วันนี้ฝนตกนิดหน่อยค่ะ มิ่งตื่นมาตอนเช้ารอนั่งรถบัสฟรีไปCERNตอน8โมงครึ่ง แบบ...8ครึ่งจริงๆนะ ไม่ขึ้นก่อนแล้ว(เข็ดจากเมื่อวาน) และถึงเซิร์นโดยปลอดภัยโดยสวัสดิภาพค่ะ ระหว่างดูไปดูมาก็ค่อนข้างไกลเหมือนกันนะคะ ถ้าอยากจะเดินไปทำงานโดยไม่รอรถบัสคงต้องเผื่อเวลาพอสมควร แล้วก็ต้องเป็นวันที่อากาศดีหน่อยด้วย ฝนตกคง...ไม่น่าไหว

ไปนั่งทำงานกันต่อค่ะ มิ่งก็ยังคงวุ่นวายหมกมุ่นกับการหาวิธีDetect patternของwindowเช่นเคย คิดยังไงก็คิดไม่ออก คือมันก็มีคนเคยทำอยู่ ทั้งในแบบของSQL แบบRegEx(ซึ่งจริงๆก็ไม่ค่อยตรงโจทย์ที่มิ่งต้องการเท่าไหร่เพราะมันDetectแค่ทีละrowไม่ใช่SequenceของRow) แล้วก็แบบUDFเลย ตอนนี้กำลังเล็งตัวUDFอยู่ค่ะ คิดว่าถ้าเข้าใจตัวนี้ก็น่าจะทำอะไรกับข้อมูลได้มากขึ้น หรืออย่างน้อยก็ได้conceptบางอย่างมาจุดประกาย

ตอนกลางวันมีนัดกินข้าวกับคนรู้จักที่ทำงานอยู่ที่เจนีวาค่ะ เป็นลูกศิษย์ของคุณอา เราไปนั่งกินLunchกันที่ Le grill Hotel Kempinski เห็นวิวน้ำพุ Jet d’Eauชัดเจนมาก เสียดายที่วันนี้เมฆเยอะเลยไม่เห็นยอดภูเขาMatterhornค่ะ แต่เป็นLandmarkที่เยี่ยมยอดมากจริงๆค่ะ 

ได้พูดคุยกันหลายๆเรื่องเลย ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวในแถบนี้ เกร็ดความรู้ต่างๆของสวิสเซอร์แลนด์ สถานที่ที่เป็นจุดสนใจทางประวัติศาสตร์ รวมถึงเรื่องUNด้วย 

ที่เจนีวานี้จะมีท่านฑูตประจำอยู่เป็นจำนวนถึง3คนเชียวค่ะ ไม่ได้มีให้เห็นกันง่ายๆนะคะ ที่จะมีฑูตประจำอยู่เยอะขนาดนี้ มีทั้งท่านฑูตกงสุล ท่านฑูตด้านสมาคมการค้า แล้วก็ท่านฑูตUN เพราะว่าที่เจนีวานี้มักจะเป็นที่จัดประชุมUNบ่อยๆก็เลยต้องมีไว้ด้วยค่ะ 

ช่วงปลายเดือนมิถุนายนจะเป็นช่วงลดราคาของที่นี่ค่ะ ต้องเตรียมตัวช้อปให้ดี อย่าพึ่งซื้ออะไรตอนนี้ มิ่งได้เว้นที่ว่างไว้สำหรับการช้อปนี้แล้วค่ะ จะไม่ออกไปเที่ยวที่ใดทั้งสิ้น(เพราะสวิสพาสจะใช้เกินโควต้าแล้ว555) 

หมอนสวิสก็น่าซื้อกลับเช่นกันนะคะ เค้าว่าเป็นหมอนที่ดีที่สุดในโลก //บ้างก็ว่าหมอนที่นี่เอาไว้ใช้หนุนนอนแล้วจะความจำดีด้วยล่ะค่ะ 5555 จำไปยันชาติหน้าเลยค่ะว่าจะไม่ซื้อหมอนสวิสอีกแล้ว//ท่ดๆ

ช็อคโกแลตLindtบางรสจะไม่ส่งออกค่ะ และLindtที่นี่จะอร่อยกว่าที่ไทยมาก เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกินหวาน นี่เลยว่าจะซื้อกลับไปฝากที่บ้านด้วย เพราะไม่ชอบกินหวานกัน

วันที่10สิงหาต้องอย่าลืมมาดูงานแสดงพลุที่Lake Geneva! เห็นว่าสวยงามมากเช่นกันค่ะ

หลังจากจัดอาหารไปคอร์สนึง ประกอบด้วยขนมปังก้อน(เอาตรงๆขนาดขนมปังยังอร่อยเลยอ่ะ) ขนมปังหน้าแซลม่อนและอะโวคาโด้ผสมวาซาบิ(อันนี้ก็เด็ด)เสิร์ฟพร้อมสลัดราดซอสงา(อร่อยโฮกกก กลมกล่อม) กับMain courseของเราเป็น เป็นป่อเปี๊ยะ นั้นเองงงง เค็มไปนิดแต่เมื่อกินคู่กับซอสคัสตาร์ดรสชาติก็ลงตัวกันเหมาะเจาะพอดีเลยค่ะ อร่อยมากๆ ปิดท้ายด้วยของหวานเป็นทาร์ตStrawberryที่ค่อนข้างหวานติดเปรี้ยวที่ปลายลิ้น ซึ่งถือว่ากำลังดีเลยค่ะ แก้เค็มได้ดีมาก

พอกินเสร็จได้ของฝากติดมือมาด้วยค่ะ เป็นตัวขนมขบเคี้ยวเล็กๆ มะขามและน้ำพริก ทางเราก็ให้กระติกน้ำจุฬาลายไม้แกะสลักกับแก้วสตาร์บัคไปตามระเบียบเป็นอันจบการพบปะอย่างสมบูรณ์

พอนั่งทำงานต่ออยู่แถวนั้นอีกซักพัก เพื่อนๆก็ทักไลน์มาบอกว่าจะไปคาร์ฟูร์ใหญ่กันค่ะ สาขานี้จะอยู่ฝั่งฝรั่งเศสเช่นกันแต่ใกล้Airportมากกว่า ก็เลยหาเส้นทางการไปดู เค้าบอกว่าให้ขึ้นสายFที่Platform5 ของGare cornavinค่ะ(อ่านว่า กัง คอร์นาแวง) แต่ที่แปลกพิลึกคือ เมื่อไปถึงPlatform5 ก็เจอเพียงแต่รถเปล่าจอดอยู่ทั้งที่ควรจะถึงเวลาออกได้แล้ว มิ่งก็เลย เฮ้ย ไม่ได้การณ์ขืนรอต่อไปก็ช้อปไม่ทันพอดี 

เลยไปต่อรถที่Airportแทนค่ะนั่งสาย66เจ้าเก่าแล้วก็ถึงที่หมายตามกำหนดการณ์ เย้

วันนี้ซื้อของเข้าโรงแรมไปเยอะมากค่ะ เพราะมิ่งไม่มีอะไรในตู้เย็นเลย ว่างเปล่า~ ซื้อมามากมายสารพัด รวมถึงสเต๊กที่เพื่อนๆนัดกันว่าจะทำวันพรุ่งนี้ด้วย

แต่ดันลืมเอาถุงผ้ามาค่ะ ที่นีซุปเปอร์จะไม่แจกถุงพลาสติกให้นะคะ ต้องเอามาเองไม่ก็ต้องซื้อถุงเค้า ทว่ากลับกัน ถุงพลาสติกคาร์ฟูร์เค้าดูใหญ่และแข็งแรงกว่าถุงเรามากค่ะ น่าจะใช้ช้อปปิ้งได้ยาวๆเลย

พอขึ้นรถกลับโรงแรมก็ดันนนน เจออาจารย์พัดบนรถเข้าแบบงงๆ ปรากฏก็พบว่าอาจารย์พักอยู่ฝั่งนี้เช่นเดียวกันค่ะ เค้าเล่าให้ฟังว่าวันนี้ในเมืองที่เค้าไปมามีประท้วงด้วย ใช่ค่ะ มิ่งก็เห็นแวบๆเหมือนกัน แต่ที่มิ่งเห็นก็ไม่ได้ขบวนใหญ่อะไรมาก ก็แปลกดี เดินถือป้ายกันว่อนเลย

อ่า...ตอนนี้คงต้องถึงเวลานอนพักแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นมาวิดีโอคอลProjectที่ไทยต่อตอนตี5

ราตรีสวัสดิ์นะคะ