เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายคุณชายรีวิวหนังสือ
คุณชายรีวิวสเก็ตหัวใจไปหยุดที่เธอ - 2 เล่มจบ


  • [ถ้าไม่เอาเรื่องย่อให้เลื่อนไปตรงรีวิว]

    คุณชายรีวิวสายวิเคราะห์สเก็ตหัวใจไปหยุดที่เธอ - 2 เล่มจบ
    แนวหนังสือ : จีนแปลปัจจุบัน รักวัยเยาว์ นางร้ายวัยเด็กที่รักนาย หลัวในกำมือ นักกีฬาสเก็ต ครอบครัว คอมเมดี้ สุขนิยม
    __________________________________________________________
    [คุณชายสายย่อเรื่อง]

    นางเอก [ถังเสวี่ย] เกิดมาพร้อมกับความแก่นเซี้ยวระดับพระกาฬ ความสดใสสุดแสบมีเกินจะเอ่ยถึง ตัวเป็นลูกครูใหญ่ แม่เป็นหมอ เธอจึงแต่งตั้งตัวเองให้เป็นฮ่องเต้ถังคุมห้องตั้งแต่ ป.2 แล้วจับบรรดาเพื่อนร่วมห้องมาเป็นนางสนม ก่อนมอบตำแหน่งสูงสุดให้กับสนมเอกหนึ่งเดียวของเธอนั่นก็คือ...

    พระเอก [หลีอวี่ปิง] เด็กหนุ่มผู้มีชะตา(กรรม)มากกว่าดี รับบทเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน ทว่าเกิดมาเพื่อถูกนางเอกข่ม—แกล้ง---แย่ง---ชิง แม้กระทั่งค่าขนมมามากว่า 6 ปี ไม่กล้าฟ้องใคร เพราะอับอายที่โดนเด็กผู้หญิงอย่างถังเสวี่ยรังแก เมื่ออยู่ต่อหน้าอีกฝ่ายก็เหมือนอยู่หน้าฮ่องเต้ ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอม เขาจึงเริ่มวางแผนหาทางดีดถังเสวี่ยออกไปจากชีวิตให้ได้

    และเวลานั้นก็มาถึงจริง ๆ เป็นวันที่หลังจากจบการศึกษาระดับต้น ก้าวเข้าสู่อีกก้าวหนึ่งของชีวิต พบสังคมใหม่ เพื่อนร่วมโต๊ะคนใหม่ ทิ้งภาพลักษณ์คุณชายนุ่มนิ่มในวัยเด็ก กลายร่างเป็นนักกีฬาตัวท็อปที่มีพรสวรรค์ เปี่ยมด้วยเสน่ห์ของหนุ่มในเครื่องแบบนักกีฬา ความหล่อเหลายิ่งไม่ต้องพูดถึง

    กล่าวได้ว่าทุกอย่างล้วนไปในครรลองที่ดีเมื่อไม่มีถังเสวี่ยอยู่ร่วมด้วย
    พ้นจากนั้นหลายปี เขาก็มีความคิดอยากแก้แค้นอดีตบอสใหญ่ประจำห้องอย่างถังเสวี่ย อวดให้รู้ว่าเขาหล่อเหลา เป็นนักกีฬามหาลัย และสูงเกินกว่าเธอจะเตะก้นถึง
    แต่เมื่อได้เจอกันอีกครั้ง ความตั้งใจทั้งหมดก็กลายเป็นอีกความรู้สึกอื่นเพิ่มเข้ามา

    จากเดิมที่เคยนั่งอยู่ในตำแหน่งสนมเอก ชักเริ่มอยากใส่ตัวเองให้เป็นฮองเฮา ทว่าเขาก็ต้องผ่านด่านนางสนมหลายด่าน โดยเฉพาะสนมเมิ่งกับเด็กหนุ่มในฐานะพระรองที่มีลักษณะคล้ายเขาในอดีต
    และหนึ่งด่านใหญ่ที่ยากจะเลี่ยง การเผชิญหน้ากับ ‘พ่อตา’ ผู้นั่งตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ประจำบ้าน
    ทั้งหมดนี้คือเนื้อเรื่อง ซึ่งชายบอกได้เลยว่า...มีทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง


    [คุณชายสายวิเคราะห์]
    __________________________________________________________
    นิยายเรื่องนี้อยู่ในหมวดอารมณ์นิยายรักของวัยรุ่น พระนางเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ แต่ไม่ใช่แนวเขียนที่ขายความรักเพียงมิติเดียว มีบรรยากาศครอบครัวปู่ย่าตายายที่รักหลานสาวยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด กลุ่มเพื่อนนางเอกที่นักเขียนสร้างตัวละครไว้ช่วยเสริมความสนุก บรรยากาศในวัยเรียน ยาวไปจนถึงช่วงเวลาที่จากเด็กซ่าซนแสบสันกลุ่มหนึ่งโตเต็มวัย ได้สัมผัสกับความรัก ความเสียใจ นานาปัญหา ไม่อย่างนั้นชายคงไม่ยกเรื่องนี้ให้เป็น อันดับ 1 ประจำปีของปีนี้

    เขาจะเริ่มเล่าตั้งแต่วัยเด็กของตัวละคร 'วัยประถม' ใช้นางเอกถังเสวี่ยเป็นสายเอนเตอร์เทน ตั้งตัวเป็นฮ่องเต้เจ้าถิ่นปั่นป่วนผู้คน ซึ่งวีรกรรมของถังเสวี่ยนั้นเป็นความสนุกของคนอ่าน แต่มันเป็นกรรมของพระเอกหลีอวี่ปิง
    ?ใช้พระเอกเลี้ยงไก่ นางเอกถือไข่ นางตั้งตัวเองเป็นแม่ พระเอกเป็นพ่อเจ้าไข่ อิบทพ่อไก่แม่ไก่เนี่ยฮาสุด อยากให้อ่านกันเอง
    ?บังคับให้พระเอกทำข้อสอบผิด ไม่งั้นฉันจะเล่นงานนาย ตรงนี้มีประเด็น ปกตินางเอกก็ไม่อะไรมาก แต่ครอบครัวดันตั้งรางวัลไว้ว่าถ้าเธอสอบได้ที่หนึ่งเธอจะได้ของบางอย่าง นางก็พยายามทำของนาง แต่พระเอกมันเก่งเกินมนุษย์ จะกี่ปีกี่เทอมนางก็สอบได้ที่สอง ขนาดไปบังคับเขาให้ทำข้อสอบผิดก็ยังได้ที่สอง
    ?นางเอกจะมีท่าไม้ตายอยู่อย่างหนึ่ง รู้ว่าพระเอกกลัวสัตว์อะไร ก็จะเอาไอ้เจ้าตัวน้อยตัวนี้ไว้ขู่พระเอก
    ?หรือเหตุการณ์สุดน่ารักอย่างตอนนางเอกงอนพ่อกับแม่ แต่...ไปบังคับพระเอกให้หนีออกจากบ้านด้วยกัน แล้วเผอิญว่าลืมกระเป๋าเสบียงบนรถเมล์ สุดท้ายทริปหนีออกจากบ้านมีอันต้องล่มลง เพราะหิว นางเลยจูงมือพระเอกไปหาตำรวจจราตรแล้วบอก ‘คุณตำรวจคะ พวกหนูมามอบตัว’
    อันนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่ชายยกมาให้กับคนที่อยากรู้แนวของนิยาย

    ซึ่งต้องบอกก่อนว่า...การแกล้งของนางเอกอยู่ในขอบเขตของเด็ก ไม่ใช่การแกล้งที่ทำให้อีกฝ่ายเกิดปมชีวิตในวัยเด็กหรือกลายเป็นแผลฝังใจ นางรักพวกพ้องรักพระเอก ผิดแค่แสดงออกมาในมุมของ ‘นางมารประจำรุ่น’ อย่างเหตุการณ์หนึ่ง มีคนไถเงินพระเอก นางเอกเห็นเข้าก็ออกโรงฟาด!! ประกาศราชโอการ ‘เงินของเขามีฉันเท่านั้นที่สามารถใช้ได้’
    แล้วนักเขียนวางรายละเอียดกับอารมณ์ไว้ดีจริง ๆ เขาเก่งตรงที่ให้ภาพจำแบบนี้กับพระเอกว่าถูกแกล้ง วันนึงจะต้องหลุดพ้น วันนึงจะกลับมาหานางเอกเพื่อแกล้งคืน แต่พอโตเป็นหนุ่มแล้ว ความคิด มุมมอง โตขึ้นตามระยะทางของเวลา ยิ่งมองย้อนกลับไปในอดีตก็พบว่า เขาได้พลาดอะไรไปหลาย ๆ อย่าง จากที่คิดว่าดีแล้วกลายเป็นเสียดายระคนเสียใจ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ควรมีเขาอยู่ตรงนั้นกับถังเสวี่ย บทตรงนี้เขียนไว้ดีมาก

    จากนั้นเขาจะสลับภาพมาดูเรื่องราวของนางเอกในฐานะคนที่ถูกเพื่อนทิ้งไป ชายบอกเลยมีน้ำตาซึมตาม ภาพถังเสวี่ยเขียนจดหมาย หาทางติดต่อสหายวัยเด็กที่หายไป เขาเรียนที่ไหน เป็นอยู่อย่างไร ทำไมถึงทิ้งเธอไปโดยไม่บอกลากันสักคำ และด้วยความโหดร้ายของโชคชะตาที่เกิดจาก ‘ผู้ใหญ่’ยื่นมือมาขวาง เลยทำให้ทุกความรู้สึกนึกคิดของนางเอกที่เขียนส่งไป ไม่เคยถึงมือพระเอกเลย เท่ากับขาดการติดต่อกัน แล้ว effect หลังจากนั้นหนักมากสำหรับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง นางไม่แตะสเก็ตที่เคยเล่น เกิดความกลัวบางอย่างที่เกี่ยวกับเพื่อน คล้ายกับว่ากลายเป็นพระเอกที่ได้สร้างรอยแผลไว้โดยไม่ตั้งใจ

    แต่ไม่ห่วงเรื่องความดราม่าขมคอ เพราะยังเป็นนิยายรักที่มีต้นเหตุ ปลายเหตุ พอเข้าพาร์ทมหาลัยแล้วนางเอกโตขึ้นแล้ว นางก็กลับมาขายความแสบต่อ ด้านพระเอกหลังจากรู้ความต้องการของตัวเอง เขาเองก็ค่อย ๆ ฝ่าด่านหลายด่าน ยอมฝากตัวเป็นฮองเฮาเข้าคิวรอ ตรงส่วนนี้จะมีตัวประกอบอย่าง ‘สนมเมิ่ง’เพื่อนนางเอกเข้ามาเสริม จับตามองนางไว้ให้ดี ๆ ออกฉากไหนขำจนปอดเคลื่อน


    [ทิ้งท้ายกับคุณชาย]
    __________________________________________________________
    ในภาพรวม ชายชอบมาก มีแต่ความสุข ระหว่างอ่านมันจะมีความรู้สึกชวนให้คิดถึงสมัยเรายังเด็ก ๆ อย่างนางเอกในเรื่องชอบเล่นบทฮ่องเต้ จับเพื่อนในห้องเป็นนางสนม มีลูกกระจ๊อกคอยรับใช้ พ่อไม่กล้าให้เรียนเทคควันโด เพราะกลัวแกล้งเพื่อนหนักกว่าเดิม เลยเลือกเรียนสเก็ตเพื่อจะไม่มีเวลาว่างไปก่อเรื่องให้ชาวบ้านเดือดร้อน จนเกิดเป็นเรื่องราวความรักของนักสเก็ตขึ้นมา

    ส่วนชายสมัยนั้นหรอ มั่นว่าชายก็ไม่แพ้นางเอก ดาบเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง ตำนานสั่งให้ทุกคนเอาเข็ดขัดย่ามาโรงเรียน พาดไหล่ผ่านอกเก๋ ๆ ทำเป็นสร้อยมณีชูขึ้นฟ้าปล่อยพลังน้ำลายฟู่ฟ่า แล้วยิ่งมีเยอะยิ่งดูเก่ง ซึ่งในแต่ละห้องมันก็จะมีหัวโจกแบบนางเอกหรืออย่างชายอยู่ พาเพื่อนหญิงเอาถ่านทาหนวดสร้างตำนานให้ครูปวดหัว และมันจะต้องมีตัวเอกในห้องที่ลักษณะคล้ายพระเอกของเรื่องนี้ เป็นพวกผู้ชายสายเรียน วางตัวเรียบร้อยเหมือนลูกคุณชาย แซวอะไรก็ยิ้มอาย เนี่ยแหละเหยื่อของพวกร้าย ๆ แบบเรา
    แต่พอโตแล้วก็อารมณ์วัยทองก่อนกำหนด เพื่อนคนแรกที่กอดหัวจมท้าย เพื่อนที่เราถูกมันแกล้ง-เราแกล้งมัน ทั้งเบื่อทั้งเกลียดเขียนแปะใส่เสื้อ แต่ก็ยังเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวที่เราย้อนนึกกลับไปยังแล้วคิดถึงอยู่ตลอด เช่นเดียวกับพระเอกที่ถูกนางเอกฟาดไว้ในวัยเด็ก

    สิ่งที่ทำให้นิยายเรื่องนี้สมบูรณ์แบบได้โดยไม่หักสักคะแนนเลยก็คืองานแปล-งานบรรณาธิการ ชายเคยชมนามปากกาจิ้งจอกธาราไว้ตั้งแต่ได้อ่านงานเขาครั้งแรก จนรู้สึกว่าถ้าในหมวด(เฉพาะ)แปลจีนปัจจุบันต้องให้คนนี้อยู่อันดับหนึ่งในมือวางทั้งหมดที่เคยอ่านมา เป็นคนที่มีคลังคำเยอะ ทำให้ภาษาไทยมันดิ้นได้ มีความเข้าใจตัวละคร แล้วดึงแครักเตอร์ตัวละครได้ออกมาตรงบริบทเรื่อง

    อย่างเรื่องนี้น้ำหนักเทไปทางแนวคอมเมดี้ ไม่ง่ายนะสำหรับชาย จั่วมุกกันเยอะ งานแปลก็ยิ่งยากขึ้น คำสรรพนามเอยอะไรเอย บ่อยไปที่เราอ่านนิยายตลกจ๋าแต่ดันกลายเป็นตลกเฝื่อน ซึ่งถ้าแปลเกินแปลขาด นางเอกก็จะดูเป็นเด็กผีฟันน้ำนม มัดผมจุกสองข้างด้วยยางวงรัดแกงถุง ผูกโบว์รุ่นราเขอะ เดินจุ้มเป๊ะขาเตะลมปล่อยกลิ่นส้มเหงื่อพร้อมแก๊งของเธอ แต่พอเป็นเวอร์ชันคนที่แปลดี เข้าใจสิ่งที่นักเขียนวางไว้ ถอดมุกนักเขียนได้ กล้าใช้คำเจิด ๆ ที่เหมาะกับตัวละคร มันจะดูเอ๊ะ...นางเอกคนนี้ร้ายแต่น่าเอ็นดู ตอนแปลเนื้อเพลงในเรื่อง หรือตอนกล่าวถึงลูกคู่อย่างสนมเมิ่งออกแต่ละฉาก ฮาคือฮา

    บททะลึ่ง ๆ ยิ่งสำคัญสำหรับงานแปล ช่วงนางเอกคัมแบคสู่วงการคนชอบแกล้ง เจอกับพระเอกที่เป็นหนุ่มแล้ว เริ่มคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ตอนนางแกล้งเอานิ้วไล้ไปตามร่างกายพระเอก อารมณ์ประมาณว่าใจฉันน่ะไม่คิดอะไร แต่จู่ ๆ มันมีบางอย่างตื่นทิ่มตานาง ชายก็ลุ้น....อะดูสิ เธอจะใช้คำแทนเจ้าอหังการนั้นว่าอะไร แล้วนางเอกจะทักด้วยคำแบบไหนเมื่อเจ๊อะสิ่งนั้น พออ่านเจอปุ๊บขำจริง ๆ กับคำที่เขาใช้ พอเขาเลือกใช้คำได้ตลกไม่ขัดกับแนวเรื่องที่ไม่ใช่ NC แต่ทิ้งจินตนาการให้เรานิดหน่อย ทุกอย่างมันเลยลงตัว
    อวยเหนื่อย พอ...

    สนุก ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อ ไม่หักสักตรง
    บทการแข่งขันสเก็ต เขียนออกมาได้สนุก เนื้อหาพอดี ๆ ไม่มากไม่น้อยเกินไป ไม่งั้นมันจะดูวิชาการ แต่กับบทการเรียนสัตวแพทย์ของนางเอกที่หากเรียนจบ จะต้องไปดูแลแม่หมูนี่ก็ม่ายยยมี
    ดังนั้น ควรมีในชั้นโปรด อย่าขัดใจชาย 

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in