VOL.03 : The Reve Festival Finale (2019) - Red Velvet
Let The Reve Festival Begin
The Reve Festival Finale
ถือว่าเป็น The Last Boss เลยก็ว่าได้ Red Velvet ได้ปล่อยอัลบั้ม repackage ทิ้งท้ายปีได้อย่างสง่างามเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการพาอัลบั้มขึ้น iTunes อันดับหนึ่งได้ถึง 44 ประเทศหรือจะเป็นการเจาะชาร์ตด้วยไตเติ้ลแทร็กอย่าง Psycho จนได้รับ Real-time All kill และ Certified All Kill จาก ichart มาครองไว้เป็นที่เรียบร้อยและถือว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกในปี 2019 ที่ทำได้อีกด้วย
อย่างเป็นที่รู้กันว่า SM ent. จะมีแนวสำหรับไอดอลของตัวเองที่ค่อนข้างชัดมาก ๆ อย่าง Red Velvet เองก็จะแบ่งเป็นสองฝั่งคือฝั่ง Red กับฝั่ง Velvet ซึ่งจุดตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของพี่เค้ก (เราขออนุญาตแทน Red Velvet ว่าพี่เค้กนะคะ) เลยก็ว่าได้ สามารถนำมาขายได้ตลอด มีลูกเล่นใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ติดหูจนปัง แปลกแหกตลาดจนแป้กหรือเพลง b-sides คุณภาพ พี่เค้กมีให้คุณได้ทุกรูปแบบและการกลับมาในรอบนี้พี่เค้กก็มาในคอนเซ็ปของเทศกาลแห่งดนตรี (สำหรับ Reve ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่าความฝัน ส่วนตรงนี้ยังตีความได้อีกว่าเป็นการนำฝั่ง Red และฝั่ง Velvet มารวมกัน) พร้อมพาทุกคนดื่มด่ำกับบรรยากาศของความเป็น Red Velvet ในครั้งนี้
01. Psycho
Psycho เป็นเพลงแนว up-tempo urban pop ที่ได้ผสมผสาน 808 bass ที่ทรงพลัง มีจังหวะที่สนุกสนานในตัวเอง การดึงเสียงสูงของเวนดี้และซึลกิออกมาใช้ได้อย่างชาญฉลาด มีความ catchy ตอนที่ฟังครั้งแรกแล้วทำเอาเรารู้สึกขนลุกมาก ๆ เนื้อแรปที่บ่งบอกถึงความเป็นไอรีนและพี่เค้กอย่าง I'm the Original, Visual การพูดเร็วฮิบ ๆ ของเยริ หรือไม่ว่าเป็นท่อนฮุคติดหูอย่าง you got me feeling like psycho การเล่นคำซ้ำชากูชากู พาโบพา ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมเพลงนี้ถึงได้ break the record ไปมากมาย
เพลง In & Out เองเป็นเพลงป๊อปแดนซ์ที่มีจังหวะกลาง ๆ ไม่ว่าจะดนตรีแทรปที่มีความแปลกใหม่หรือท่อนฮุคที่สุดแสนจะติดหูทำเอาเพลงนี้ขึ้นแท่นหนึ่งใน b-sides ที่เราชอบไปเลย
Love Is The Way เป็นเพลงที่ช้าลงมาหน่อยจาก Jumpin' ให้ทุกคนได้โยกย้ายเบา ๆ ไปกับสไตล์ retro และ doo-wop ที่เป็นดนตรี rhythm and blues ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยชาวแอฟริกันอเมริกันในช่วงสมัย 1940's และเป็นที่โด่งดังมากขึ้นในช่วงสมัย 1950's และ 1960's เราจะสังเกตได้จากท่อน Oh your lips say no, but my heart says yes ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของดนตรี doo-wop ได้อย่างดีเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมทางดนตรีที่ออกมาได้ดีมาก ๆ เลยทีเดียว
เพลงนี้เราเทไปทางฝั่ง Red อย่างไม่ต้องสงสัยเลย ชอบเพลงนี้มาก ๆ
08. Carpool
การเดินทางร่วมกันของคนฟัง ลัฟวี่และพี่เค้กโดยมีคนนำเป็นพี่เค้กที่เป็น Summer Queens ค่อย ๆ นำพาเราไปสู่ความสนุกสนานที่แท้จริงของช่วงฤดูร้อน เพลงนี้เองให้ไวบ์เดียวกันกับ Umpah Umpah เลย ถ้าฟังจากมินิอัลบั้ม Day2 จะเป็นเพลงที่ส่งทางให้ Love Is The Way ได้ดีมากเลยทีเดียวแต่ถ้าเรียงจากอัลบั้มรีแพค ภาคเนื้อหาจะเป็นเหมือนการที่เราร่วมเดินทางไปเทศกาลที่ชายหาดกับพี่เค้กเลยสังเกตได้ว่าจะมีเสียงดอกไม้ไฟในช่วงท้ายเพลงด้วย เมโลดี้ ท่อน chorus ด้านภาคดนตรี ตอนแรกเราแอบอยากให้ลุงหมานเลือกเพลงนี้เป็นเพลงโปรโมทเลยด้วยซ้ำเพราะสื่อถึงความสดใสได้ดีแต่ถึงยังงั้น พอมาคิดดี ๆ แล้วเพลงมันก็ยังแอบเบาและดูถูกกลืนไปได้ง่าย สุดท้ายแล้วก็เหมาะ b-sides ดี ๆ ในอัลบั้มให้เราฟังจะดีกว่า
ทุกอย่างในเพลงนี้สื่อความเป็นเทศกาลได้ดีมาก ๆ เลย พรีเซนต์ความเป็น magical theme park ได้โดดเด่นสุด ๆ ด้วย อีกทั้งยังทำให้นึกถึงเพลงของวงรุ่นพี่ในค่ายอย่าง I Got A Boy ของ SNSD และ Red Light ของ f(x) เรียกได้ว่าถ้าไม่มีเพลงที่มันแปลกแหวกแนวก็ you can't sit with us จริง ๆ
เพลงนี้เราเทไปทั้งสองฝั่งคือมีความสนุกสนานของฝั่ง Red และก็ความหวานของฝั่ง Velvet ผสานกันอยู่ด้วย เป็นอะไรที่ลงตัวมาก
อัลบั้ม The Reve Festival Finale เองก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่นำเสนอความเป็น Red Velvet ออกมาได้ค่อนข้างดีมาก ๆ สำหรับเราแต่เพราะมันเป็นการผสมของทางสองฝั่งเราเลยแอบคิดว่าทาง SM เอง คุมโทนอัลบั้มรีแพคนี้ออกมาได้ค่อนข้างดีมากเลยทีเดียวแต่จังหวะในการเรียงแทร็กบางช่วงดูไม่สุดเหมือนกับ The Perfect Red Velvet เท่าไหร่ในความคิดเราแต่ถึงอย่างงั้นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรเพราะถามว่าเราชอบมั้ย เราตอบได้เลยว่าชอบนะ ชอบมากด้วย ไม่ว่าจะเป็นธีมของอัลบั้มเอง มันเหมือนเป็นการที่เราได้ร่วมเดินไปทางไปกับ Red Velvet เลยจริง ๆ จึงแอบคิดว่าเพลง Remember Forever ช่วยส่งเรื่องราวตรงนี้มาก ๆ ในภาคเนื้อหาก็จะสไตล์ Red Velvet ที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว สามเพลงดี สี่เพลงวิ่งไล่ฆ่าผู้ชายและอัลบั้มนี้เองเหมือนทำให้เราได้รู้จัก Red Velvet มากขึ้นอีกด้วย
ด้านภาคดนตรีจะเห็นได้ว่า SM คุมโทนทางฝั่ง Day 1 และ Day 2 ได้ดีมาก ๆ พอนำมารวมกับ Finale เลยออกมาดีกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลย ถึงการเรียงแทร็กจะแอบไม่สุดแต่เราว่าได้ต้องเรื่องคุมโทนดนตรีมาช่วยไว้ได้เยอะ ดูไม่กระจัดกระจาย ง่ายต่อการฟังและมันทำให้สามารถวิเคราะห์เรื่องราวต่าง ๆ ออกมาได้มากมายเลยด้วย อย่างการที่หนีจากความมืดใน Psycho เพื่อไปเจอความสว่างใน Zimzalabim แต่ก็อย่าวิเคราะห์มากเกินไปจะดีกว่า ด้วยความสไตล์ SM เอง เราจะหน้าแห้งเอาได้ง่าย ๆ เลย แหะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in