สวนปรุงเป็นโรงพยาบาลจิตเวชอีกแห่งหนึ่ง
เราเคยคิดว่าโรงพยาบาลนี้ต้องมีแต่คนบ้าแน่นอน
หลังจากที่เรารู้ตัวว่าเราไม่ใช่ตัวเรา งงสิ เราเลยต้องไปโรงบาลเพื่อรักษาตัว เรื่องของเรื่องก็เราเป็นซึมเศร้านั่นหละ ซึ่งก้ไม่ได้อยากจะเป็นกับเขาเลย เรามารู้ตัวว่าเป็นตอนที่เราสอบท้องถิ่นไม่ผ่าน ไม่รู้ว่ามันเกิดจากความกดดันตัวเอง หรือว่าเป็นเพราะยาคุมกำเนิดกันแน่ 55 แต่ช่างเถอะ ในเมื่อเราเป็นแล้วก้ต้องยอมรับและควบคุมมันก็พอนั่นหละ และต้องหาทางรักษา โดยการไปจิตเวช ซึ่งก่อนหน้านั้นเราไปที่โรงบาลลำปางมาก่อนแล้ว เราไม่ค่อยโอเคกับหมอที่รักษาเราเท่าไหร่ เราเลยตัดสินใจย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลสวนปรุง ที่เชียงใหม่
เราไปด้วยความตื่นเต้นมีอาการมือสั่นปากสั่น เข้าไปเรามองรอบๆเราคิดว่าน่าจะเพื่อนร่วมโรคเยอะเหมือนกันแหะ รู้สึกอุ่นใจขึ้นมานิดนึง เหมือนเป็นครอบครัวกันไป เราไปถึงก็สายและได้คิวอีกทีก้ตอนบ่ายนู้น เราไปกินข้าวแล้วก้เข้ามาให้พยาบาลซักประวัติ พยบ.ถามเราร้องไห้ก่อนเลย และก้เล่าให้ฟังเยอะแยะไปหมด เราบอกกับ พยบ.ว่าเกลียดตัวเองทุกวันเลยและรู้สึกแย่มาก พยบ.เลยบอกว่า ต้องรักตัวเองและหัดให้กำลังใจตัวเองด้วยนะ ?
คุฟยกับพยบ.เสดให้ไปคุยกับนักสังคมสงเคราะห์ต่อ ที่นี่มีทั้งนักจิตและนักสังคมนะ แล้วแต่ว่าเขาจะส่งเราไปคุยกับใคร คุยกับนักสังคม เขาถามเราเล่าไปก้ร้องไห้ไปอีกหละ เราไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้เลย มันดูอ่อนแอ คุยเสร็จถึงให้พบกับหมอจิต แล้วก้เข้าไปคุยบอกอาการให้หมอฟังนิดหน่อย เราบอกหมอว่า เราต่อยกำแพงไปน่ะ หมอเลยชวนเราแอดมิท โธ่ ควบคุมตัวเองได้อยู่นะ เราไม่อยากให้ที่บ้านเป็นห่วงเพราะเราขับรถจากลำปางไปเชียงใหม่คนเดียว ไม่อยากให้แม่ไปด้วยกลัวแม่ไม่สบายใจเวลาหมอเรียกไปคุยด้วย คุยเสร็จหมอก็ให้ยาสามตัวปรับยาให้ใหม่หมดเพราะที่เดิมที่ไปรักษามา กินฟลูออกซีทีนไปสองเม็ด หนึ่งเดือนไม่ช่วยอะไร กว่าจะนัดก้อีกสามเดือนเลยตัดสินใจย้ายมาสวนปรุงที่เชียงใหม่ดีกว่า หมอนัดเราอีกที 22 มกรานี้ สองอาทิตย์
อ่อ หมอกับนักสังคมบอกให้เราหางานอดิเรกมาทำ
ซึ่งเราพักนี้เราเอาตัวเองออกมาถ่ายรูปทุกวัน รูปไม่สวยหรอก ไว้วันหลังจะเอารูปมาลงให้ดูกัน
รู้สึกเริ่มเบลอยานอนหลับ นอนละ ฝันดีค่ะ
ต่อไปจะมาเล่าแบบเนื้อของอาการกว่านี้ อิ๊
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in