ผู้เขียน : ท็อฟฟี่แบรดซอว์

สำนักพิมพ์ : spring book

จำนวนหน้า : 270

ราคา : 235 บาท

          ไม่รู้อะไรดลใจให้ซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน

          อาจเป็นเพราะเห็นชื่อเรื่องแล้วสะดุดตาอาจเพราะหน้าตาปกหน้าดูกวนๆดี หรืออาจเพราะเห็นชื่อผู้เขียนแล้วนึกไปว่าน่าจะเขียนอะไรขำๆ แสบๆ ให้อ่านแก้เครียดได้

          ถามว่าคาดหวังอะไรจากหนังสือเล่มนี้ไม่แน่ใจ ที่แน่ๆ...คงไม่ใช่แนวสาระจ๋าแน่นอน

          และแล้วเมื่อฤกษ์งามยามนี้ เจ้าเล่มนี้ก็มาอยู่ที่ตักเข้าจนได้

          เมื่ออ่านแล้วก็พบว่า"ไซเบอร์ราคะ" คือความเรียงเรื่องราวมุมต่างๆในชีวิตของคุณ"ท็อฟฟี่ แบรดซอว์" ผู้เขียนเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องราวในชีวิตจริงที่นำมาปะติดต่อต่อกับชีวิตในโลกออนไลน์ร้อยเรียงออกมาเป็นตัวอักษรลงบนกระดาษแต่ละแผ่นๆและรวบรวมจนกลายเป็นหนังสือเล่มหนึ่งได้ในที่สุด สาระเป็นวิชาการอาจไม่ค่อยมีแต่สิ่งที่พรั่งพรูจนอดเอาโทรศัพท์มาบันทึกภาพไว้แทบจะทุกบท คือคำคมสะกิดใจที่ทำให้รู้สึกว่า"เออ มันก็จริงของเขาแฮะ" เป็นสิ่งที่บางทีเราก็คิดออกบางที...เราก็คิดไม่ออก หรือบางที มันอาจอยู่ในใจเรามาสักพักแล้ว แต่ไม่เคยนึกถึงจนกระทั่งได้มาอ่านงานของเขา ว่าแล้ว ก็มาดูตัวอย่างกันบ้าง

          "บางครั้งสิ่งที่ดีที่สุดในความสัมพันธ์ของคนสองคนไม่ใช่การที่เรารักกัน แต่เป็นการที่เราไม่ได้รักกัน..."

          "บางทีสิ่งสำคัญอาจจะไม่ใช่การทำให้คนตกหลุมรักเราเร็วที่สุดแต่อาจเป็นการทำให้คนตกหลุมรักเราให้นานที่สุด.."

          นี่แค่ตัวอย่างหนังสือเล่มนี้ยังคงมีถ้อยคำเตรียมไว้ให้สะดุ้งหัวใจซ่อนไว้ในที่ใดที่หนึ่งของแต่ละบทอย่างแนบเนียนชนิดที่อ่านแล้วกึ๊ก หยิบที่คั่นหนังสือมาคั่น แล้วเปิดโทรศัพท์มาถ่ายรูปเก็บไว้ 

                                                               ข้อความบางส่วนจากในหนังสือ

          เก็บไว้ทำไมก็ไม่รู้ รู้แค่อยากเก็บก็แล้วกัน

          ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งรู้สึกว่าเราอินกับอะไรในหนังสือน้อยลงทุกที จะมีก็แต่ไปทะเลาะกับหนังสืออยู่เรื่อยแต่การอ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้เราอมยิ้มได้ ทำให้หัวเราะออกมาได้ และก็ทำให้น้ำตาไหลออกมาได้จริง

          จะว่าไปหนังสือเล่มนี้ก็เหมือนไดอารี่ที่บันทึกความรู้สึก เหตุการณ์ และเรื่องราวของผู้เขียนตลอดจนคนรอบข้างของผู้เขียนณ ช่วงเวลาหนึ่งๆที่คิดถึงขึ้นมาเช่นในบทๆหนึ่งที่เธอไปต่างประเทศแล้วก็เขียนโปสการ์ดมาหาเพื่อนเล่าเรื่องโน่นนี่นั่นไปเรื่อย จะมีสักกี่คนกันที่เราคิดถึงตอนไปเที่ยวจนต้องร่อนโปสการ์ดหา ถ้าไม่ใช่คนสำคัญจริงๆหรือวีรกรรมกางเกงแผลงฤทธิ์ขณะผู้เขียนไปร่วมงานอีเวนท์จนอดใจหายใจคว่ำไปด้วยไม่ได้และอื่นๆอีกมากมายเท่าที่จะหามาเล่า คิดๆไปก็อาจสงสัยว่า เอ มันเกี่ยวกับไซเบอร์ตรงไหน เอาน่า อ่านไปก็รู้เอง คุณทอฟฟี่เธอหาเรื่องโยงจนได้แหละ

          หนังสือเล่มนี้อาจไม่เหมาะกับคนที่ชีวิตต้องการความเคร่งเครียดตลอดเวลาคนที่ไม่นิยมการอ่านสิ่งหมิ่นเหม่หรือทะลึ่งตึงตังหรือคนที่ชอบให้ชีวิตอยู่ในร่องในรอยแบบไม่ต้องมีสีสัน

          แต่หากคุณต้องการทราบความเป็นไปของชีวิตใครสักคนอยากหาอะไรที่ไม่หนักสมองจนเกินไปนัก หรือประสงค์จะได้คำคมๆมากระตุกความคิดสักนิดสักน้อยแล้วล่ะก็

          ไปร้านหนังสือครั้งหน้าลองเปิดเล่มนี้อ่านดูก็ไม่เสียหายนะคะ

          หมายเหตุ:ทั้งนี้และทั้งนั้น ถ้อยคำเชิงบรรยายลักษณะต่างๆ เช่นอ่านแล้วหัวเราะ นั้น เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นเฉพาะบุคคลไม่อาจยืนยันได้ว่าหากคุณได้อ่านหนังสือนี้ จะคิดและรู้สึกเช่นเดียวกันหรือไม่เพราะฉะนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้มั่นใจควรไปทดลองอ่านสักประโยค สักย่อหน้าหรือสักหน้าดูก่อน เพื่อดูว่าหนังสือกับผู้อ่านตรงจริตกันหรือไม่

          หรือถ้าคิดว่า ไม่ต้องทดลองหรอก ฉันอ่านได้ทุกเล่มอยู่แล้วจ้ะก็...แล้วแต่เลยค่า

    ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่