เรื่องที่เราจะเล่าต่อจากนี้ เป็นเรื่องของ(นัง)แมวที่เรารับมาเลี้ยง เมื่อวันที่ 28 กันยา ปี 64
นับจนถึงปัจจุบัน (31 ธันวา 65) เราก็เลี้ยงมันมาได้ปีกว่า ๆ แล้ว แมวของเราก็อายุขวบกว่า ๆ จากการคาดคะเนของคุณหมอที่พาไปหาวันนั้น หมอบอกว่าน่าจะอายุประมาณ 3 เดือน ที่เรามาเล่าเรื่องแมวเพราะมันจะเชื่อมโยงกับเรื่องที่เราจะเล่าเรื่องต่อไป
และนี่คือเรื่องราวของแมวของเรา
ย้อนกลับไปปีที่แล้ว วันที่ 28 กันยา
วันนั้นเรากำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบ จำได้ว่าตอนนั้นเครียดมาก
พอพักจากการอ่านหนังสือ เราก็ไถทวิตเล่น
จนไปเจอทวิตนึง มีคนประกาศหาบ้านให้แมว เค้าถ่ายคลิปมาลง เป็นลูกแมวผอมแห้ง น่าสงสาร แล้วดูติดคน ขี้อ้อนมาก
แล้วอะไรก็ไม่รู้ มาดลใจเรา เราก็แบบ อยากรับนางมาเลี้ยง
เราก็ทักไปหาเค้าว่า มีคนติดต่อมาขอรับบ้างรึยัง อะไรแบบนี้
เค้าก็บอกว่ายัง เราเป็นคนแรก
เราเลยโทรหาแม่ ขอแม่ว่าเลี้ยงได้มั้ย แม่เราก็ไม่ยอม
ตื๊อแม่อยู่นาน ในที่สุดแม่ก็ยอม โดยมีข้อแม้ว่าเราต้องรับผิดชอบทุกอย่างเอง ตั้งแต่ค่าใช้จ่าย รวมไปถึงการดูแล ให้ข้าว ให้น้ำ เก็บอึ
ซึ่งเราก็ตกลงด้วยความตื่นเต้นดีใจ
แล้วก็นัดรับแมวกันวันนั้นเลย เพราะว่าพี่สาวเจ้าของทวิตจะมาแถวบ้านเราพอดี
พอเราไปรับแมวมาเรียบร้อย เราก็พาไปหาหมอทันทีเพื่ออาบน้ำ และตรวจว่าแมวเป็นอะไรมั้ย
ระหว่างที่รอหมอ เราก็ไปซื้อของใช้ พวกกรง กระบะทราย ทราย ตะกร้า อาหาร บลา ๆ กวาดมาทุกอย่างตามที่หมอลิสต์มาให้ และเราคิดว่าแมวตัวนึงต้องใช้ (เจ้าของร้านก็ขายเราไม่หยุด)
สรุปหมดไป 6,000+ ซีดเป็นไก่ไหว้เจ้า
แล้วเราก็ไปรับแมวกลับบ้าน
อ้อ ลืมเล่า พอเราพาแมวไปให้หมอดู หมอบอกว่าแมวเราเป็นตัวผู้ เราเลยตั้งชื่อว่าเปอร์ มาจากคำว่า petit เพราะตอนเจอกันครั้งแรกนางผอมแห้งมาก ส่วน “ร์”เราใส่เพื่ออัพเกรดชื่อให้เฉย ๆ จริง ๆ ต้องออกเสียงว่า “เปอ” แล้ว “ป.” ก็พ้องกับชื่อเล่นเราด้วย เลยเป็นชื่อแรกที่แว้บเข้ามาในหัวแล้วตกลงว่าใช้ชื่อนี้เลย
พอเราไปรับแมวกลับบ้าน คืนแรกคือวายป่วงมาก
นางร้องจนเราต้องพากลับไปหาหมออีกรอบ คิดไปเองว่าทำไมตัวร้อน ๆ กังวลนี่นู่นนั่นไปหมด
สุดท้ายหมอก็บอกให้ใส่กรงแล้วคลุมผ้าไว้ ปล่อยให้นางอยู่คนเดียว ให้ชินกับที่อยู่ใหม่
คืนนั้นเราก็นอนแบบใจเต้นตึกตัก พอเช้าวันรุ่งขึ้นเราก็รีบตื่น เปิดเข้าห้องไปดูอย่างตื่นเต้น ปรากฏว่านางอึเหลวใส่ผ้าขนหนูที่เราปูไว้ให้จนต้องทิ้งไปเลย
แถมหมอโทรมาบอกว่าผลตรวจเลือดไม่ดี ก็ไปรับยามาป้อนด้วยความลำบาก กว่าจะจับทางป้อนยาได้ เราแทบร้องไห้
หลังจากนั้นก็เลี้ยงนางมาเรื่อย ๆ หมดค่าหมอไปเยอะมากในช่วงแรก ป่วยเก่ง แล้วยังมีค่าวัคซีน ค่าทำหมัน สารพัดอีก นี่ยังไม่รวมค่าอาหารเม็ด อาหารเปียกที่เราบำรุงบำเรอเต็มที่ (ให้ลองกินอาหารเม็ดหลายยี่ห้อมาก สรุปนางชอบรอยัลคานิลสุด ยี่ห้ออื่นแทบไม่ยอมกิน ยังดีที่แม่ช่วยจ่ายค่าอาหาร แค่เราผ่อนค่าหมอ ค่าของใช้ต่าง ๆ ที่แม่ออกให้ไปก่อนก็คือกระอักแล้ว555)
อีกประเด็นนึงคือนางใช้กระบะทรายไม่เป็น กว่าจะฝึกให้เข้ากระบะทรายได้ หมดแผ่นรองซับไปหลายอยู่
สุดท้ายเราก็เลี้ยงนางรอดมาถึงทุกวันนี้ กลายเป็นแมวหนุ่มเต็มตัวที่ตัดไข่เรียบร้อย แต่ไม่ว่าจะกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเลย ออกแนวบึกบึนมากกว่า เป็นแมวบ้าพลังจนโดนแซวว่าชื่อมาจากคำว่า hyper รึเปล่า555
และเรื่องของแมวหนึ่งเดียวประจำบ้านเราก็จบเท่านี้ แต่ในอนาคตจะงอกเพิ่มมั้ยก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตไป แต่ที่สำคัญคือตอนนี้ยังไม่งอกแน่ ๆ
By NaJa : 31.12.2022
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in