เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อ่านแล้วเล่าFayathi Sorap
อ่านแล้วเล่า : โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน
  • ผู้เขียน : พลตรี ผศ. นพ. ไกรวัชร ธีรเนตร
    สำนักพิมพ์ : Amarin Healt
    จำนวนหน้า : 152 หน้า
    ราคา : 165 บาท


         ก่อนอื่น ขอโทษที่มาช้านะคะ พอดีงานช่วงเช้ามันติดพัน เพิ่งจะมาจบเอาเมื่อชั่วครู่นี่เอง เอาล่ะ มาเข้าเรื่องของเรากันเลย


         มีตลกฝรั่งยุคนี้ชอบเขียนแซวๆกันประมาณว่า
         Welcome to adult life which you hurt yourself while you're sleeping... แปลเป็นไทยได้ว่า ขอต้อนรับสู่การเป็นผู้ใหญ่ ช่วงอายุซึ่ง...แค่นอนหลับก็สร้างความเจ็บปวดให้คุณได้
         ซึ่งพอเข้าอายุสามสิบ บอกได้เลยว่า มันจริงมาก หลายครั้งแค่นอนหลับไป ตื่นขึ้นมาก็ปวดตรงนั้นที ตรงนี้ที บางทีก็ตะคริวกิน เป็นอะไรที่บ้าบอเหลือเกิน
      

         ทีนี้พอปวดนั่น ปวดนี่ ก็เริ่มสงสัยว่า เอ นี่ตูเป็นโรคอะไรเสื่อมบ้างหรือยัง(วะ?) ประกอบกับผู้ใหญ่ที่บ้านเริ่มอายุมากขึ้นๆเรื่อยๆ จึงคิดว่า หาหนังสือแนวสุขภาพมาอ่านเสริมความรู้บ้าง คงจะดี
         แล้วก็มาเจอหนังสือเล่มนี้


         เนื้อหาในเล่มก็ตามชื่อเรื่อง นั่นคืออธิบายรายละเอียดแทบจะทุกอย่างของโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน ตั้งแต่ที่มาที่ไปของอาการปวด ที่อาจไม่ได้มาจากโรคกระดูกสันหลังเคลื่อนเสมอไป โครงสร้างของร่างกาย ความหมายและสาเหตุของโรค การวินิจฉัยโรค และให้ความรู้เพิ่มเติมถึง
    โรคอื่นๆที่มีอาการคล้ายคลึงกับโรคกระดูกสันหลังเคลื่อน การรักษา คำแนะนำในการปฏิบัติตัว และวิธีจัดการร่างกายเพื่อให้ไม่ต้องผ่าตัด เมื่อเป็นโรคนี้เข้าเสียแล้ว


         ตอนแรกๆที่เคยได้ยินโรคนี้ คิดไปเองว่า การเจ็บปวดของร่างกายนั้นมักเกิดขึ้นเพราะความเพิ่มขึ้นของอายุเป็นสาเหตุ จนเมื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมรวมถึงจากหนังสือเล่มนี้ จึงเริ่มเข้าใจว่า แท้จริงแล้วโรคต่างๆสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย ทุกคน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการใช้ชีวิตของคนเรานี่เอง เช่น โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนนี้ เกิดเพราะอิริยาบถที่ไม่ถูกที่ถูกทาง เช่น ทนทู่ซี้นั่งเก้าอี้ที่ไม่เหมาะกับสรีระ เดินตัวงอ ยกของหนักไม่ถูกท่า ฯลฯ

         ที่แย่ก็คือ โรคพวกนี้มันเกิดขึ้นที่กระดูกสันหลัง จึงค่อนข้างที่จะอยู่ทน อยู่นาน ถ้าจะรักษาคือต้องรักษากันถึงข้างใน คือผ่าตัด ถ้าไม่ผ่าตัดก็ต้องใช้ยากลุ่มบรรเทาปวด หรือพวกสเตียรอย(ซึ่งมีฤทธิ์กัดโน่นกัดนี่ ผลข้างเคียงเยอะไปอีก)

         ดูเหมือนวิธีป้องกันอย่างหนึ่งก็คือการปรับอิริยาบถให้ถูกต้อง เช่น นั่งตัวตรง เดินอกผายไหล่ผึ่ง หรือให้ออกกำลัง ซึ่งก็....จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก คือถ้าเราเป็นคนนั่งหลังค่อนข้างจะงุ้มมาแต่ไหนแต่ไร การสั่งว่า นั่งตัวตรงตลอดเวลาสิ มันก็เหมือนการรื้อนิสัยที่มีมาให้หมด....ซึ่งมันก็จะลืมตัวได้ง่าย
      
         และส่วนที่น่าสนใจในหนังสือก็คือ ท่าบริหารร่างกายเพื่อปรับสมดุลและสร้างความยืดหยุ่นให้แก่กล้ามเนื้อและกระดูกสันหลัง ซึ่งเท่าที่ดูก็ไม่ยาก บางท่าทำได้ตอนนั่งทำงานเสียด้วย เช่นท่าที่บอกว่า ขณะนั่งเก้าอี้ให้ลองจับพนักเท้าแขนแล้วดึงลำตัวให้ลอยขึ้น ค้างไว้ แล้วกลับมานั่งตามเดิม ที่ต้องระวังคืออย่าเอะอะให้ชาวบ้านจับสังเกต และระวังอย่าซุ่มซ่ามหล่นจากเก้าอี้ก็พอ อ่อ อีกอย่าง เช็คก่อนด้วยว่าพนักเท้าแขนแข็งแรงพอจะรับน้ำหนักเราหรือเปล่า เดี๋ยวที่เท้าแขนหักขณะทำกายบริหารขึ้นมา นอกจากเจ็บตัวแล้วอาจต้องจ่ายค่าเก้าอี้ด้วย
         ลองที่ทำงานแล้วรู้สึกไม่เวิร์ค เพราะเก้าอี้มีล้อ นอกจากต้องกลัวเก้าอี้หักแล้วต้องมาตื่นตระหนกว่าตรูจะตกไหมตอนเก้าอี้เคลื่อนไปอีก..


         หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาเรื่องกระดูกสันหลังเคลื่อนหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคนี้ และด้วยความที่จำนวนหน้าไม่หนามาก จึงสามารถอ่านไปเรื่อยๆจนจบได้โดยไม่ใช้เวลามากเกินไปนัก

         ร่างกายเราไม่มีอะไหล่ เกิดอะไรขึ้นมาทีจะลำบาก เพราะฉะนั้น ถ้าเริ่มต้นดูแลร่างกายก่อนเกิดการเจ็บป่วย หรือสามารถรักษาโรคได้ทันท่วงที ก็คงจะดีมิใช่น้อย


         และหากใครคิดว่า "โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน" แพงไปหรือไม่คุ้ม เพราะจำนวนหน้าน้อยกว่าราคาในหนังสือล่ะก็ หนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในหนังสือในโปรโมชั่น "ลด 50% ซื้อห้าเล่มขึ้นไปลด 70% ของร้านนายอินทร์ ที่ลดทั้งในเว็บไซต์และหน้าร้าน ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ขายหมดแล้วหรือยัง หากสนใจก็แวะเข้าไปเยี่ยมชมที่ร้านนายอินทร์ก็แล้วกัน (ค่าโฆษณาก็ไม่ได้นะ คิดว่าแนะนำของถูกให้ละกัน เอิ้ก)


         ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่
         ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
         จนกว่าจะพบกันใหม่
         สวัสดีค่ะ 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in