กรีดร้อง –03/11/2017
“เดี๋ยวผมลงไปเอง คุณไม่ต้องลงไปหรอกคนนั้นเป็นใครก็ไม่รู้”
“แต่ผมลงไปจะสะดวกกว่านะ”
ตอนที่เขากับแฟรงค์กำลังจะเอารถไปจอดในบ้านเขาทั้งสองก็เห็นว่ามีรถคันนึงจอดขวางประตูรั้วหน้าบ้านเอาไว้ทอมผู้ซึ่งนั่งอยู่ฝั่งของผู้โดยสารเตรียมตัวลงไปพูดให้เจ้าของรถคันนั้นขยับรถแต่แฟรงค์กลับห้ามเขาเอาไว้แถมด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างมากทอมไม่อยากให้แฟรงค์ลงไปด้วยอารมณ์แบบนี้เพราะกลัวว่าเรื่องมันอาจจะบานปลายแต่ยังไม่ทันที่ทอมจะได้ปลดสายเข็มขัดนิรภัยเสร็จเสียงปิดประตูจากทางด้านคนขับก็ดังขึ้นเสียแล้วทอมได้แต่ส่ายหัวกับความเป็นห่วงที่มากเกินไปของ ‘แฟรงค์’ คนรักของเขา
ทอมเอี้ยวตัวไปทางเบาะหลังของรถแล้วเริ่มรวบเอาถุงวัตถุดิบสำหรับอาหารมื้อค่ำวันนี้เอาไว้ด้วยกันแล้วก็เอามาวางไว้ตรงที่วางเท้าของตัวเองจะได้สะดวกตอนเอาเข้าบ้านโดยที่ไม่ได้ใส่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ที่หน้าบ้านในสมองเขาคิดแค่ว่ารถคันนั้นคงมาหาใครสักคนในหมู่บ้านและดันมาผิดบ้านเขาเท่านั้น
เงยหน้าขึ้นมาอีกทีเขาก็เห็นผู้หญิงคนนึงกำลังจะเปิดประตูลงมาจากรถโดยที่แฟรงค์กำลังพยายามที่จะดันประตูปิดทอมนั่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากด้านในของรถที่กำลังเปิดเพลงจากสถานีวิทยุรอเขาจึงไม่ได้ยินเสียงการพูดคุยของ2 คนทางด้านนอกนั้นแต่จากสิ่งที่เขาเห็นเขาคิดว่าเขาคงต้องลงไปแก้สถานการณ์ตรงหน้าก่อนที่มันจะบานปลาย
“แฟรงค์ฉันมาถึงที่นี่แล้วนะเราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”
“ลิสก็บอกให้กลับไปไง”
“มีอะไรกันรึเปล่าครับ?”
“ไม่มีอะไรผู้หญิงคนนี้กำลังจะเลื่อนรถให้เราแล้ว”
“แต่..”
“ทอมคุณไปเตรียมเลื่อนรถได้เลยเดี๋ยวผมต้องช่วยผู้หญิงคนนี้โบกรถนะ”
“ได้สิ”
ทอมยอมเดินกลับมาที่รถแล้วเลื่อนรถตามที่แฟรงค์บอกโดยที่ไม่มีข้อแม้แต่ในหัวสมองของเขากำลังเริ่มที่จะตั้งคำถามเพราะถ้าเขาฟังไม่ผิดเขาเหมือนจะได้ยินผู้หญิงคนนั้นเรียกชื่อของแฟรงค์และที่สำคัญเหมือนแฟรงค์เองก็รู้จักชื่อของผู้หญิงคนนั้นเช่นกัน
“ยังไม่ลงมือเหรอคุณรอให้ผมช่วยอะไรนะสิ มาๆบอกมาเลยลูกมือพร้อมแล้วครับ”
กว่าทอมจะรู้ตัวว่าตัวเองเอาแต่ยืนนิ่งเกาะซิ้งค์ล้างจานโดยที่เปิดน้ำให้ไหลผ่านผักที่เตรียมเอามาล้างทิ้งไว้เฉยๆก็ตอนที่เสียงของแฟรงค์ดังเข้ามาทำลายความคิดที่อยู่ในหัวของเขา
“ทำไมนานจังคุณ?”
“พอดีผู้หญิงคนนั้นขอถามทางนะ”
“เขาต้องการจะไปไหนเหรอครับ?”
“แล้วคุณจะไปอยากรู้เรื่องของเขาทำไมครับ?มาทำมื้อเย็นดีกว่าผมเริ่มหิวแล้วละ”
“คุณรู้จักเธอเหรอ?”
“ผมจะไปรู้จักได้ยังไง? อะไรกันทอมคุณถามเรื่องเธอมากขนาดนั้นหรือว่าคุณสนใจเธอเหรอ? มานี่เลยมาให้ผมลงโทษซะดีๆ”
“ไม่เอาๆๆๆ ฮาๆๆๆ ไม่เอาแฟรงค์ไม่เล่นไหนว่าหิวไง ไม่ปล่อยไม่ได้กินนะ”
แฟรงค์เดินเข้ามาดึงตัวของทอมเข้าไปกอดรัดเอาไว้แน่นพร้อมกับไล่หอมไปทั่วช่วงหัวไหล่แถมยังแกล้งปล่อยลมหายใจแรงๆให้กระทบกับใบหูและช่วงต้นคอของเขาซึ่งมันเป็นจุดที่แฟรงค์ก็รู้ดีว่ามันคือจุดอ่อนในร่างกายของทอมจนทอมปล่อยหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่แล้วรีบยกมือขึ้นทุบหลังของแฟรงค์เพื่อเป็นการขอยอมแพ้
“งั้นมาเริ่มเลยดีกว่าผมช่วย”
เรื่องราวของผู้หญิงคนนั้นเริ่มจางไปจากความคิดของทอมตามช่วงเวลาที่ผ่านไปจนทอมเองก็เกือบลืมถึงความข้องใจนั้นไปด้วยซ้ำถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องมาเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนั้นอีกครั้งที่หน้าบ้านที่เดิมเปลี่ยนสถานการณ์เพียงแค่ว่าครั้งนี้มีเพียงเขาที่ออกมารดน้ำต้นไม้ที่หน้าบ้าน
“คุณคงชื่อทอมใช่ไหมคะ?”
“ครับ คุณ?”
“ดิฉันลิสค่ะ คุณพอจะจำดิฉันได้ไหมคะ?”
“ผมคิดว่าผมคุ้นหน้าคุณอยู่บ้าง....เอ่อคุณคือคนที่มาจอดรถที่หน้าบ้านวันนั้นใช่ไหมครับ?”
“ใช่ค่ะ ความจำของคุณดีจัง”
“ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรให้ผมช่วยครับ?”
“ดิฉันมาเรื่องของแฟรงค์ค่ะ”
“แฟรงค์อยู่ในบ้านครับงั้นรอสักครู่นะครับเดี๋ยวผมจะเข้าไปเรียกแฟรงค์ให้”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ดิฉันต้องการที่จะพูดกับคุณ”
“ผม?”
“ค่ะ”
“งั้นเข้ามาในบ้านก่อนดีไหมครับ?”
“ถ้าแฟรงค์อยู่ด้วยดิฉันคงไม่ได้พูดแน่ขอพูดตรงนี้แล้วกันค่ะ”
“เชิญครับ”
“คือดิฉัน...”
“ทอมเข้าบ้าน ส่วนเธอจะมาที่นี่อีกทำไมก็บอกไปแล้วไงว่าอย่ามาที่นี่อีก!!”
เสียงตะโกนของแฟรงค์ดังออกมาจากข้างในบ้านทอมตกใจจนสายยางที่อยู่ในมือของเขาตกลงที่พื้นที่เขาตกใจมันไม่ใช่เพียงเพราะเสียงที่ดังขึ้นแบบไม่มีปรี่มีขลุ่ยแต่เขาตกใจเพราะเขาไม่เคยได้ยินแฟรงค์ตะโกนจนเหมือนการ‘กรีดร้อง’ ด้วยความไม่พอใจแบบนั้นมาก่อน
“แล้วถ้าฉันไม่มาเมื่อไหร่เราจะคุยกันรู้เรื่องคุณจะปล่อยให้เรื่องนี้มันคาราคาซังไปนานอีกแค่ไหนกัน?”
“เดี๋ยวผมจัดการเองนั้นแหละอย่ามาวุ่นวายที่นี่”
“จัดการ จัดการอะไรนี่มันกี่อาทิตย์ กี่เดือนเข้าไปแล้วและที่อยู่ในนี้ละจะเอายังไง!!”
ผู้หญิงที่ชื่อลิสตะโกนกลับใส่แฟรงค์พร้อมกับเอามือทุบที่หน้าท้องของตัวเองอยู่ตลอดเวลาแฟรงค์ยังยืนนิ่งอยู่กับที่แต่กลับเป็นทอมเสียเองที่ทนดูไม่ได้เปิดประตูบ้านออกไปแล้ววิ่งเขาไปจับมือของผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ให้เลิกทำร้ายตัวเอง
“มานี่ทอมออกมาอย่าไปยุ่งกับคนบ้า”
“มันเกิดอะไรขึ้นแฟรงค์”
“ที่รักคุณเข้าบ้านไปก่อนผมจะอธิบายทีหลัง ส่วนคุณถ้าเกิดอยากจะยืนทำร้ายตัวเองอยู่หน้าบ้านคนอื่นเพื่อประจานตัวเองแบบนี้ก็ตามสบายแล้วกันนะ”
แฟรงค์เดินตามมาดึงตัวของทอมกลับเข้าไปในรั้วบ้านทอมอยากจะยั้งตัวเองเอาไว้ที่ตรงนี้แต่สายตาที่พยายามเก็บอารมณ์ต่างๆ ของแฟรงค์ทำให้ทอมเลือกที่จะทำตามที่คนรักของเขาเอ่ยปากโดยการปล่อยมือจากผู้หญิงคนนี้แต่ทันทีที่มือของเขาหลุดออกจากมือของลิสความสงสัยที่เขามีมาตลอดก็ได้รับคำเฉลยออกมา
“คุณไม่อยากรู้เหรอว่าฉันมาที่นี่ทำไม?” มันคือคำประกาศิตที่ทำให้ขาของทอมหยุดก้าวเดินและนิ่งเพื่อรอฟังประโยคถัดมา
“อย่าไปฟังเขาทอมที่รักได้โปรดอย่าฟังเดินตามผมมา”
“ฉันท้องกับเขา ฮันท้องกับแฟรงค์คุณได้ยินไหมทอมฉันท้องกับเขา!!”
“หุบปากแล้วไปจากที่นี่ซะ!!”
“ไม่ไปฉันไม่ไป ได้ยินไหมในนี่มีลูกของแฟนคุณอยู่ได้ยินไหม!!”
“ทอมฟังผมนะ ฟังผม ผมยังไม่รู้เลยว่าในนั้นเป็นลูกของผมจริงไหมอาจจะไม่ใช่ลูกของผมก็ได้อย่าไปฟังเขา ที่รักได้โปรดมองหน้าผม มองมาที่ผมและฟังผม เชื่อผมสิ”
“นี่นายหาว่าฉันส่ำส่อนหรือไง กล้าดียังไง!!! ยังไงงงงงง!!!!!!!”
เสียงตะโกนใส่กันของทั้ง 2 คนที่ดังข้ามตัวของเขาไปมามันไม่ต่างอะไรกับเสียงที่ทั้งสองคนกำลัง‘กรีดร้อง’ และระบายความไม่พอใจใส่กัน
ใช่ทั้งสองคนนั้นกำลังไม่พอใจทอมรู้แฟรงค์คงไม่พอใจที่ลิสจะมาพูดเรื่องนี้ตรงนี้ต่อหน้าเขาแฟรงค์เลยกรีดร้องใส่ลิสส่วนลิสเธอคงไม่พอใจที่แฟรงค์ไม่ยอมรับว่าเป็นพ่อของเด็กในท้องของเธอเธอจึงกำลังกรีดร้องและดวยวายใส่แฟรงค์
แล้วเขาละเขาที่ยืนอยู่ตรงนี้คนที่กำลังเจ็บปวดกับความจริงที่เพิ่งได้รู้ความจริงที่ว่าคนรักของเขาเคยไปนอกกายกับคนอื่นเคยทำอะไรที่ลับหลังเขาโดยที่ยังเรียกเขาว่าที่รักเขาสามารถไประบายหรือกรีดร้องความไม่เป็นธรรมนี้ได้ที่ไหนบ้าง?แล้วเสียงที่กรีดร้องดังที่อยู่ในใจของเขามีใครบ้างไหมที่อยากจะฟังมัน? แล้วทั้ง 2คนนี้จะมีใครรู้บ้างไหมว่าเขาเจ็บปวดหรือว่าไม่มีใครรู้เพียงเพราะเขาไม่ได้เปล่งเสียงนั้นออกมา
ติ๊ดๆๆๆๆๆ
เสียงนาฬิกาดังปลุกให้ทอมสะดุ้งตื่นในยามเช้าเป็นเช้าที่เขาไม่รู้สึกโกรธที่นาฬิกาส่งเสียงให้เขาตื่นจากฝัน ‘เขาคงเผลอฝันถึงเรื่องราวเก่าๆ สินะ’
เขารู้สึกถึงความเปียกชื้นที่ดวงตาเขาจึงเอาค่อยๆยกมือขึ้นมาแล้วปาดหยดน้ำที่เหลืออยู่ออกไปแต่ไม่ว่าเขาจะพยายามปาดมันเท่าไหร่หยดน้ำมันก็ไม่หมดไปเสียทีมันคอยที่จะเอ่อไหล่เพิ่มขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ
“โว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!”
ทอมพลิกตัวหันหน้าเข้ากับหมอนแล้วตะโกนอัดเสียงของตัวเองลงไปในนั้นพร้อมกับปล่อยให้น้ำตามันไหลโดยที่ไม่พยายามที่เช็ดมันอีกต่อไป
นี่เป็นครั้งแรกนับจากเหตุการณ์ในวันนั้นที่เขาได้ปลดปล่อยเป็นเสียง ‘กรีดร้อง’ เสียงที่บ่งบอกว่าเขาเจ็บปวดจากการถูกหักหลัง ว่าเขาที่อึดอัดเพราะพูดอะไรไม่ได้ออกมาโดยที่ไม่ต้องซ่อนเสียงเหล่านั้นเอาไว้ข้างในและแสดงออกมาว่าไม่เป็นไรแบบที่ผ่านมา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in