า แต่ตอนนี้เรารักทั้งสองคน ไม่มากกว่าไม่น้อยกว่า ยังคงรักแบบนี้ไปเรื่อยๆ เรื่องเหล้าเบียร์ก็อยากให้ลดๆนะ แต่ทำไม่ได้ เพราะทั้งคู่ก็ต้องรักษาคอนเน็คชั่นการทำงาน และเพื่อนๆของเขาอยู่ จึงให้เขาเลิกไม่ได้ ก็ยังเป็นห่วงอยู่นะ อยากให้สุขภาพแข็งแรงแบบนี้ไปนานๆ ไม่เจ็บไข้
สุดท้ายปีนี้เป็นปีที่ดีมากๆ แม้ต้นปีจะเจอเรื่องร้ายๆมา แต่ ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ เป็นปีที่ดี เป็นปีที่พัฒนาชีวิตตนเองมากๆ ได้เจออะไรหลายๆอย่าง ผู้คนมากหน้าหลายตา และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อมากขึ้น เป็นปีที่ไม่ได้โหยหาความรัก นอกจากตั้งสเตตัสตลกๆเฉยๆ แม้ปีนี้จะไม่ได้สมบูรณ์แต่เป็นปีที่เราชอบมากที่สุดตั้งแต่เกิดมาเลย ขอบคุณทุกคนที่ทำให้ผ่านปีนี้ไปได้ ...
(ปล.ตอนแรกจะใช้กราฟฟิกที่แบ๊วกว่านี้ แต่ mac กันแบตหมดซะก่อนเลยใช้ iphone ทำรูปแบบนี้แทน 5555)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in