1) อยากเรียนภาษาจีนไปเพื่ออะไร ?
การเรียนภาษาต้องตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองว่าอยากเรียนทำไม ? อยากเรียนเพราะอะไร ? เราอยากเรียนเพราะเป็นภาษาที่สามารถเอาไปใช้ต่อยอดในอนาคตได้ เรียนเพราะอยากจะไปศึกษาต่อที่ประเทศจีนในระดับอุดมศึกษา เรียนเพราะผู้ปกครองต้องการให้เรียนในแผนการเรียนนี้ สำหรับหมิงแล้ว หมิงอยากเรียนภาษาจีนเพราะว่าอยากดูซีรีส์จีนโดยที่ไม่ต้องมานั่งรอ Subtitle ภาษาไทย, อ่านนิยายจากเว็บไซต์ของประเทศจีน, ติดตามนักแสดงที่ชอบ มันอาจจะฟังดูตลกว่ามีแบบนี้ด้วยเหรอ แต่มันมีจริงๆ นะคะ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระหรอกค่ะ ที่คุณอยากจะศึกษาภาษาที่สามขึ้นมา เพราะมันจะทำให้คุณมีแรงผลักดันที่อยากเรียนภาษานั้น ๆ ไปได้ตลอด
2) หนังสือ / Source ต่าง ๆ ที่ใช้ในการเรียนภาษาจีน
2.1) หนังสือ : ส่วนใหญ่เป็นของ อ.เหยิน จิ่งเหวิน
—“เริ่มต้นเรียนจีน 汉语人们“ (6 เล่มจบ) เหมาะสำหรับ Beginner ไม่มีพื้นฐานทางด้านภาษาจีนเลย
— “ภาษาจีนระดับต้น” (2 เล่มจบ + MP3) เหมาะสำหรับ Beginner ** เป็นเล่มที่นิยมมากสำหรับการเรียนภาษาจีน เนื้อหาข้างในอธิบายเป็นภาษาไทย มีคำศัพท์และแบบฝึกหัดให้ทำ
— “ภาษาจีนระดับกลาง” (2 เล่มจบ + MP3) เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานทางด้านภาษาจีนมาบ้างแล้ว
— “汉语教程” (6 เล่มจบ) เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถอ่านหนังสือแบบระบบ 2 ภาษาได้ ** เป็นหนังสือเรียนส่วนใหญ่สำหรับนักเรียนสายการเรียนศิลป์จีน เนื้อหาข้างในอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ
[แหล่งซื้อหนังสือเรียนภาษาจีน : ร้านหนังสือทั่วไป, มูมินจีน (Twitter : @Kumjeenjeen), happy.chineses.book (Instagram)]
2.2) Source : ภาษาจีนเป็นภาษาที่มีแหล่งเรียนรู้เยอะมาก ที่หมิงจะยกมาเป็นส่วนที่หมิงเรียนแล้วคิดว่าเหมาะกับตัวเองมากที่สุด อีกอย่าง เรียนแล้วต้องคิดว่าเข้าใจ สนุกสนาน และมีความต่อเนื่อง
— “Jiewfudao” (YouTube) เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านภาษาจีนเลย หมิงแนะนำช่องนี้สุด ๆ สอนตั้งแต่ระบบการออกเสียงพินอิน สระ การประสมคำ และมีบทเรียนให้เลือกเรียนมากมาย
— “Zhanglaoshi” (YouTube) เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานทางด้านภาษาจีนมาบ้างแล้วและต้องการเรียนรู้วัฒนธรรมการใช้ภาษาของคนจีน หมิงก็ขอแนะนำช่องนี้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการทักทาย การเรียกชื่อ ฯลฯ
— “Mandarin Chinese 1 : Chinese for Beginners / Chinese for Beginners” (แอพ Coursera) เหมาะสำหรับผู้ที่สามารถเรียนระบบ 2 ภาษาได้ เพราะคนที่สอนเป็นเหล่าซือที่สอนใหมหาวิทยาลัยของประเทศจีนมาสอนโดยตรง และการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ เหล่าซือบางท่านจะสอนเร็วมาก ถ้าหากไม่คล่องภาษาอังกฤษก็ไม่แนะนำให้เรียนอันนี้นะคะ
2.3) Appication : มีหลายแอพให้เลือกใช้ในการเรียน แต่ส่วนตัวชอบ “LingoDeer” ที่สุดค่ะ
LingoDeer เหมือนแอพที่เอาไว้เล่นเกมฆ่าเวลา เวลาเรียนรู้ในแต่ละบทจนจบก็จะปลดล็อคเรื่องต่อ ๆ ไป นอกจากนี้ยังมี Quiz รวมทุกบทที่เราเรียนรู้มาแล้วให้เราได้ฝึกทำด้วยนะคะ แอพ LingoDeer ไม่ได้มีแค่ภาษาจีนเท่านั้น แต่ยังมีภาษาอื่น ๆ อีกมากมายให้เราได้ลองเข้าไปเรียนรู้และศึกษา
นอกจากนี้ยังมีแอพอื่น ๆ เกี่ยวกับภาษาจีนอีกเช่น Super Chinese เรียนภาษาจีน, HelloChinese เรียนภาษาจีน, เรียนภาษาจีน - Learn Mandarin & Learn Chinese Free
2.4) ความรู้เกี่ยวกับภาษาจีน : หมิงเลือกใช้แพลตฟอร์มของโซเชี่ยลในการกดติดตาม Account ของพี่ ๆ ที่เคยไปเรียนที่ประเทศจีนหรือทำงานที่ประเทศจีน มันมีข้อดีตรงที่ความรู้ทางด้านภาษาจีนของเราจะมีการอัพเดทอยู่ตลอดเวลา เพราะพี่ ๆ จะมาโพสต์แบ่งปันความรู้ที่เคยเรียนหรือพบเจอมาก่อน เช่น การแตกคำศัพท์ สำนวนที่คนจีนนิยมใช้ คำศัพท์วัยรุ่น ฯลฯ นอกจากนี้เรายังได้รับรู้ข่าวสารของประเทศจีนด้วยค่ะ
** 3 Accounts นี้คือการยกตัวอย่างที่หมิงชอบเข้าไปศึกษาบ่อย ๆ ยังมีอีกหลาย Account ที่น่าสนใจ หมิงจะลงช่องทางการติดต่อเอาไว้ให้ค่ะ
ช่องทางการติดตามใน Twitter เช่น
KZJเป่ยต้า中文系 (@krichkomkris)
ปั๊มภาษาจีน 加油站中文 (@pumpchinese)
จีนเวอร์กับซาติง (@shading1996)
☆Chinese Passion☆ (@ChinesePassion)
ไชนีสชิดใน (@ChineseChitnai)
学汉语พี่หญิงน้อย (@Yingnoihanyu)
ช่องทางการติดตามใน Instagram เข่น
makehanyueasy
chinesexpert
xuexichinese
3) สมุดบันทึกที่ใช้ในการเรียนภาษาจีน
แนะนำว่าเวลาที่เราเรียนภาษาจีนไปเรื่อย ๆ แล้วเจอคำศัพท์ใหม่ ๆ หรือรูปประโยคใหม่ ๆ ให้จดลงสมุดบันทึกของตัวเองทันที หมิงจะมีสมุดบันทึกที่ใช้ในการเรียนภาษาจีนของตัวเองทั้งหมด 4 เล่ม คือ
1.สมุดไวยากรณ์ภาษาจีน
2.สมุดคำศัพท์
3.สมุดเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปของจีน (ใช้ในการสอบ PAT7.4)
4.สมุดคัดตัวอักษรจีน
ใครสะดวกจดครบในเล่มเดียวก็ได้นะคะ แต่หมิงแยกเป็นหมวดหมู่จะได้สะดวกต่อการหยิบมาอ่านค่ะ
4) Reading ทักษะการอ่าน
ก่อนที่เราจะสามารถอ่านตัวอักษรจีนออก สิ่งแรกที่เราต้องเรียนรู้คือ "สัทอักษรจีน หรือ พินอิน (Pinyin)" ก่อน เพราะตัวอักษรจีนมีมากถึง 80,000 กว่าตัว
— พินอิน (Pinyin) คืออะไร ? และมีความสำคัญอย่างไร ?
อธิบายง่าย ๆ พินอินคือระบบที่ยืมตัวอักษรโรมันมาช่วยในการถอดเสียงภาษาจีน โดยจะคล้ายระบบประสมเสียงในภาษาไทย มีทั้งเสียงพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ พินอินหน้าตาคล้าย ๆ อักษรภาษาจีน เหมือนกับภาษาคาราโอเกะเลย มีหน้าตาเป็นแบบนี้ “tiān” นั่นเอง
** พินอินไม่ได้ช่วยให้เราอ่านภาษาจีนออก แต่ช่วยในเรื่องของการออกเสียงอย่างถูกต้อง เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้เราเรียนรู้คำศัพท์ใหม่จะไปได้ไวมากยิ่งขึ้น
สิ่งที่หมิงเลือกในการฝึกอ่านคือ
1.การ์ตูน อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ ฝึกอ่านจาก 快看漫画 คล้าย ๆ กับ WebToon การฝึกกับการ์ตูนหมิงคิดว่ามันจะทำให้การฝึกของเรามีความต่อเนื่อง เพราะการ์ตูนมีให้เลือกอ่านมากมาย หลากหลายหมวดหมู่ ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน มันไม่ได้น่าเบื่อเหมือนกับการอ่านอะไรที่มันออกแนววิชาการ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in