เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
JUST WANNA SHAREtungpang
กลางคืนไม่(ได้)เงียบ
  • ตอนนี้เป็นเวลา ตี 4 นิด ๆ


    เราตัดสินใจลุกขึ้นมาเขียนเรื่องนี้เพราะนอนต่อไม่หลับ


    แต่สภาพโน้ตบุ๊คคือ ชาร์ตแบตไม่เข้า แป้นพิมพ์บางตัวกดไม่ติด และร้านซ่อมคอมเจ้าประจำปิดเพราะกรุงเทพล็อคดาวน์ ก็เรียกได้ว่าทุลักทุเลอยู่ ไม่รู้ว่าถ้าแบตหมดแล้วจากนี้จะทำไง


    แต่ก็เอาเถอะ มาเข้าเรื่องของเราดีกว่า


    เห็นจั่วหัวชื่อเรื่องมาแบบนี้ บางคนอาจจะคิดว่าเรามาเล่าเรื่องผีรึเปล่า?


    ถ้าใช่ก็ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง แต่ไม่ถนัดแนวนั้น 555


    เรื่องที่เราจะเล่ามันเริ่มมาจาก


    ตอนนี้เรามาอยู่บ้านน้าได้เกือบอาทิตย์นึงแล้ว ด้วยเหตุผลอะไรหลาย ๆ อย่าง ทำให้เราตัดสินใจหอบเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า หนีความวุ่นวายจากเมืองกรุงมาอยู่ต่างจังหวัดแทน


    แน่นอนว่าเราไม่ได้ตั้งใจจะไปเที่ยวไหน เพราะเราเป็นคนติดบ้านอยู่แล้ว ก็อยู่แต่ในบ้านตลอด แค่เหมือนมาเปลี่ยนที่นอน ตั้งแต่มาถึงก็เคยออกไปซื้อของใช้ที่ร้านใกล้บ้านครั้งเดียว


    นอกนั้นเราก็เอาแต่กินกับนอนแล้วก็เล่นเกม วนไปแบบนี้ทุกวันเป็นหลัก


    ก่อนจะเข้าเรื่อง ต้องขออธิบายสภาพความเป็นอยู่ของเราก่อน


    เรามาอยู่บ้านน้า น้าก็ยกห้องนอนของตัวเองให้เรานอน ส่วนน้าก็นอนห้องส่วนกลาง


    ให้นึกภาพว่ามีห้องใหญ่ ๆ ห้อง เปิดประตูออกมาจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง แล้วมีห้องนอนย่อย ห้อง กับห้องน้ำ 1 ห้อง


    ซึ่งตอนนี้เราทำการยึดมา ห้อง อีก 2 ห้องก็เป็นห้องของลูกพี่ลูกน้องเรา พอน้ายกห้องให้เรา น้าก็เลยมานอนพื้นในห้องพื้นที่ส่วนกลาง (ซึ่งทำให้เรารู้สึกผิดมาตลอด มุแง)


    และเรื่องที่เราจะมาเล่าก็เริ่มต้นจากตรงนี้...


    เมื่อกี้ตอนประมาณ ตี กว่า ๆ เรารู้สึกตัวตื่นเพราะหนาว เลยลุกมาปิดแอร์และเดินไปเข้าห้องน้ำ


    ด้วยความอึน ๆ มึน ๆ ของคนพึ่งตื่น เราก็สะดุดสายพัดลมเกือบหน้าคว่ำไปรอบนึง พอเปิดประตูห้องนอนออกมาเจอน้านอนอยู่ เราก็สะดุดขาน้าไปอีกรอบนึง 555 (เราไม่ได้ใส่แว่นและไม่ได้เปิดไฟ)


    พอเข้าห้องน้ำเสร็จ เราก็เห็นน้านอนอยู่ที่พื้น ด้วยความรู้สึกผิดที่กัดกินในใจ เราเลยไปเอาหมอนกับผ้าห่มมานอนเป็นเพื่อนน้าข้างนอก


    และกลางคืนไม่(ได้)เงียบก็เริ่มต้นขึ้น


    ปกติแล้วคนรอบตัวเรา หรือคนที่ทำงานกับเราจะรู้ว่าเราเป็นพวกชอบทำอะไรตอนกลางคืน เรียกง่าย ๆ ก็คือ เราจะนอนตอนกลางวัน แล้วตื่นมาใช้ชีวิตตอนกลางคืนแทน เช่น ดูคลิปเรียนย้อนหลัง ทำการบ้าน อ่านหนังสือ รวมไปถึงดูซีรีส์และอนิเมะต่าง ๆ เราจะนอนประมาณ ตี 2 และตื่นบ่าย ๆ เป็นส่วนมาก


    เหตุผลที่เรามักจะบอกทุกคนคือ เราชอบใช้ชีวิตแบบนี้ เพราะตอนกลางคืนมันเงียบ ไม่ค่อยมีเสียงรบกวน อากาศก็เย็นสบาย ทำให้เรารู้สึกมีสมาธิมากกว่า เวลาทำงานก็จะลื่นไหลมากกว่า


    และนั่นคือสิ่งที่คนทั่วไปรู้เกี่ยวกับเรา


    แต่สิ่งที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้ (เพราะเราไม่เคยบอก) คือ เราเป็นคนที่มีประสาทสัมผัสไวกว่าคนอื่นนิดหน่อย
    ซึ่งมันไม่ใช่สัมผัสที่ อะไรแบบนั้นนะ ก็สัมผัสทั่วไปนี่แหละ แต่เราจะมีไว ๆ อย่าง คือ เสียง กลิ่น รสชาติ


    อธิบายเพิ่มเติม เรามักจะได้ยินเสียงเบา ๆ ก่อนคนอื่น ทำให้เราเป็นคนรู้สึกตัวตื่นง่าย ถ้ามีเสียงอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ประกอบกับไม่ได้เหนื่อยจนหลับลึก 


    บ่อยครั้งที่เราจะได้กลิ่นจาง ๆ ในอากาศที่คนอื่นไม่ได้กลิ่น เวลาแม่ทำข้าวทิ้งไว้ให้บนโต๊ะ เราก็สามารถดมดูก่อนได้ว่ามันเสียรึเปล่า เริ่มส่งกลิ่นไม่ดีรึเปล่า แบบถ้ากลิ่นผิดไปนิดเดียวเราก็จะรู้เลย


    สุดท้ายคือเราชอบกินแต่อาหารที่แม่ทำให้ เพราะแม่จะปรุงน้อยมาก ถ้ากินข้าวนอกบ้านเราจะไม่ปรุงเลย เพราะเรารู้สึกว่ามันเค็มอยู่แล้ว


    คร่าว ๆ ก็ประมาณนี้


    กลับเข้าเรื่องหลักของเราต่อ


    ทีนี้ พอเราเอาหมอนกับผ้าห่มมานอนข้างน้า เราก็เตรียมหลับ ตอนนั้นยังง่วงมาก ๆ อยู่


    แต่พอเราหลับตา เสียงแรกที่ได้ยินคือเสียงน้ากรนเบา ๆ


    เราก็โอเค สบายใจละว่าเราไม่ได้ทำให้น้าตื่น 


    เราก็ตั้งสติใหม่ เตรียมนอน


    แล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ เราเริ่มได้ยินเสียงพัดลมที่น้าเปิดไว้แบบส่ายกำลังเป่าถุงพลาสติกที่แขวนอยู่ที่ลูกบิดประตูห้องนอน

    ตามมาด้วยเสียงกุกกักของอะไรซักอย่างที่เราจับที่มาของเสียงไม่ได้ รู้แค่มันดังเป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอ เราเลยเปิดโคมไฟเล็ก ๆ มาส่องหาแต่ก็ไม่เจอที่มาของเสียง


    เราพยายามนอนต่ออยู่พักนึง แต่เสียงพวกนี้กวนเราจนนอนไม่หลับ (ไม่เกี่ยวกับเสียงน้ากรนนะ เพราะน้ากรนแปปเดียว)


    เราเลยขอโทษน้าในใจแล้วลากหมอนกับผ้าห่มกลับเข้าห้อง คลานขึ้นเตียง ปิดโคมไฟ หลับตา แล้วเตรียมนอนต่อ


    แต่ก็สายไปแล้ว ร่างกายเราตื่นในระดับนึง ประสาทสัมผัสเริ่มทำงาน


    เราได้ยินเสียงเหมือนมีหินหรืออะไรเล็ก ๆ มากระแทกหน้าต่างข้างเตียงนอนตลอด
    เราได้ยินเสียงหมาเห่าหลายครั้ง


    จนในที่สุดเราก็ยอมแพ้ในการนอน ลุกขึ้นมาเปิดโน้ตบุ๊ค และเริ่มเขียนเรื่องนี้


    ถ้าถามว่าเราได้อะไรจากเรื่องนี้


    คำตอบคือ นี่เป็นครั้งแรกที่เรารู้สึกว่า กลางคืนไม่ได้เงียบ จากเสียงรบกวนภายนอกที่ไม่ใช่เสียงที่เราได้ยินจนชินทุกวันอย่างเสียงแอร์ เสียงพัดลม หรือเสียงความคิดต่าง ๆ มากมายที่พรั่งพรูเข้ามาในหัวเราตอนที่เราหลับตาเตรียมนอนก่อนจะผล็อยหลับไป


    แต่น่าแปลกตรงที่ว่า ตั้งแต่เราลุกขึ้นมาเขียนเรื่องนี้ จนตอนนี้ตี แล้ว เรากลับไม่ได้ยินเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านั้นอีกเลย


    อาจจะเป็นเพราะเราได้ยินเสียงกดคีย์บอร์ดที่ดังกว่า อาจเป็นเพราะเรามีสมาธิมุ่งมั่นกับการเขียนมากกว่า


    แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่าเราชอบทำงานตอนกลางคืนจริง ๆ แหละ ถ้าเราไม่ง่วงอ่ะนะ 555


    ป.ล.นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า บางทีตอนกลางคืนอาจไม่ได้เงียบอย่างที่เราคิด แค่เราไม่ได้ยินเสียงเล็ก ๆ ที่มันเกิดขึ้นเบา ๆ ต่างหาก

     

    - จบ -

    By NaJa : 31.12.2022

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in