แมคครีไม่ได้สนใจในทีแรกว่าเจ็ดสิบหกพาใครเข้ามาที่ศูนย์ฯ คราวก่อนก็สาวยกน้ำหนักผมชมพูแสนอวดดี ตามมาด้วยยัยเด็กเอเซียตัวจิ๋วที่อวดดียิ่งกว่า เมื่อเขามองลอดปีกหมวกไปพบว่าร่างนั้นอยู่ใต้หน้ากาก แมคครีก็ถอนหายใจเฮือก แล้วดึงมันลงมาปิดตาเอาไว้แบบเดิม เท้าที่พาดไว้บนโต๊ะกระดิกไปมาเล็กน้อย เก้าอี้สองขาโยกไปมา รอฟังคำแนะนำตัวจากสมาชิกคนใหม่
แล้วไอ้หน้าไหนจะไปรู้ว่าคนแปลกหน้าในหน้ากากนั้นจะกลายเป็นอะนา อามาริ! เขารับรู้ด้วยวิธีที่เจ็บที่สุด ถูกหล่อนดึงหมวกขึ้นโดยไม่บอกกล่าว เขาเงยมองด้วยความไม่สบอารมณ์ แต่เมื่อเห็นหน้าของผู้มาใหม่ชัด ๆ เขาก็เหวอจนเสียหลักหงายหลังลงไปนอนแอ้งแม้งกับพื้น
“เอาขามาวางบนโต๊ะได้ยังไง นอกจากฉันแล้วไม่มีใครสอนมารยาทเธออีกรึไงฮึ เจสซี่ แมคครี” อะนายืนค้ำหัวเขาอยู่ หมวกถูกถือไว้อย่างบรรจง เสียงหัวเราะนั่นทำให้ตาเขาพร่า เเละวิธีที่เธอเรียกชื่อเขาก็ชวนให้ขอบตาร้อนผ่าว
เจสซี่พยายามจะพูดอะไรมากกว่า “ผะ ผม–” แล้วนะ แต่ก็ลิ้นพันกันอย่างน่าสิ้นหวัง
คุณอะมารินั้น.. เปลี่ยนไปเหลือเกิน ผมสีขาวที่เคยแซมอยู่ประปรายกลืนกินผมสีดำของเธอไปเสียหมด ไหล่ของเธอตกลงกว่าแต่ก่อน แม้แต่ดวงตาของเธอก็ดูเศร้าหมองอย่างหาที่มาไม่ได้ นั่นทำให้เจสซี่ตกใจไม่น้อย เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเขาไม่เคยคิดจะได้เห็นภาพคุณอะมาริแก่ หลงคิดว่าเธอจะคงอยู่แบบนั้นตลอดไป แบบที่มีรอยยิ้มกว้างและความมั่นใจแทบจะแผ่ออกมาจากตัว ดวงตาและน้ำเสียงเฉียบขาด หญิงสาวที่แบกปืนไปรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารคนอื่นทั้งที่ไม่จำเป็น
คุณอามาริคนนั้นช่างยิ่งใหญ่ ท่านรองผู้บัญชาการโอเวอร์วอช
แต่ในตอนนี้ ตอนที่หล่อนเอื้อมมือลงมาแตะที่ผมของเขา นิ้วสางไปตามเส้นผมยุ่ง ๆ ที่ไม่ได้หวีและบ่นว่าเขาสระผมน้อยเกินไป เจสซี่ก็ตัวหดเล็กลง เหมือนกลับไปเป็นเด็กวัยรุ่นผอมแห้งที่เพิ่งถูกเรเอสช่วยมา ไม่กล้าพอจะสบตาเธอ สายตาไต่ขึ้นสูงสุดแค่ที่ปลายหางของรอยสัก แล้วรีบตวัดกลับมามองมือตัวเอง เสียงหัวเราะของเธอดังออกมาอีกครั้ง เจสซี่เพิ่งรู้สึกตัวว่าใบหน้าเขาร้อนผ่าว
ช่างหัวความยิ่งใหญ่นั่นซิ แมคครีคิดขณะยันตัวขึ้น ทำให้หล่อนจิ๊ปากไม่ชอบใจเมื่อพบว่าตนต้องเขย่งเท้าเพื่อจะสวมหมวกให้เขาได้ ไม่เหมือนครั้งแรกที่เราเจอกัน คุณอามาริของเขากลับมาแล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in